เคลียร์ชัด !! "อภิสิทธิ์ " เฉลย 4 ปีหายไปไหน รับคุยเรื่องหวนคืนการเมืองกับ "จุรินทร์" จริง! ยืนยันคนแห่ลาออกจากพรรคเพราะ "ไม่มีความสุข"
หลังจากห่างหายจากหน้าสื่อมวลชนไปนาน ก็ได้ออกมาช่วยคนในพรรคประชาธิปัตย์ออกหาเสียง สังคมเลยเกิดตั้งคำถามว่าอดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเดินกลับมาลงเล่นการเมืองหรือไม่ รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” แฟนๆสามารถรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง8 https://youtu.be/YNoxJ7wtM3w เท่านั้น
ก่อนหน้านี้ท่านหายไปพักนึง ท่านหายไปไหนมาคะ?
ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ จริงๆก็ 4 ปีที่แล้ว เมื่อเป็นหัวหน้าพรรค นำพรรคเข้าสู่การเลือกตั้ง ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ เราก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ ลาออกจากหัวหน้าพรรค หลังจากนั้นมา พรรคตัดสินใจไปร่วมรัฐบาล ซึ่งขัดกับสิ่งที่เราเคยพูดกับประชาชนไว้ เราก็ต้องรับผิดชอบ จึงลาออกจาก ส.ส. แล้ว 3-4 ปีที่ผ่านมาก็มีเรื่องโควิดเข้ามาก็เป็นเรื่องธรรมดานะครับ บทบาทไม่ได้มีทางการเมือง แต่ก็ยังไปร่วมบรรยาย สัมมนาทางวิชาการครับ
เดี๊ยนทราบว่า ช่วงหลังๆท่านไม่ค่อยได้ไปไหน ท่านห่วงแมว ท่านเปิดฟาร์มแมวเหรอคะ มีกี่ตัว?
ผมไม่ได้เปิดครับ พอดีลูกสาวเขาเป็นทาสแมว ผมก็ต้องเป็นทาสของทาสแมวครับ ก็เลยช่วยดูแลบ้าง แต่จริงๆแล้วเป็นของลูกสาว บังเอิญมันเยอะหน่อย มี 27 ตัวครับ เป็นพันธุ์ scottish fold ที่หูพับ(ยิ้ม)
เดี๊ยนเห็นท่านกลับมาในแวดวงการเมือง ท่านจะกลับมาช่วยพรรคประชาธิปัตย์ ของท่านจุรินทร์ใช่ไหมคะ?
คือได้คุยกันแล้วนะครับ เพราะว่าท่านหัวหน้าพรรคก็มาบอกว่าผมก็เป็นอดีตหัวหน้าพรรค เป็นสมาชิกพรรค ก็อยากจะถามว่า จะลงสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อไหม เพราะว่าก็มีอดีตหัวหน้าพรรคท่านอื่น ท่านอดีตนายกฯชวน ท่านอดีตหัวหน้าบัญญัติก็ลงสมัคร ก็ได้คุยกัน ผมก็บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ต้องกังวลกับตัวผมหรอก ผมไม่ได้ไปไหน ผมเป็นสมาชิกพรรค มีหน้าที่ก็ต้องสนับสนุนพรรค แต่ก็ต้องพูดกันตรงๆ ว่าแนวคิดอ่านทางการเมืองกับพรรค บางเรื่องมันก็ไม่ค่อยกลมกลืนเสียทีเดียว ถ้าผมไปลงสมัคร ส.ส.เนี่ย เดี๋ยวประชาชนจะสับสน เกี่ยวกับทิศทางของพรรค เพราะว่าทิศทางของพรรค ต้องถูกกำหนดโดยผู้บริหารพรรค ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของสมาชิก ผมก็บอกลงตัวที่สุดผมก็ช่วย แต่ไม่จำเป็นต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็ตกลงกันอย่างนั้น ที่เขาจะไปสมัครกันก็จะไม่มีชื่อผม แต่ว่าที่ผ่านมาก็ได้มีโอกาสไปช่วยหาเสียงบ้างแล้วนะครับ
ล่าสุดเห็นบอกว่า ท่านเคยแสดงออกความคิดเห็น 3 ป. ไม่มีทางจะกลับมาร่วมกันได้อีก เพราะว่าพรรคเพื่อไทย กับพรรคพลังประชารัฐ ถ้าเขาไปจับมือกัน ลุงตู่จะไปอยู่ตรงไหน จริงไหมคะ?
การกลับมาของพลเอกประยุทธ์ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เนื่องจากว่า เราประเมินจากการสำรวจความนิยมจากโพลต่างๆที่น่าเชื่อถือ เราดูผลจากการเลือกตั้ง พอฟังเสียงต่างๆ ก็ยอมรับว่าเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว คะแนนของรัฐบาลไหลไปอยู่กับฝ่ายค้าน ก็พอสมควร ซึ่งถ้าดูจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ตอนที่พลเอกประยุทธ์ได้รับเลือกจากสภา ท่านก็ได้ครึ่งนึงพอดีเลย 250 นั่นคือกับระบบเลือกตั้งเดิมด้วย กระแสแบบเดิมด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้เริ่มต้นเนี่ย สิ่งแรกที่เป็นเรื่องยากทำอย่างไรจะรักษาให้เกิน 250 ในซีกรัฐบาล อันที่ 2 สมมติว่าได้ ตอนนี้เขาก็เกร็งกันว่าในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเนี่ย พรรคของท่านไม่น่าเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดอีก ก็จะเกิดคำถามว่าแล้วหัวหน้าพรรคที่เขาใหญ่กว่า เขาจะยอมไหม
ส่วนเพื่อไทย พลังประชารัฐ มันเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง เรามองเห็นว่า พลเอกประวิตร ตัดสินใจในการที่จะทำการเมืองโดยอยู่คนละพรรคกับพลเอกประยุทธ์แล้วเนี่ย แล้วก็ดูท่าทีจากการแสดงออกเรื่องอยากจะก้าวข้ามความขัดแย้ง มันก็เห็นได้ชัดว่า พลเอกประวิตร กับพรรคพลังประชารัฐเขากำลังสร้างทางเลือกให้กับตัวเองว่า ไม่ได้ผูกติดกับขั้วเดียวเหมือนเดิมนะ สามารถที่จะทำงานอีกขั้วได้ ประจวบเหมาะกับพรรคเพื่อไทย เขาก็มีโจทย์ของเขาอยู่ โจทย์ของเขาก็คือว่า ถึงแม้จะมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งมาอันดับ 1 บางทีอาจจะเกินครึ่งด้วยซ้ำ แต่กติกาบ้านเมืองไปบอกว่าเขาต้องได้ 375 ถึงจะมีนายกได้ มันก็เลยมีข่าวว่าจะเล็งไปที่พลเอกประวิตรหรือเปล่า
อันนี้คือสิ่งที่ท่านเคยเตือนถ้าคุณอุ๊งอิ๊งค์แลนด์สไลด์เข้ามาเนี่ย ก็อย่าให้เป็นแบบวันนั้นอีก?
คือเราก็ไม่อยากให้บ้านเมืองกลับไปสู่จุดนั้นอีก แต่ความคิดก็เลยมีว่า ถ้าอย่างนั้นมันต้องมีการประนีประนอมบางอย่างหรือเปล่า ก็เลยทำให้พูดกันมากกว่า หรือพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นแนวร่วมกันได้ ซึ่งถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใคร ปฏิเสธแบบเด็ดขาด
เดี๊ยนทราบว่าตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ป่วยหนัก มีแผลฉกรรจ์ เลือดไหลออกจากตัวเยอะแยะไปหมดเลย ไปสังกัดพรรคอื่นๆ เกิดอะไรขึ้นคะ?
คือเราต้องยอมรับนะครับเรื่องเลือกตั้งทุกครั้ง ก็จะมีปรากฎการณ์ของ ส.ส.ที่ย้ายบ้าน ซึ่งเหตุผลก็แตกต่างกันไป ผมก็มองว่าส่วนหนึ่ง จริงๆก็ไม่เกินความคาดหมายที่เคยบอกกับเพื่อนๆในพรรคเอาไว้ เวลาเราไปร่วมรัฐบาลเนี่ย โดยเฉพาะที่ผ่านมาร่วมรัฐบาลกับพลเอกประยุทธ์ ถึงจุดนึงพอพลเอกประยุทธ์มีพรรคการเมือง หรืออยากจะสร้างฐานการเมืองของตัวเอง ก็คงจะมาดึงคนของเราไป ทีนี้ในพรรคบางคนก็อาจจะมองว่า โอกาสของตัวเองไปอยู่กับพลเอกประยุทธ์น่าจะดีกว่า หรือปกติธรรมดาของคนที่อยู่ร่วมกัน บางคนบอกไม่ค่อยสบายใจที่จะอยู่ที่นี่อะไรต่างๆ เหล่านี้
แต่ท่านคะ เขาก็มองว่าพรรคประชาธิปัตย์ภายในมีการแตกแยก เขาคิดว่าอยู่ไปก็แพแตก เขาก็เลยไปกันไม่รู้ว่าอันนี้จริงเท็จ?
คือผมไม่ได้ฟังว่ามันเป็นเรื่องของความขัดแย้งอย่างนั้นนะครับ แต่ว่ายอมรับว่ามีสมาชิกหลายคนที่ออกไป จะใช้คำนี้ครับ “ไม่มีความสุข” ที่อยู่ที่เดิม และก็อธิบายเหตุผลอะไรต่างๆ ซึ่งผมก็พอเข้าใจ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เราก็เข้าใจในองค์กร ก็เสียดายหลายๆคน เพราะว่าเคยร่วมงานกันมาแล้วก็ ผมก็เคยใช้คำว่าอีกหลายๆคนก็ใช้คำว่า “ใจหาย” กัน เพราะว่าเที่ยวนี้คนที่ออกไปคือ ดูหน้าดูตาแล้วมันเป็นประชาธิปัตย์มาก
สุดท้ายในรายการยังมีอีกหลายประเด็นดังที่สังคมอยากรู้ และต้องการได้ยินคำตอบร้อนแรงอีกมากมาย แฟนๆสามารถติดตามได้ที่รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 16.00 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 และรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น!