"บิ๊กตู่" เตือนเงินดิจิทัลเป็นการขายฝัน จับต้องไม่ได้ ชี้การใช้เงินจะต้องมีเม็ดเงินจริง ไม่ใช่พูดลอยๆ เผยบางประเทศเอามาใช้แล้วล้มทั้งยวง
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังขึ้นเวทีปราศรัยกรุงเทพมหานครครั้งแรก ว่า ดีใจ ที่ได้มาพบคน กทม. ถือเป็นแรงใจในการทำงานร่วมกัน จะได้รู้ว่าทำงานเพื่อใคร แต่วันนี้การใช้จ่ายงบประมาณต้องระมัดระวัง เพราะหากผิดพลาดไปโครงสร้างล้มทั้งหมด นายกฯอยากฝากเตือนไปถึงทุกคน แต่ปรากฎว่า เมื่อหลุดคำว่า"นายก" พลเอกประยุทธ์ ได้ตบปากตัวเองอย่างแรง และกล่าวว่าขอโทษ ตนเป็นคนจริงใจ พูดเร็วไปบ้าง จะให้พูดจ๊ะจ๋าเดี๋ยวไม่เหลือคำไปพูดกับเมียที่บ้าน
เมื่อถามว่าบนเวทีปราศรัย พูดถึงเงินสกุลดิจิทัล พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า เราเคยเตือนกันแล้ว สกุลเงินดิจิทัลเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เป็นเพียงการตกลงซึ่งกันและกัน ไม่รู้ที่มาของเงิน ไม่มีตัวเงินที่แท้จริง เป็นเพียงตัวเลขที่ยอมรับกันสองฝ่าย
เมื่อถามถึงนโยบายแต่ละพรรคการเมืองที่ออกมา โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่จะเติมเงินดิจิทัล 10,000 ใส่กระเป๋าให้ประชาชน อยากจะเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า นักวิชาการหลายคนได้ออกมาชี้แจงแล้ว และธนาคารแห่งประเทศไทยก็ออกมาชี้แจงเช่นกัน ก็ขอให้ระมัดระวัง เพราะนโยบายพรรคเราห้ามเขาได้หรือไงละ
"เห็นไหมล่ะบางประเทศล้มไปทั้งยวง ธนาคารล้มหมด ที่มาพูดวันนี้ตนไม่ต้องการแตะต้องใคร แต่ต้องระมัดระวังที่สุด การใช้เงินจะต้องมีเม็ดเงินจริง ไม่ใช่พูดลอยๆเท่าไหร่ก็ได้ แต่ไม่ได้ดูเงินในคลังว่า มีงบประมาณพออยู่หรือเปล่า ถ้าไม่พอก็เสี่ยง ตนไม่ได้ว่าใคร ไม่ได้ตำหนิใคร แต่ของตนระวังที่สุด หัวหน้าพรรคทุกคนก็ระวังให้ตนหมด การจะใช้จ่ายต้องไม่ผิดกฎระเบียบ แค่พูดก็กลัวแล้ว ปกติไม่เคยกลัวใคร" พลเอกประยุทธ์ ระบุ
เมื่อถามว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ประกาศหารายได้เข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาท เรามีโปรเจคใหญ่รออยู่ใช่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกอย่างพูดบนเวทีหมดแล้ว ว่า จะต้องลงทุนกี่ปีได้ภาษีมาเท่าไหร่ จะเกิดการจ้างงานหรือไม่ มีทั้งประโยชน์โดยตรงและประโยชน์โดยอ้อม และเทคโนโลยีก็จะมีการต่อยอดพัฒนาไปเป็นอย่างอื่น ซึ่งจะกระจายไปถึงทุกคน แต่เมื่อมีรายได้มากขึ้นทุกคนก็จะต้องยอมเสียภาษี เพราะทุกประเทศในโลกก็ทำแบบนี้
เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่า ถ้าเลือกพรรครวมใจสร้างชาติ จะมีแต่รุ่งไม่มีทรุด พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า "ถามแบบนี้คิดว่าไม่น่าจะใช่"