กล้องวงจรปิดจับภาพ รถจักรยานยนต์ขับมาปกติ จู่ๆวูบ คุมรถไม่ได้รถเสียหลักข้ามเลน ชนประสานงานกับรถกระบะ คนขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต
เที่ยงของวานนี้ (4 เมษายน 2566) กู้ภัยปลวกแดงรุดลงพื้นที่ ซอยห้างแก้ว ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง หลังชาวบ้านแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นชาย 1 รายอยู่ในจุดเกิดเหตุ
พอกู้ภัยถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะสีน้ำเงินทะเบียนเพชรบูรณ์ด้านหน้ามีรอยชนจนยุบ ห่างจากรถกระบะไป 10 เมตร พบรถจักรยายนต์สีน้ำเงิน ทะเบียนระยองล้มคว่ำอยู่กลางถนนข้างๆรถพบคนขี่ชื่อนายอนุพงษ์ อายุ 30 ปี
เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ นอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ที่พื้นถนน ช่วงเวลาเกิดเหตุแดดร้อนจัดชาวบ้านต้องกางร่มเป็นร่มเงาให้กับผู้บาดเจ็บ
กู้ภัยปลวกแดง เร่งเข้าช่วยคนเจ็บแต่ต้องผงะเมื่อพบชิ้นส่วนกระดูกขาแตกเป็นชิ้นๆหลุดออกมาจากขา บริเวณลำตัวคนเจ็บพบบาดแผลหลายแห่ง กู้ภัยจึงทำตามขั้นตอนการปฐมพยาบาล ทำ CPR พร้อมประสานรถฉุกเฉิน รพ.ปลวกแดงมารับคนเจ็บไปรักษา
แต่นายอนุพงษ์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ได้คุยกับคนเห็นเหตุการณ์ นางภัสสร อายุ 52 ปี กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุตนเองขายของอยู่ริมทาง จู่ๆรถจักรยานยนต์ได้ขับผ่านร้านไปแล้วก้ได้ยินเสียงชนดังมากตามมา ตนเองพร้อมกับชาวบ้านในละแวกนี้จึงวิ่งไปดูก็เห็นรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะแล้วชาวบ้านจึงช่วยกันไปกางร่มให้คนเจ็บพร้อมกับรีบแจ้งไปยังกู้ภัยปลวกแดงทันทีพร้อมกับถ่ายคลิปไว้บางส่วน จนต่อมากู้ภัยก็เข้ามายังที่เกิดเหตุ
ต่อมากู้ภัยปลวกแดง ได้ประสานไปยังตำรวจ สภ.ปลวกแดงเข้ามาสอบสวนในที่เกิดเหตุ
จากการสอบปากคำคนขับรถกระบะได้ข้อมูลว่า คนขับกระบะได้ขับมาปกติโดยขับอยู่ในเลนของตัวเองพอมาถึงจุดเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ได้เสียหลักข้ามเลนมาชนรถตัวเองจนเกิดเหตุการณ์ขึ้น
จากคำให้การของคนขับกระบะไปสอดคล้องกับคลิปวงจรปิดจับภาพไว้ได้ จากคลิปจะเห็นได้ว่าก่อนเกิดเหตุรถกระบะได้ขับมาปกติอยู่ในเลนของตัวเองพอมาถึงจุดชนรถจักรยานยนต์ได้วิ่งสวนทางมา
จู่ๆรถจักรยานยนต์ก็เสียหลักข้ามเลนมาชนกับรถกระจังๆจนเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งดูจากคลิปคล้ายกับว่าคนขี่รถจักรยานยนต์วูบคุมรถไม่อยู่ เป็นไปได้ว่าเกิดจาก ฮีทสโตรก เพราะขับรถตากแดดที่ร้อนจัด
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวตำรวจได้ประสาน โรงพยาบาลปลวกแดง ให้ตรวจชันสูตรผู้ตายให้ละเอียดอีกครั้งจากนั้นจะได้ดำเนินการตามกฏหมายและประสานญาติมารับร่างผู้ตายไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป