"ธนาธร" มองนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่น ช่วยเหลือประชาชนได้ระยะสั้น ชี้ "ปิยบุตร" ฟาด "เพื่อไทย" แค่ความเห็นทางการเมือง ยอมรับ"เพื่อไทย-ก้าวไกล" เป็นคู่แข่งแต่ไม่ใช่ศัตรู
7 เม.ย. 66 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวถึงนนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้คนไทยของพรรคเพื่อไทย ว่า ประเทศไทยตอนนี้คนไทยอ่อนแอ ใช้ชีวิตกันอย่างลำบากมากเหลือ ใช้ชีวิตกระเสือกกระสนวันต่อวัน เป็นหนี้เป็นสิน ทำงานแทบตายก็จ่ายหนี้คืนไม่ครบ ดังนั้นมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในระยะสั้นได้ก็ถือว่าจำเป็น แต่จะพัฒนาประเทศในระยาวได้ ต้องพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พรรคก้าวไกล จึงเห็นถึงความจำเป็นทั้ง 2 ส่วน ทั้งสร้างรัฐสวัสดิการในระยะสั้นและสร้างอุตสาหกรรมที่เป็นของคนไทยเองในระยะยาวเพื่อให้แข่งขันกับต่างประเทศได้
เมื่อถามว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาทสามารถ กระตุ้นเศรษฐกิจไปถึง 6 เดือนได้หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า คงต้องถามพรรคเพื่อไทยว่าทางทีมนโยบายพรรคคิดเห็นอย่างไร ส่วนตัวอยากเห็นรูปแบบสวัสดิการที่ยั่งยืนมากกว่านี้ ทำให้ประชาชนมั่นคงได้ความสำคัญคือต้องมีความต่อเนื่องและชัดเจน จะสามารถทำให้คนออกแบบชีวิตได้
ขณะเดียวกันก็เชื่อว่ามีนโยบายของพรรคก้าวไกล หลายตัวเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะหยิบยกนโยบายของพรรคก้าวไกลไปใช้เช่นกัน ดังนั้นหากหลังเลือกตั้งแล้วคงมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันเพื่อดูว่าหากตัวรัฐบาลแล้วจะพาสังคมไทยไปข้างหน้าอย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะทำนโยบายหยุดรัฐประหารสำเร็จ นายธนาธร กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งตนเป็นหนึ่งคน ที่อยากเห็นประเทศไทยไม่มีรัฐประหารและต่อสู้เรื่องนี้มาด้วยศักยภาพของตัวเองมาอย่างยาวนาน และมองว่า หากมีพรรคการเมือง ที่กล้าต่อสู้กับการทำรัฐประหารอย่างจริงจัง กล้าที่จะต่อสู้กับอำนาจที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ก็คงไม่มีพรรคอนาคตใหม่และก้าวไกลในวันนี้
เมื่อถามว่าการโพสกระทบพรรคเพื่อไทย แบบนี้จะมีปัญหาหรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ก็ต้องยอมรับว่าเป็นคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง เนื่องจากมีฐานเสียงใกล้เคียงกัน นายธนาธร กล่าวว่า ทุกพรรคก็เป็นคู่แข่งกันหมดในสนามการเมือง แต่ที่แน่ๆคือพรรคเพื่อไทยไม่ใช่ศัตรูกับพรรคก้าวไกล และตนเชื่อ ว่า หากพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีโอกาสจับมือกันเป็นรัฐบาลจะเป็นโอกาสให้กับประเทศไทยในการมีทั้งพลังและประสบการณ์ ในการนำไปสู่ทิศทางที่เป็นประชาธิปไตย