ตำรวจตามล่าตัวผัวคลั่งใช้น้ำร้อนราด ขวดเบียร์ยัด-ตีหัวแตก จนเมียต้องโดดชั้น 4 หนีตาย หลานผู้ก่อเหตุเผย ฝ่ายหญิงถูกทำร้ายมา 2-3 วันแล้ว แต่อาจจะไม่ได้โดดจากชั้น 4 จริง คาดกุเรื่องแรงงานเมียนมาข่มขืนเพื่อหาทางหลบหนี
วันที่ 9 เม.ย. 2566 จากกรณีนางนริศรา สาวชาวอุบลฯ ถูกทำร้ายร่างกายสาหัส โดยใช้น้ำร้อนราด และใช้ขวดเบียร์ยัดอวัยวะเพศ ตีศีรษะแตก จนต้องกระโดดจากหอพักชั้น 4 ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อหนีตายมาขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี โดยนางนริศราเล่าทั้งน้ำตาว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายไพศาล อายุ 33ปี สามีที่แต่งงานกันได้นาน 1 ปีเศษ เพิ่งรู้ว่าติดยาเสพติด เนื่องจากคบหากันเพียง 9 วันก็แต่งเลย เหตุเกิดวานนี้ (8 เม.ย.) เวลา 17.30น. ขณะอยู่บนห้องนายไพศาล เกิดหลอนยาระแวงว่าตนจะมีชายอื่น ใช้มีดขู่ให้อยู่ในห้อง บอก "ถ้าไปจะแทงให้ตาย" โดยนายไพศาลกำลังต้มน้ำร้อนจะมาราดใส่ แต่ก็กลัวถูกแทงตายจึงต้องทนอยู่
ระหว่างนั้น นายไพศาล ใช้ขวดเบียร์ยัดที่อวัยวะเพศจนเจ็บปวดทรมาน ไม่หนำใจใช้ขวดใบเดียวกันตีศีรษะจนแตก แล้วเดินไปเอาน้ำร้อนที่ต้มไว้เดือดๆ มาเทราดเธอ จากนั้นก็ขังไว้ ปล่อยให้นอนทรมาน
เธอจึงตัดสินใจหนีตายกระโดดจากชั้น 4 ตกลงมาในป่า กระเสือกกระสน ปีนรั้วไปที่แคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกปฎิเสธ จึงว่ายข้ามคลองขึ้นอีกฝั่ง ปีนข้ามรั้วมาขอความช่วยเหลือที่อู่รถยนต์
ล่าสุดผู้สื่อข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ที่อู่รถ ปากซอยบางปลา 22 พบนายอัมพร อายุ 34 ปี ช่างซ่อมรถ (พลเมืองดี) พาไปชี้จุดที่นางนริศรา วิ่งมาขอความช่วยเหลือในสภาพเนื้อตัวมอมแมม มาบอกว่า ถูกสามีทำร้าย และกลัวจะตามมาทำร้าย ซึ่งตนสังเกตเห็นตามตัวผู้เสียหายมีรอยหนังลอกจากการถูกน้ำร้อน จึงโทรแจ้งตำรวจมาช่วยเหลือ
นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังหอพักภายในซอยบางปลา 20 จุดที่นางนริศรา อ้างว่าหนีตายกระโดดมาจากชั้น 4 พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นหอพักสูง 5 ชั้น แต่ไม่พบตัวนายไพศาล (ผู้ก่อเหตุ) พบเพียงนายศรัณย์ อายุ 25 ปี หลานผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ที่จริงนางสาวนริศรา ถูกนายไพศาลใช้น้ำร้อนลวกและใช้ขวดเบียร์ยัดอวัยวะเพศเมื่อ 2-3 วันก่อน ไม่ใช่เพิ่งมาก่อเหตุ ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากความหึงหวง
โดยเมื่อเย็นวานนี้ นายไพศาลทำร้ายนางนริศราซ้ำอีก คาดว่านางนริศราอยากจะหนี จึงกุเรื่องว่ามีคนงานเมียนมาข่มขืน แล้วหลอกนายไพศาลไปชี้ตัว พอถูกจับได้ว่ากุเรื่องก็หนีไป แล้วไปบอกกับชาวบ้านว่าหนีตายจากชั้น 4 ของหอพัก ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกระโดดจากชั้น 4 ลงมา คาดว่าน่าจะข้ามกำแพงที่อยู่หลังหอพัก ผ่านแคมป์คนงานและไปถึงอู่ดังกล่าว ส่วนการใช้ยาเสพติดของฝ่ายชายนั้นเคยเสพจริง แต่เห็นว่าเลิกไปเเล้ว แต่ไม่รู้หวนกลับมาเสพหรือไม่
หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.บางพลี อยู่ระหว่างล่าตัวนายไพศาล มาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย