ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือเด็กชายวัย 14 ปี หลังพ่อนักดนตรีป่วยเป็นมะเร็งต้องต้มบะหมี่กินทุกวัน ยอดบริจาค 363,987 บาท
จากกรณีผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบภายในคอนโด ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งจากผู้พักอาศัยภายในคอนโดแห่งนี้ว่า มีเด็กชายวัย 14 ปี พักอาศัยอยู่ภายในห้องเพียงคนเดียว แต่ละวันต้องต้มบะหมี่กิน บางครั้งก็ลงไปยังชั้นล่างของคอนโด ซึ่งเป็นร้านขายของชำ เพื่อขอเครดิต เซ็นสินค้าจำพวกข้าวสาร อาหารแห้งรวมทั้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาต้มกินประทังชีวิตสร้างความสลดหดหู่ใจให้กับผู้พักอาศัยในคอนโดแห่งนี้
โดยเด็กชายคุณากร หรือน้องเอ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม. 2 โรงเรียนศรีบุณยานนท์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนกับคุณพ่อคือนายบุญถม พักอาศัยอยู่ที่ห้องแห่งนี้มานานหลายสิบปีแล้วโดยคุณพ่อเป็นนักดนตรีเล่นเปียโนอยู่ในโรงแรมนนทบุรีพาเลซ ชีวิตครอบครัวแยกกับคุณแม่ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ลำบากอะไร คุณพ่อหาเลี้ยงตัวเองและตนเอง มาตลอด จะมีก็ช่วงที่อดมื้อกินมื้อในสถานการณ์โควิด 19 ทำให้คุณพ่อตกงานเป็นปีๆ
จนกระทั่งก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่เดือนคุณพ่อตรวจพบเป็นโรคมะเร็งตับ มีทั้งเบาหวาน ความดัน ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในเครือศูนย์มะเร็งแห่งชาติ ทำให้ตนเองต้องอยู่อาศัยในห้องคนเดียว โดยก่อนพ่อจะไปโรงพยาบาลให้เงินตนไว้ 1,000 บาท และก็ได้นอนติดเตียงอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว 45 วัน ตนก็ต้องช่วยตนเอง เพราะชีวิตเลือกเกิดไม่ได้ แต่ก็จะสู้ให้ถึงที่สุด ตอนนี้ก็ค้างค่าเช่าห้องมา 4 เดือนแล้ว โชคดีเจ้าของห้องยังสงสารและให้อยู่ต่อ ส่วนผลการเรียนของตนนั้นได้เกรดเฉลี่ย 3.05 อีกทั้งตนยังเป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียนด้วย
ขณะที่ ลุงชม เจ้าของร้านขายของชำใต้ถุนคอนโดเปิดเผยว่า ตนรู้จักและสนิทสนมกับพ่อของน้องเอมานานหลายปี ทราบปัญหาชีวิตครอบครัวของเขามาตลอด มาทราบว่าพ่อน้องเอเข้าโรงพยาบาลเพราะต้องรักษาโรคมะเร็งตับและยังนอนติดเตียงอยู่ส่วนลูกชายก็มาที่ร้านของตนประจำ มาเอาของใช้ของกินเช่นข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่เว้นแม้กระทั่งสบู่ยาสีฟัน ไปใช้ในห้องโดยไม่มี เงินจ่ายให้ตน ตนจึงให้เครดิตไว้ก่อนซึ่งตอนนี้ก็เป็นหนี้ตนแล้วเกือบ 10,000 บาท ตนก็สงสารไม่รู้จะทำอย่างไรก็ช่วยไปกัน ตามที่จะช่วยได้ และ ก็ยืนยันว่ายังจะช่วยน้องต่อไปแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาหากพ่อของเขาทำงานได้ก็จะนำเงินมาทยอยใช้หนี้ให้กับตนเสมอ "ตนคิดว่าการช่วยเหลือเด็กคนนี้ก็เหมือนเป็นการสร้างบุญสร้างกุศล ถึงแม้มันจะเป็นเพียงน้อยนิดก็ตาม"
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้เมื่อเวลา 17.00 น นางสาววาสนา ทองสม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยนางสาวนวรัตน์ สักโชตินนท์ ผู้อำนวย การศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่จากพม. จังหวัดนนทบุรี นำเข้าสารอาหารแห้ง และเครื่องอุปโภคบริโภคมากมายหลายชนิด มามอบให้กับน้องเอ ยังบริเวณที่พัก พร้อมทั้งสอบถามเรื่องราวอย่างละเอียด ในเบื้องต้น และจะเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงเพื่อพิจารณา หาทางช่วยเหลือ ทั้งในด้านการศึกษา การรักษาพยาบาล ตามระเบียบของกระทรวงพม. ที่จะช่วยเหลือได้ โดยทางคณะเจ้าหน้าที่ได้บอกกับน้องเอว่า หากติดขัดปัญหาเรื่องใด โดยเฉพาะในด้านอาหารการกิน หรือว่าเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ทันที
นอกจากนักสังคมสงเคราะห์และ คณะเจ้าหน้าที่จากกระทรวง พม. ที่นำสิ่งของมามอบให้แล้ว ยังมีนักจิตวิทยา เข้ามาสอบถามความรู้สึก และสภาพจิตใจของน้องเอ เบื้องต้นพบว่า น้องเอยังมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่มีความวิตกกังวลใดๆ ทางคณะเจ้าหน้าที่ที่มาทั้งหมดรวมทั้ง นักจิตวิทยาได้ให้รายละเอียดเบอร์ติดต่อ กับน้องเอเอาไว้หากติดขัดหรือว่ามีปัญหาในด้านใดๆทุกด้าน ให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที
สำหรับยอดผู้ใจบุญที่ช่วยเหลือในวันนี้พบว่ามียอดบริจาคเข้ามาเป็นเงินจำนวน 363,989 บาท โดยผู้ที่ยังต้องการช่วยเหลือ น้องเอ เด็กนักเรียนๆดีแต่ยากจนรายนี้ ยัง สามารถบริจาคเครื่องอุปโภค-บริโภค หรือจะช่วยเหลือบริจาคเงิน สามารถช่วยได้โดยตรงที่บัญชีเด็กชายคุณากร พรมรินทร์ ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020169317771