"หมอชลน่าน" ไม่ยืนยัน "ชัยเกษม" เป็นแคนดิเดตนายกฯคนที่ 3 พรรคเพื่อไทย บอกทุกชื่อมีโอกาสหมดยังกก.บห.ยังไม่สรุป แจง ไม่มีชื่อ "อุ๊งอิ๊งค์-เศรษฐา" ในบัญชีรายชื่อเพราะทั้งคู่ไม่ต้องการเป็นผู้แทน
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวเปิดชื่อว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่สามของพรรคเพื่อไทยซึ่งไม่มีชื่อนายแพทย์ชลน่าน อยู่ในนั้นด้วยว่า ก็เป็นเพียงรายงานข่าวในหน้าสื่อ ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยยังอยู่ระหว่างกระบวนการ จะต้องผ่านการประชุมกรรมการบริหารพรรค และตัวแทนสาขาพรรคตามข้อบังคับ หากไม่ผ่านขั้นตอนนี้ถือว่ายังไม่จบ คาดว่าไม่เกินวันที่ 4 เมษายนนี้ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและมีข้อสรุปออกมา โดยวันที่ 5 เมษายนก็จะมีการปราศรัยและน่าจะประกาศรายชื่อในวันนั้น พร้อมย้ำว่าส่วนข่าวที่ออกมาในช่วงนี้ก็เป็นแค่ข่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย เป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของพรรคเพื่อไทยนั้น นายแพทย์ชลน่านกล่าวถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ว่าหากยังไม่มีการนำรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุม ทุกคนมีโอกาสที่จะถูกเสนอชื่อซึ่งนายชัยเกษมก็เป็นคนที่เคยถูกเสนอชื่อและมีความรู้ความสามารถ
“หากยังไม่มีการนำรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุม ทุกคนมีโอกาสที่จะถูกเสนอชื่อซึ่งนายชัยเกษมก็เคยเป็นแคนดิเดตในปี 2562 เป็นคนที่ได้รับการเคารพเชื่อถือ มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่จะไม่มีรายชื่อ ถ้ามีการเสนอชื่อมา” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
ส่วนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์หนึ่งของพรรคหรือไม่นั้น นายแพทย์ชลน่านระบุว่าการประกาศว่าความสำคัญไม่ได้อยู่ที่การเรียงลำดับว่าใครเป็นเบอร์ 1 ,2 หรือ 3 เพราะทุกคนถูกเสนอชื่อเข้ามา มีศักดิ์และสิทธิ์เท่ากัน ซึ่ง 1 ใน 3 จะถูกหยิบขึ้นและนำเสนอสู่สภา ตรงนั้นถึงจะเป็นเบอร์หนึ่งที่แท้จริง
ส่วนกรณีที่เพื่อไทยเคยสนับสนุนว่านายกต้องมาจากการเป็น ส.ส. นายแพทย์ชลน่านยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญมาตรา 88 ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อบุคคลใดก็ได้ที่พรรคการเมืองรับรองและเจ้าตัวยอมรับไว้ในบัญชีพรรคการเมือง โดยไม่ระบุว่าจะเป็นสมาชิกพรรคหรือส.ส.หรือไม่ ซึ่งพรรคเห็นว่าเรื่องนี้เป็นข้อจำกัดจึงไปแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้ โดยเติมคำว่า หรือมาจาก ส.ส. ซึ่งสิ่งที่เขาเสนอมาพรรคก็ไม่ได้ปิดกั้น แต่เติมคำว่าหรือลงไป เป็นเจตนารมณ์ว่าพรรคอยากให้คนที่เป็นนายกมาจากประชาชน เพราะถ้าผ่านการเลือกตั้ง เข้าถึงจิตใจประชาชน จะสามารถแก้ปัญหาได้ถูกจุด แต่เมื่อการเสนอชื่อต้องมาจากพรรคและความสมัครใจของคนถูกเสนอชื่อ ทั้งนางสาวแพทองธาร และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประสงค์ที่จะมาช่วยงานแต่ไม่ประสงค์ที่จะเป็นผู้แทน จึงเป็นเงื่อนไขว่าหากได้รับการเสนอชื่อก็จะไม่ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ
"เป็นเจตนารมณ์ว่าพรรคอยากให้คนที่เป็นนายกมาจากประชาชน ถ้าผ่านการเลือกตั้งผ่านการอยู่ร่วมกับประชาชนจะมีความเข้าใจ ถ้าผู้บริหารสูงจุดเข้าถึงจิตใจประชาชน จะสามารถแก้ปัญหาได้ถูกจุด แต่เมื่อการเสนอชื่อต้องมาจากพรรคและความสมัครใจของคนถูกเสนอชื่อ หากเจ้าตัวไม่ยินยอมก็ไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อทั้งแคนดิเดตและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งต้องยอมรับว่าทั้ง 2 คนประสงค์ที่จะมาช่วยงานแต่ไม่ประสงค์ที่จะเป็นผู้แทน นี่จึงเป็นเงื่อนไขว่าหากได้รับการเสนอชื่อก็จะไม่ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ" นายแพทย์ชลน่าน ระบุ
นายแพทย์ชลน่านยังยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีดีลลับกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และหากต้องจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคอื่น ก็จะใช้จำนวน ส.ส.เป็นเกณฑ์แรกในการเลือกว่าจะจับมือกับพรรคใด และต้องดูแนวทางในการทำงานร่วมกันว่าไปด้วยกันได้หรือไม่ รวมถึงเงื่อนไขต่อรองในการทำงานร่วมกัน และที่สำคัญที่สุดคือหากประชาชนไม่สนับสนุนก็ร่วมไม่ได้ ทั้งนี้ไม่สามารถยืนยันได้ชัดว่าจะไม่จับมือพรรคใดบ้าง เพราะเคารพการตัดสินใจของประชาชน ให้ประชาชนได้มีสิทธิ์ตัดสินใจอย่างอิสระ เมื่อประชาชนมอบอำนาจให้แล้วจึงจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ยืนยันว่าอะไรที่ประชาชนไม่เห็นด้วยก็จะไม่ทำ เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นพรรคการเมืองของประชาชนไม่ได้