ผัวโมโหเมียสาววัย 18 ไปดื่มเหล้า-น้ำกระท่อมบ้านเพื่อน ตามไปชักปืนยิงดับต่อหน้าเพื่อนและลูกเมียเก่า

ผัววัย 22 สุดโหด โมโหเมียสาววัย 18 ออกไปดื่มเหล้า น้ำกระท่อม ที่บ้านเพื่อนคนละอำเภอห้ามไม่ฟัง   ขับรถตามไปจ่อยิงต่อหน้าเพื่อนและลูกเมียเก่าวัย 3 ขวบและ 6 ขวบ ที่อยู่บ้านหลังเกิดเหตุด้วยบาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิตที่ รพ. ก่อนขับรถหลบหนี ล่าสุด ตร.ตามรวบได้พร้อมอาวุธปืน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. คืนที่ผ่านมา (5 เม.ย.66)  ร.ต.อ.วัฒนา อาจสาลี  รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์  ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บ้านตะโกรี ต.สำโรง  อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์  มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย  จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ  พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.พลับพลาชัย  และหน่วยกู้ภัยฯ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน

 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ น.ส.วิมลรัตน์ วงษาปัดนา  อายุ 18 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณใต้ราวนมด้านขวากระสุนทะลุปอด นอนร้องครวญครางให้ช่วย อยู่บริเวณใต้ถุนบ้านหลังเกิดเหตุ  จากนั้นหน่วยกู้ภัยฯจึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนจะรีบนำตัวส่ง รพ.พลับพลาชัย เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน   แต่ น.ส.วิมลรัตน์  ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตเวลาต่อมา

 

สอบถาม น.ส.เจนจิรา อายุ 19 ปี  เพื่อนผู้ตาย เล่าว่าตนเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย ที่ผ่านมาก็จะไปรับผู้ตายมาจากบ้านขาม อำเภอห้วยราช มานั่งดื่มกินสังสรรค์กันที่บ้านของตนเองซึ่งเป็นบ้านหลังเกิดเหตุเป็นประจำ กระทั่งเมื่อคืนนี้ก็ขี่รถ จยย.เข้าไปรับเพื่อนที่บ้านเหมือนทุกครั้งแต่ก่อนจะออกมาก็ได้ยินเสียงเพื่อนทะเลาะกับสามี สามีไม่อยากให้ผู้ตายออกมา แต่ผู้ตายอาจจะเกรงใจที่ตนไปรับถึงบ้านจึงได้ออกมาด้วย  ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดว่าจะเกิดปัญหาขึ้นเพราะแค่มานั่งเล่นและดื่มกินกันตามประสาเพื่อนเท่านั้น กระทั่งขี่มาถึงบ้านประมาณ 20.00 น.  ก็มานั่งดื่มเหล้าและน้ำต้มใบกระท่อมกันได้แค่ประมาณ 2 – 3 แก้ว  จากนั้นประมาณ 3 ทุ่มกว่าเกือบจะ 4 ทุ่ม  นายธีรภัทร หรือแห๊ะ  อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นสามีของเพื่อนก็ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน   แล้วเดินเข้ามาไม่พูดอะไรก่อนจะชักปืนยิงภรรยาของตัวเอง 1 นัด จนล้มลงนอนจมกองเลือด ต่อหน้าตนเอง  อดีตแม่ยาย ช่างที่มาซ่อมประปา และเด็กวัย 3 ขวบกับ 6 ขวบ ซึ่งเป็นลูกเมียเก่าของก่อเหตุด้วย  ต่างพากันกรีดร้องด้วยความตกใจ  จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และกู้ภัยฯ ให้มาช่วยเหลือพาเพื่อนส่ง รพ. แต่เพื่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตที่ รพ.  ส่วนนายธีรภัทร  หลังก่อเหตุก็ได้ขับขี่รถ จยย.หลบหนีไป พร้อมอาวุธปืน

 

ส่วนสาเหตุที่นายธีรภัทร ขับรถตามมายิงเมียถึงที่บ้านตนเอง  ก็น่าจะไม่พอใจที่เมียออกมานั่งดื่มเหล้าตอนกลางคืน  เพราะสามีหวงเพื่อนมาก ซึ่งปกติก็มีนิสัยอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว เสียใจมากเพราะผู้ตายเป็นเพื่อนที่รักกันมาก

 

ด้าน น.ส.วชิดา อายุ 41 ปี พี่สาวผู้ก่อเหตุ บอกว่า น้องชายแต่งงานกับคนตายได้ประมาณ 4 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 1 คน ก็มีปัญหากันบ้างตามประสาผัวเมีย  แต่ปกติน้องชายเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดหรือบ่นอะไรให้ฟัง  เมื่อคืนตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มารู้อีกทีตอนประมาณ 5 ทุ่ม เพราะมีตำรวจไปตามหาน้องชายที่บ้าน บอกว่าเขาก่อเหตุยิงภรรยาตัวเองแล้วหลบหนี  กระทั่งตอนเช้าน้องเดินออกมาจากป่าหลังบ้านมาบอกกับตนเองว่าอยากมอบตัวตนจึงประสานกับทางตำรวจ

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (6 เม.ย.66)  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามไปรวบตัวนายธีรภัทร  ได้ที่บ้านบ้านนกกะเรียน อ.ประโคนชัย  ซึ่งเป็นบ้านผู้ก่อเหตุ  พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ของกลางที่ใช้ก่อเหตุด้วย จากนั้นได้ควบคุมตัวไปที่ สภ.พลับพลาชัย  ท้องที่เกิดเหตุเพื่อสอบสวนถึงแรงจูงใจที่ก่อเหตุยิงภรรยาตัวเอง   แต่เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนายธีรภัทร ผู้ต้องหา ไม่ยอมปริปากสักคำ และอยู่ในอาการเครียด

 

ขณะที่ พ.ต.อ.ยรรยง  ทองใบใหญ่  ผกก.สภ.พลับพลาชัย  ระบุว่า หลังได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกัน และทราบตัวว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร  ก็ได้นำกำลังชุดสืบสวน ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุทันทีเพื่อหาข้อมูลหลักฐาน  จากนั้นก็ไปติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุที่บ้านแต่ไม่เจอ  คาดว่าน่าจะหลบหนีจึงได้ให้ชุดสืบกระจายกำลังติดตามตามสถานที่ต่างๆ ที่คาดว่าน่าจะหลบซ่อนตัว  ก็ทำงานกันทั้งคืนกระทั่งช่วงสายวันนี้พี่สาวผู้ก่อเหตุประสานมาว่าผู้ก่อเหตุต้องการมอบตัว  จึงได้ให้ชุดสืบไปที่บ้านตามที่มีการประสาน  ก็พบตัวผู้ต้องหาจึงได้ควบคุมตัวมาพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ   สอบถามเบื้องต้นก็น่าจะไม่พอใจที่ภรรยาออกมานอกบ้านตอนกลางคืนจึงตามมาก่อเหตุ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นคนหวงแฟนมาก  ส่วนประเด็นอื่นก็จะสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะผู้ต้องหายังเครียด  เบื้องต้นเข้าข่ายข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน”