พระวิสิทธิ์ เข้าแจ้งความแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีมีผู้ไม่หวังดีนำคลิปวงจรปิดขณะเดินเข้าโรงแรมไปโยงว่านัดสีกา แจงเข้าพักขณะรับกิจนิมนต์เป็นวิทยากร
วันที่ 4 เมษายน 2566 พระวิสิทธิ์ อายุ 45 ปี พร้อมทนายความ นำเอกสารหลักฐานคลิปภาพวงจรปิด และข่าวที่้เผยแพร่ตามสื่อต่างๆ เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เพื่อเอาผิดกับกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีนำคลิปวงจรปิดที่พระวิสิทธิ์ เดินเข้าไปในโรงแรม ซึ่งเป็นการเข้าพักขณะรับกิจนิมนต์เป็นวิทยากรในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งในคลิปปรากฏภาพของสีกาเดินกางร่มเข้าไปในโรงแรม หลังพระวิสิทธิ์เดินเข้าไปภายในห้องพัก ก่อนจะเชื่อมโยงว่า เป็นการนัดแนะให้สีกาไปหาที่ม่านรูด
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 แต่ภายหลังมีบางสื่อที่นำคลิปภาพดังกล่าวไปเผยแพร่ โดยระบุว่า พระวิสิทธิ์ที่ปรากฏในคลิปพาสีกาเข้าโรงแรมจนสร้างความเสียหายให้กับพระวิสิทธิ์ และพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก
พระวิสิทธิ์ เปิดเผยว่า การเดินทางมาแจ้งความวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจต่อสังคม และจะมาพึ่งพากระบวนการยุติธรรมเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับตนเอง โดยวันที่เกิดเหตุตามคลิป พระวิสิทธิ์ได้รับหนังสือนิมนต์ให้ไปเป็นวิทยากร และทางผู้เชิญได้นิมนต์ให้พักที่โรงแรมดังกล่าว แต่ภายหลังกลับมีการนำภาพวงจรปิดของโรงแรมมาเผยแพร่ในทางที่มิถูกมิควร ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงจนได้รบความเสียหาย
ด้าน พ.ต.ท. ไกรลาส สุวีระ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.ช้างเผือก กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องและหลักฐานไว้ตรวจสอบแล้ว และจะเร่งพิจารณาพยานหลักฐานว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ใดได้บ้าง และจะดำเนินคดีในข้อหาใด ทุกอย่างต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน
ส่วนทนายความ ของพระวิสิทธิ์ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า เรื่องที่ถูกนำมาเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ นั้นไม่เป็นความจริง พระวิสุทธิ์มีหลักฐานทุกอย่าง ทั้งเอกสารขอความอนุเคราะห์เป็นวิทยากร โดยก่อนจะมีผู้ไม่หวังดีนำคลิปไปร้องเรียนกับสื่อ ก็นำคลิปไปเผยแพร่ในกลุ่มไลน์และเฟซบุ๊กมาก่อนแล้ว พระวิสุทธิ์จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ส่วนวันนี้กำลังดูอยู่ว่าจะแจ้งความข้อหาอะไรบ้างกับผู้ไม่หวังดี และสื่อที่นำข่าวดังกล่าวไปเผยแพร่ออกอากาศ รวมถึงบัญชีผู้ใช้ติ๊กต็อกที่นำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ด้วย