"ชวน" ให้กำลังใจ "มาดามเดียร์" กลางเวทีปราศรัยใหญ่ อย่าหวั่นไหว ท้อแท้ หลัง"ตั้งคำถามว่า 17 ปีที่ผ่านมาบนความขัดแย้งชีวิตเรามีอะไรดีขึ้นบ้างไหม ??

7 เม.ย. 66 เวลา 20.30 น. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก หลังจากที่ได้หมายเลขพรรค และหมายเลขผู้สมัคร โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. คณะผู้บริหารพรรค ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ทั้ง 33 เขต และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมกับมีสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุนพรรค และพี่น้องประชาชนเข้าร่วมรับฟังเต็มพื้นที่ด้วยบรรยากาศคึกคัก โดยมีนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค และ น.ส.สิริเพ็ญโสภา บางท่าไม้ ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นพิธีกรตลอดการปราศรัย

 

สำหรับ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ โดยได้ตั้งคำถามว่า 17 ปีที่ผ่านมาบนความขัดแย้งชีวิตเรามีอะไรดีขึ้นบ้างไหม แล้วทุกคนเหนื่อยไหม แต่ตนนั้นเหนื่อยใจทุกครั้งที่เจอคำถามจากลูกว่า ทำไมบ้านเราถึงไม่มีถนนเรียบๆ ฟุตบาทสะอาดๆ เหมือนต่างประเทศเขาบ้าง ทำไมบ้านเราถึงไม่มีอากาศสะอาด คุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนต่างประเทศบ้าง มันฟังทุกๆครั้งแล้วรู้สึกเหนื่อยใจ เสียใจเพราะเรารู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน แต่เสียใจว่าทำไมเราถึงแก้ไขมันไม่ได้สักที เสียใจที่ตลอดอายุ 14 ปีของลูกที่ผ่านมาเราไม่สามารถให้ชีวิตที่ดีๆ เหมือนเด็กคนอื่นที่อยู่ในต่างประเทศได้ มันทำให้เกิดคำถามมากมาย เกิดคำถามว่าอนาคตของลูกหลานคนไทยจะดีขึ้นกว่านี้ได้บ้างไหม แล้วทำไมเราถึงไปจุดนั้นเหมือนต่างประเทศไม่ได้

 

น.ส.วทันยา กล่าวต่ออีกว่า เพราะการเมืองไทยวนเวียนอยู่กับความขัดแย้ง เป็นวงจรอุบาทว์ ทำให้การพัฒนาระบอบประชาธิปไตยไม่เคลื่อนที่ไปไหน วนเวียนซ้ำแบบเดิม วันนี้เราถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องเปลี่ยน เราเริ่มต้นเปลี่ยนได้ด้วยการเลือกตั้ง โดยเข้าไปเลือก ส.ส.ที่เขาเห็นประชาชนเป็นที่ตั้ง เลือก ส.ส.ที่เข้าไปทำงานเป็นปากเป็นเสียงให้พวกเราได้อย่างแท้จริง ส.ส. ที่ถูกประมูลตัว ขายอุดมการณ์ ขายจิตวิญญาณ ตั้งแต่เลือกตั้งเห็นเงินเป็นที่ตั้ง เข้าไปในสภาแล้วเขาจะเห็นหัวประชาชนหรือไม่ เขาจะเข้าไปกอบโกยประโยชน์ ไม่ทำงาน มัวแต่วิ่งหาอำนาจ และประโยชน์ของตัวเอง แต่วันนี้ที่หน้าศาลาว่าการ กทม.แห่งนี้ ไม่ใช่กับ ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน เพราะ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มี ส.ส.ที่มาจากการประมูลตัว แต่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์มาจากความตั้งใจและอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตย เพื่อประชาชน และนี่คือบทพิสูจน์ว่าทำไมพรรคถึงอยู่คู่คนไทยมาได้ 77 ปี เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจ้าของ ไม่มีนายทุนที่คอยชี้นำ แต่เรามีเพียงประชาชน มีเพียงแค่ศรัทธาของประชาชนที่เป็นหลังพิงเท่านั้น

 

“เดียร์ อยากจะบอกกับพวกเราว่า วันนี้เรากลับมา กลับมาร่วมกันทำให้บ้านหลังนี้ สถาบันการเมืองหลังนี้ ที่มีจุดเริ่มมาจากประชาชน แข็งแรง เพื่อเป็นทางออกให้กับสังคม เพื่อสร้างอนาคตให้กับลูกหลานเรา เพื่อชดเชยให้กับ 17 ปีที่ผ่านมาที่เราต้องสูญเสียไปกับความขัดแย้งที่เราไม่ได้อะไรกลับคืนมา” น.ส.วทันยา กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งของเวทีปราศรัยใหญ่ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชวน หลักภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นปราศรัย ว่า การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได่ ส.ส.แม้แต่คนเดียวในกรุงเทพมหานคร แต่พอจะเข้าใจได้ว่าอะไรเกิดขึ้นในวันนั้น แต่ครั้งนี้เหตุการณ์เปลี่ยนแล้ว ครั้งนี้จึงหวังอย่างยิ่งว่าพี่น้องจะได้กลับมาทบทวนว่า พรรคการเมืองที่อยู่กับเรามา 77 ปี พรรคการเมืองตั้งอยู่มาได้ 77 ปี เป็นไปได้อย่างไร มีพรรคเมืองเมืองใดหรือไม่ที่ตั้งมาพร้อมพรรคประชาธิปัตย์แล้วยังอยู่ได้จนถึงวันนี้ เราอยู่ได้ 77 ปี ไม่ได้สำเร็จทุกครั้ง แพ้บ้าง ชนะบ้าง สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ดีใจบ้าง เสียใจบ้าง แต่เราอยู่ได้จนวันนี้ เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมาแล้ว 8 คน

 

“ในฐานะที่เป็นนักการเมือง ที่อยู่มาในสภานานกว่าคนอื่น อยู่มา 55 ปี ได้เห็นความจริงที่อยากจะบอกกับพี่น้องว่า อย่าสิ้นหวังกับระบอบประชาธิปไตย เราเปลี่ยนแปลงการปกครองมา 90 ปี ประชาธิปัตย์อยู่มา 77 ปี ในท่ามกลาง 90 ปี ผมบอกพี่น้องว่าบ้านเมืองก้าวหน้าโดยลำดับ อย่าไปหดหู ท้อแท้ ให้กำลังใจคุณวทันยา มาดามเดียร์ด้วย อย่าหวั่นไหว ท้อแท้ แท้จริงแล้วบ้านเมืองเราได้พัฒนาไปมากพอสมควร” นายชวน กล่าว