"ปราปต์ปฎล" เปิดจดหมายรัก "กู๋กี๋" หลังติดคุกคดี Forex-3D นาน 7 เดือน เผยความรู้สึกเจ็บปวดที่ภรรยาโดนด่าจากคนเข้าใจผิด
ยังคงมีความหวังเสมอ สำหรับนักแสดงหนุ่ม ปราปต์ปฎล หลังจากภรรยาอย่าง กู๋กี๋ ภคมน ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี Forex-3D จนต้องเข้าเรือนจำไปในระหว่างรอตัดสินคดี ปราปต์ยังคงไปเยี่ยมภรรยาอยู่เป็นประจำ
ล่าสุดปราปต์ปฎล ได้โพสต์ภาพคู่ภรรยา พร้อมเปิดจดหมายรักของกู๋กี๋ และโพสต์เผยความในใจแบบร่ายยาวว่า “วันนี้เป็นอีกวันปกติที่มาเยี่ยมผู้ภรร(ยา)ที่เรือนจำหญิงกลาง..เป็นวันปกติที่ดูครึกครื้นตื่นเต้นกันทั้งเรือนจำ ตั้งแต่ขับรถจอดและเดินลงจากรถมารับรู้โดยสัญชาตญาณว่าวันนี้มีบุคคลพิเศษสุดๆ มาเยี่ยมเรือนจำแน่ๆ และน่าจะไม่ใช่การเข้าชมงานปกติเหมือนครั้งก่อนๆ (ที่นี่เหมือนเป็นศูนย์รวมของการเรียนรู้ดูงาน) รับรู้จากสัมผัสที่เจ้าหน้าดูต้องเหนื่อยเพิ่มเนื่องจากรอบแรกญาติแน่นมารอเข้าคิวกันตั้งแต่หกโมงกว่าๆ ผมเองก็มาถึง 7 โมง เพื่อรอเข้าเยี่ยมรอบแรก 9 โมง เวลาที่เคยตามกำหนดถูกขยับเพราะความอลหม่าน ผู้ภรรผมซึ่งตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาป่วยแล้วป่วยอีกต้องถึกต้องทนกับอาการป่วยทั้งงูสวัดและตาอักเสบหนองแตกคาตา ไม่รวมถึงอาการป่วยขั้นพื้นฐานที่เกิดจากความแออัดและหลากหลายผู้คน ที่สุขภาพภูมิต้านทานที่แตกต่างกันไป อึดถึกทนถึงจะรอด นั่นคือเหตุผลอีกข้อที่ผมต้องคอยหมั่นไปดูอาการของเมียทุกวัน เพราะคนๆ นี้ไม่ชอบแสดงความอ่อนแอเกรงเราจะห่วงแล้วเป็นทุกข์ อยู่ข้างนอกด้วยกันป่วยบางทียังไม่บอกเลย วันนี้ผู้ภรรต้องเป็นตัวแทนแดนแรกรับทำหน้าที่นางรำเพื่อต้อนรับขบวนแขกที่มาเยือน ซึ่งผมทราบล่ะว่าขบวนที่เรือนจำเตรียมการต้อนรับคือขบวนของกระทรวงยุติธรรมนำขบวนโดยท่าน รมต.พร้อมคณะ(รมต.มาเองน่าจะตามมาทั้งคณะ) ท่านจะนำความหรรษามามอบให้ผู้ต้องขังด้วยการแสดงของ ร็อคอำพัน เพื่อเป็นการปลอบขวัญผู้ต้องขังในเรือนจำของท่าน ที่มีการแสดงหลากหลายไว้ต้อนรับ..หนึ่งในนั้นคือผู้ภรรผมเองครับ พณฯท่าน ข้างในคนเยอะและหลากหลาย จากประสบการณ์ที่เดินทางไปทำจิตอาสาในเรือนจำมาทั่วประเทศของผม..ระวังสุขภาพนะครับท่านแมสอย่าพยายามถอด แต่ความสะอาดของตัวเรือนจำไม่ต้องกังวล ผมเห็นน้องๆ ผู้ต้องขังกวาดล้างพื้นกันสะอาดตั้งแต่ลานจอดรถไว้รอท่านล่ะ..ถ้าเห็นนางรำแดนแรกรับหน้าตาดีๆ รำสวยๆ นั่นล่ะผู้ภรรผมเอง..ฝากยิ้มทักทายด้วยครับเพราะผมทำได้แค่เยี่ยมผ่านกรงขังและกระจกหนามา 7 เดือนล่ะ ผมบอกผู้ภรรไปล่ะว่าถ้าได้สบตาพวกท่านให้ยิ้มหวานๆ เข้าไว้ น้องๆ ในเรือนจำทราบว่าท่านจะมาเที่ยงๆ บ่ายๆ ทุกคนตั้งขบวนรอกันตั้งแต่เก้าโมงละครับ ตื่นเต้นกันใหญ่จะได้เจอ รมต.”
และก็ยังโพสต์ต่ออีกว่า “นอกจากไปเยี่ยมกันผ่านลูกกรงและกระจกใสๆ ที่ทำได้คือเห็นหน้าและคุยผ่านสาย ก็นี่แหล่ะที่น้องเค้าอยากได้มากๆ คือจดหมาย ในยามที่ท้อ เหนื่อยทุกข์กายทรมานใจที่ต้องถูกคุมขังเพื่อรอการตัดสินมาเกิน 7 เดือน จดหมายที่เก็บไว้ติดกายในยามต้องการกำลังใจก็จะหยิบขึ้นมาอ่าน น้องอ่านได้เห็นรูปที่ส่งไปแล้วเรือนจำปริ้นซ์ให้ แต่ถ้าส่งออกมาได้แค่ตัวหนังสือ ไม่สามารถส่งรูปได้ กำลังใจที่ผมต่อสู้คือทัศนคติที่ดีของน้อง แม้อยู่ข้างในทุกข์ทรมานแค่ไหน แต่ทุกตัวหนังสือของน้องเต็มไปด้วยพลังบวกที่ส่งต่อมาให้ผมเสมอ..ผมรู้ว่ามีหลายคนที่รู้จักน้องและรักน้อง และอ่านตรงนี้แล้วย่อมรู้ว่านี่แหล่ะคือตัวตนน้อง..แต่หลายคนที่ไม่เคยรู้จักตัวตนน้อง อ่านแต่ข่าว ฟังแต่คนที่พูดถึงแบบที่ไม่รู้จักน้องเลย และกร่นด่าน้องที่ไม่มีโอกาสได้อธิบายความเข้าใจที่ผิดๆ คุณรู้มั้ย ผมเจ็บปวดแค่ไหน แล้วน้องก็ไม่เคยโกรธคนที่ด่าน้อง แล้วไม่คิดจะแก้ตัว และนี่แหล่ะคือเหตุผลที่ผมยิ่งรักน้องเพิ่มขึ้นทุกวัน”