ยิงถล่มบ้าน"อดีตผญบ.สุราษฎร์ฯ"ดับ4 ปลอกกระสุนร่วมร้อยปลอกตกเกลื่อนพื้นที่
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 8 เมษายน พ.ต.ต.จเร ขำแก้ว สว.สอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต จำนวน 4 ราย เหตุเกิดบ้านในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่ หมู่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พิสูจหลักฐาน 8 และกู้ภัยกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้แบบสองชั้นในสวนปาล์ม หมู่ ที่ 8 ต.กะเปา บริเวณใกล้ศาลาหน้าบ้าน ข้างโอ่งน้ำ พบผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นหญิง ทราบชื่อคือ นางนิลทิพย์ หรือ แตง อายุ 49 ปี (ภรรยานายธรรมรงค์) นอกจากนั้นภายในบ้านพบผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.บางงอน , นายพรศักดิ์ หรือผู้ใหญ่กรอก อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน และ ชายไทยไม่ทราบชื่อและสกุล
บริเวณหน้าบ้านทั้งในรั้วและนอกรั้วพบ ปลอกกระสุนอาวุธปืนสงครามไม่น้อยกว่าร้อยปลอก เจ้าหน้าที่กันที่เกิดไม่ให้บุคคลภายนอกเข้า
คุณ นฤทธิ ผู้สื่อข่าวช่อง8 ลงพื้นที่เกิดเหตุ สอบถาม นางสาวบุณยอร อายุ 23 ปี ลูกสาวของนางสาวนิลทิพย์ หรือ แตง อายุ 50 ปี 1ในผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่รู้ว่าใครเป็นคนก่อเหตุ พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาแม่เพิ่งคบหาอดีตผู้ใหญ่บ้านธรรมรงค์ 3-4ปี ก็ไม่มีปัญหาอะไร และไม่เห็นมีศัตรูกับใคร จึงไม่รู้จริงๆว่า คนร้ายทำไมถึงต้องการฆ่าเอาชีวิตกันขนาดนี้ และวอนขอให้ตำรวจเร่งจับตัวคนร้ายให้ได้ทั้งหมด เพราะเชื่อว่า อาจจะมีมากกว่า 1 คน เนื่องจาก กระสุนปืนที่พบ เป็นอาวุธสงคราม และเจอปลอกมากกว่า 100 นัด
ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้สอบถาม นายสมศักดิ์ เจ้าหน้าที่ อปพร. หมู่บ้าน ให้ข้อมูลว่า อดีตผู้ใหญ่บ้านธรรมรงค์ และ อดีตผู้ใหญ่บ้านพรศักดิ์ ทั้งสองคนที่เสียชีวิตนั้น ค่อนข้างสนิทกันมาก ถึงแม้จะเป็นผู้ใหญ่บ้านคนละพื้นที่ จึงมั่นใจว่า ไม่ใช่เหตุยิงกันเองแน่นอน ต้องมีคนร้ายบุกเข้ามายิง เพราะไม่เจออาวุธปืนในที่เกิดเหตุ พบแต่ปลอกกระสุนปืนรอบบ้าน
และก่อนหน้านี้เมื่อ 31 ธันวาคม 65 วันขึ้นปีใหม่ 3 เดือนก่อน อดีตผู้ใหญ่ธรรมรงค์ ก็เคยถูกกลุ่มคนร้ายปริศนา ลอบยิงมาบาดเจ็บมาแล้วที่บ้านหลังนี้ แต่ขณะนั้น ไม่มีใครรู้ และยังจับคนร้ายไม่ได้
ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับปัญหาการเมืองท้องถิ่น เนื่องจาก การแข่งขันระดับผู้ใหญ่บ้านไม่รุนแรง และทุกคนต่างรักและสนิทสนมกัน และจะเป็นปมเรื่องอื่นมากกว่า ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ