รวบแล้วมือฆ่าชิงทอง คนก่อเหตุที่แท้เป็นเพื่อนสนิท วงจรปิดมัดนาทีลากศพทิ้งแม่น้ำอำพราง
จากการกรณีพบศพหญิงถูกตีด้วยของแข็ง และถูกแทงด้วยของมีดคม ก่อนนำทิ้งแม่น้ำ เหตุเกิดในพื้นที่ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร
ล่าสุด พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ ศรีสุวรรณ์ ผกก.สภ.พะโต๊ะ พร้อมด้วยชุดสืบสวน คุมตัวนางบุญพา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา มาชี้จุดเกิดเหตุที่บ้านเช่าของตัวเอง ซึงงเป็นสถานที่ลวงนางสาวชฎาทิพย์ มาทำร้ายและฟันจนเสียชีวิต ก่อนนำร่างใส่กระบะทิ้งศพที่สะพานบ้านตรังพัฒนา
ในเบื้องต้นผู้ก่อเหตุสารภาพเพียงว่าได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุผู้ก่อเหตุยังไม่ปริปากใดๆ
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ว่าจะก่อเหตุเพียงลำพัง ซึ่งจะเค้นสอบหารายละเอียดและมูลเหตุในการก่อคดีต่อไป
ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิด จากเพื่อนบ้าน ซึ่งบันทึกช่วงนาทีที่นางบุญพากำลังก่อเหตุ นำร่างนางสาวชฎาทิพย์ออกจากห้องเช่า เพื่อนำไปทิ้งอำพรางคดี
โดยผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองพร้อมภรรยากำลังพักผ่อนในบ้าน ปรากฏว่าเวลาประมาณ 20.00 น. ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องเสียงดัง มาทางห้องแถวให้เช่าจำนวน 5 ห้อง จึงเดินออกไปดูและสอบถามตามห้องต่างๆว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งได้รับคำตอบจากนางบุญภา ว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นตนเองได้คุยโทรศัพท์และเกิดทะเลาะกับพ่อของลูก ส่วนเสียงดังนั้นเด็กกำลังเล่นอยู่ในบ้าน และบอกว่าไม่มีอะไร จึงเดินกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้ โดยไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจริงและมาทราบภายหลังว่านางบุญภา ก่อเหตุฆ่าคนตายเมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบพื้นที่
โดยได้มอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึก ภาพของนางบุญภาได้ขับรถกระบะเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านเมื่อเวลา 19.00 น.ก่อนจะลงจากรถพร้อมหิ้วขวดเบียร์และมีนางสาวชฎาทิพย์ผู้ตายเปิดประตูลงมาด้านซ้ายมือโดยมีเด็กชายเอ อายุ 11 ปีซึ่งเป็นลูกชายของนางบุญพาลงตามมาด้วย ก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้านไปทั้งหมด 3 คน
ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวต่ออีกว่าหลังจากนั้นเวลาประมาณ 20.40 น.ปรากฎภาพภรรยาของตนเองและผู้เช่าบ้านได้ออกมาบริเวณหน้าบ้านและได้สอบถาม ซึ่งเป็นเวลาที่ทุกคนได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากห้องนางบุญพาแล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกลับเข้าห้องของตนเอง ต่อมาเวลา 21.00 น.นางบุญภาและลูกชายได้เปิดประตูซึ่งเป็นลักษณะประตูบานม้วนได้เปิดแง้มขึ้นไปเล็กน้อยก่อนทั้งคู่จะก้มมุดออกมาด้านหน้าลักษณะเดินดูตามห้องต่างๆว่ามีใครอยู่บ้างโดยเข้าออก 2-3 ครั้ง เมื่อมั่นใจว่าทุกห้องปิดประตูบ้านเข้าบ้านกันหมดนางบุญภาจึงได้ปิดไฟหน้าบ้านเพียงไม่ถึง 2 นาทีก็ปรากฏภาพนางบุญภาก้มมุดออกมาจากในบ้านอีกครั้งลักษณะคล้ายกับกำลังลากสิ่งของออกมา ไปทางฝั่งด้ายซ้ายของตัวรถก่อนที่จะเดินย้อนกลับมาขึ้นรถด้านคนขับ แล้วขับรถออกจากบ้านโดยมีลูกชายของนางบุญภานั่งไปด้วย
ผู้เห็นเหตุการณ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับนางบุญพาเพิ่งเข้ามาเช่าบ้านเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนนางชฎาทิพย์ตนเองก็เคยเห็นมาที่บ้านเช่าก่อนหน้านี้ 1 ครั้ง และลูกชายทราบว่าเพิ่งมาอยู่ได้ไม่กี่วันและมีเหตุเกิดขึ้นดังกล่าว
ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายโมงวันนี้ (30 มี.ค.) ที่วัดแหลมทราย ครอบครัวได้นำร่างของนางสาวชฎาทิพย์ มาบำเพ็ญกุศลที่วัด ทันทีที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างมาถึง ครอบครัวต่างร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ และระหว่างนั้น นางสมคิด แม่ของผู้ตาย จู่ๆ ก็ได้เป็นลมล้มไปกับพื้น ญาติๆต้องช่วยกันประคอง และใส่เปลแบกไปปฐมพยาบาล เราไปดูบรรยากาศช่วงนั้นกันก่อน
ทีมข่าวของเราได้พูดคุยกับ นางสาวจิราภรณ์ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เล่าให้ทีมข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า นางบุญพา เป็นเพื่อนสนิทของคุณแม่ มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันมาตลอด ช่วงวันที่เกิดเหตุ 26 มีนาคม ที่แม่ไปกับนางบุญพา บอกกับตนเองว่า จะออกไปเที่ยว แต่หลังจากนั้น ก็ติดต่อแม่ไม่ได้อีกเลย จึงพยายามออกตามหา จนมาทราบว่า แม่ถูกทิ้งเป็นศพในแม่น้ำ
ตอนนั้นตนเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่า นางบุญพา ผู้ก่อเหตุจะเป็นผู้ลงมือฆ่า เพราะทั้งสองคนสนิทกันมาก และในวันเกิดเหตุ นางบุญพา ยังสร้างเรื่องแกล้งเป็นคนพายายของตนเอง (แม่คนตาย) ไปแจ้งความกับตำรวจอยู่เลยในช่วงเช้าวันที่ 27 มีนาคม
รวมถึงญาติส่งข้อความไปหานางบุญพา ก็หลอกว่า ได้ขับรถพาแม่ของตนเองไปส่งบ้านแล้ว บอกว่า แม่ตนเองหนีไปกับผู้ชายแล้ว ซึ่งนางบุญพาตีหน้าซื่อ และเลือดเย็นมาก ทำให้ตนเองรับไม่ได้กับพฤติกรรมและขอให้ตำรวจลงโทษให้ประหารชีวิตไปได้ยิ่งดี เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต
นอกจากนี้ลูกสาวผู้ตาย ยังบอกต่อว่า เมื่อคืนนี้ แม่ของตนเองยังมาเข้าฝันในฝัน แม่ได้มายืนร้องไห้อยู่หน้าบ้าน และพูดชื่อ นางบุญพา และลูกชายชัดเจนว่า เป็นคนฆ่าแม่ของตนเอง แม่ยังบอกอีกว่า “แม่หนาวมาก และเจ็บปวด” ซึ่งตนเองเป็นลูก เจ็บปวดมากที่แม่ต้องมาตายอย่างทรมานแบบนี้