แชร์สนั่นโซเชียล เมื่อเมียจับได้ผัวโกหก อ้างถูกตำรวจยัดยาบ้า และเรียกรับเงินกว่า 30,000 บาท ที่แท้ยืมเงินผัวไปจ่ายเงินกู้นอกระบบ สุดท้ายสั่งกราบเท้า ประเคนทั้งหมัดทั้งเตะผัวไม่ยั้ง ล่าสุดลงโทษด้วยการเซ็นใบหย่า หากจะคืนดี ต้องเอาเงิน 1 ล้านมาแลก

แชร์สนั่นโซเชียล คลิป ภรรยา และสามีโต้เถียงกัน โดยสามีสารภาพว่า ไปกู้เงินมา แล้วไม่มีจ่าย จึงกุเรื่องโกหกภรรยา ว่า ถูกตำรวจยัดยาบ้า เรียกรับเงิน เมื่อภรรยา ทราบโมโห จึงประเคนทั้งหมัด ทั้งเท้าใส่สามีไม่ยั้ง โดยก่อนจะเป็นคลิปนี้ เรื่องของเรื่องคือ สามี ได้มาเล่าเรื่องราวบอกเมียว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อข้าว เวลาประมาณ 17.00 น. ได้มีตำรวจตั้งด่านแถวๆ สะพานพระราม 7 และเรียกให้จอดรถ จากนั้นตำรวจได้เปิดใต้เบาะรถ และค้นเจอยาบ้า 12 เม็ด ใส่หลอดเรียงกันอย่างดี ซึ่งได้ปฏิเสธไม่รู้เรื่อง แต่ตำรวจไม่เชื่อ เรียกเงิน 70,000 บาท

จากนั้นได้บอกกับตำรวจขอลดได้ไหม เพราะไม่มีเงิน ตำรวจบอกลดให้เหลือ 50,000 บาท ก็บอกไม่มีเงิน ขอต่อลงอีก สุดท้ายลดให้เหลือ 38,000 บาท แต่ต้องโอนมาวันนั้น และเดี๋ยวนั้นเลย จึงไปโทรยืมเงินเพื่อนให้โอนมาให้ และโอนให้กับตำรวจอีกที ซึ่งกว่าจะเคลียร์เสร็จ อยู่ตรงนั้นถึง 20.00 น. และตำรวจสั่งให้ลบสลิปที่โอนให้ทิ้งทั้งหมด และยังขู่ว่าถ้าไม่ลบจะถูกดำเนินคดี เมียจึงเอาคลิปนี้ โพสต์ลงโซเชียล พร้อมระบุว่า ครอบครัวทำงานสุจริต ไม่เคยไปยุ่งกับยาเสพติด เลยไม่รู้ว่าใครเอายาไปซ่อนใต้เบาะ แต่กลับต้องเสียเงินให้กับตำรวจ อยากหาทนายเก่ง ๆ มาช่วยคดีนี้

แต่สุดท้ายเรื่องราวกลับตาลปัตร เมื่อเมียจับ ได้หลังมีเจ้าหนี้โทรมาทวงเงินที่ผัวกู้ไป จนรู้ว่า เรื่องทั้งหมดทั้งมวล เป็นเรื่องที่ผัวโกหกขึ้นมา จนกระทั่งได้มี คลิปภาพ ความโหดร้ายของเมีย ที่กระทืบ ผัว จนดังกระฉ่อนไปชั่วข้ามคืน

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านหลังเกิดเหตุที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยโขดหิน-เขาไผ่ เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด จ.ระยอง พบ น.ส.เมย์ (นามสมมุติ) และ นายเอก (นามสมมุติ) สองผัวเมียที่ปรากฏในคลิป โดยทั้งสองได้ขอชี้แจงในเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทั้งหมดทั้งมวล เกิดจากที่ เมย์จับได้ว่าตัวนายเอก ผู้เป็นสามีนั้นโกหกด้วยความโกรธ จึงลงมือไปไม่ยั้งคิด

 

 

ทั้ง 2 ยืนยันว่า สิ่งที่เห็นความรุนแรงนั้นมีมาตลอด 15 ปี ที่อยู่ด้วยกันมาแต่ครั้งนี้ ก็เหมือนอย่างเช่นทุกครั้ง ซึ่งพอได้ยินผัวโกหกในครั้งแรกว่า ถูกจับเรื่องยาจึงโกรธ และโมโหมากยิ่งขึ้นกว่าครั้งก่อน จึงลงมือไปและที่สำคัญคือ ลูกชายทราบเรื่องจึงโกรธมากขึ้นไปอีก

ด้านนายเอก ยอมรับว่าโกหกไปก็ด้วยรัก จริง ๆ ถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบติดตามทวงหนี้ ทำให้หาทางออกไม่ได้ จากนั้นจึงโทรศัพท์หาเพื่อน 3 คน ขอยืมเงินรวมกันได้ 30,000 บาท และโอนเข้าบัญชีให้กับแก๊งเงินกู้ จากนั้นก็ขับรถยนต์มาหาภรรยา ที่ จ.ระยอง ซึ่งเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่นี่ ขณะนี้ก็ได้ถูกลงโทษ ด้วยการเซ็นใบหย่า โดยมีข้อแม้ว่าหากจะกลับมาคืนดี ต้องหาเงินสดจำนวน 1 ล้านบาทมาให้เมีย เมียถึงจะคืนดี

 

 

นอกจากนี้ทั้ง 2 คน ฝากชี้แจง ถึงกรณีที่ บางเพจนำข้อมูล อันเป็นเท็จ ไปลง ว่าตนเองได้เข้าไปแจ้งความที่ สน. บางพลัด แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ไปแจ้งความใด ๆ เลย ซึ่ง ณ ตอนนี้มีความวิตกกังวลมากด้วย เพราะตำรวจ สน.บางพลัดได้ติดต่อมาให้ไปสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากที่โกหกเมียแล้วนำไปโพสต์โซเชียลจนดังในชั่วข้ามคืน จนมาสู่ความเดือดร้อน ที่ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น หลังตำรวจทำการสอบสวน