"สาวแคดดี้" สุดช้ำรักถูก "จ่าทหารหลอก" บอกไม่มีเมียทำท้อง 4 เดือน หลังถูกเมียจับได้ปัดเด็กในท้องไม่ใช่ลูก แถมถูกขู่ฟ้องเป็นชู้อีก 5 แสนบาท

จากกรณีที่เพจ นางสาวเจน อายุ 32 ปี อาชีพแคดดี้ ว่าได้รู้จักกับจ่าทหารคนหนึ่ง อายุ 42 ปี สังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งตนเองโดนจ่าทหารคนนี้หลอกมาตลอดว่าโสดไม่มีครอบครัว หลังจากคบกันได้ไม่นาน ช่วงเดือน ก.พ. 2566 ตนเองก็เริ่มตั้งครรภ์ และมาทราบภายหลังว่าจากเพื่อนตนที่อยู่ค่ายเดียวกันกับจ่าทหารคนนี้ว่าเขานี้มีครอบครัวอยู่แล้ว จนต้องแยกกันอยู่ ตอนนี้ตนเองเริ่มทำงานไม่ไหว อยากจะให้จ่าทหารมาช่วย เรื่องค่าใช้จ่ายก่อนและหลังคลอดให้ด้วย

 

แต่ทางจ่าทหารได้ตอบกลับมาว่า ลูกในท้องไม่ใช่ลูกของตนเอง อีกทั้งทางฝั่งภรรยาจ่าทหารได้บอกกับตนเองว่า ถ้าต้องการค่าเลี้ยงดูลูก ก็ให้ไปฟ้องเอาเอง แต่หลังจากฟ้องเอาค่าเลี้ยงดูลูกแล้ว ภรรยาจ่าทหารก็จะฟ้องกลับในข้อหาเป็นชู้กันโดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 5 แสนบาท ตอนนี้ตนลำบากมาก รายได้ที่มีก็มาจากงานแคดดี้เท่านั้นและก็เริ่มจะทำงานไม่ไหวแล้ว อยากจะให้จ่าทหาร มาช่วยเหลือกันบ้าง ไม่ใช่บอกแต่ว่า เด็กในท้องไม่ใช่ลูกตนเอง และก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าไปคุยกับผู้บังคับบัญชาของจ่าทหารคนนี้ในเรื่องค่าเลี้ยงดูลูก แต่เรื่องก็ยังเงียบอยู่

 

นางสาวเจน ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนคบกับผู้ชายคนนี้ช่วงปลายเดือนตุลาคม 2565 รู้จักกันผ่านเพซบุ๊กก็คุยและคบกันมาเรื่อยๆ จนมาเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ตอนตนตั้งครรภ์ ได้ 2 เดือน จ่าทหารคนนี้บอกกับตนว่าจะมารับผิดชอบในส่วน ของลูก อยู่ดูแลกันไป และตลอดเวลาที่คบกับมา ผู้ชายคนนี้ดีทุกอย่าง ให้ทำอะไรทำได้ทุกอย่าง เช่นมานอนที่บ้านตามวันเวลาที่ตนกำหนด ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง พาตนไปไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดก็ทำได้ แต่ไม่เคยเล่าไม่เคยพูดว่ามีเมียอยู่แล้ว แต่เป็นตนที่รู้ความจริงเอง
แต่เวลานั้นคนก็พลาดเสียตัวให้เขาไปแล้ว พอเหตุการณ์ปานปลายทางภรรยาเขารู้ว่าตนท้องกับสามีเขา เขาก็จัดการทุกอย่างบอกตนต้องการอะไรให้ฟ้องเอา

 

ส่วนผู้ชายไม่พูดไม่ติดมาเลย ตนเคยไปร้องเรียนถึงที่ทำงานของจ่าทหาร มีการนัดคุยกันแต่ก็ไม่เป็นผล ปัดความรับผิดชอบ บอกไม่ใช่ลูกเขา และจะไม่ยอมรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น จนมา ตอนนี้ ตนท้องได้เกือบ 4 เดือน ยังต้องทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงดูตัวเอง ส่วนจ่าทหารคนนั้น เขาใช้ชีวิตปกติ แบบนี้ตนก็อยากจะขอความเป็นธรรมบ้างได้ไหม

 

ซึ่งตอนนี้ตนเองก็เป็นโรคซึมเศร้าไปหาหมอกินยาจิตเวช ดีที่ผ่านมันมาได้ ภายหลังจากมีการออกสื่อไปก็ได้รับการติดต่อมาจากจ่าทหารคนนี้ว่าให้เข้ามาคุยที่ค่าย ส่วนผลการเจรจาจะเป็นอย่างไรต้องรอหลังจากการพูดคุยอีกครั้ง