โอละพ่อ!! ถวายพระพุทธรูปทองคำปางอู่ทอง กรุงศรีอยุธยา 2 องค์ น้ำหนักรวม 2 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท นำพระไปตรวจสอบที่ร้านทอง พบทองปลอมทั้งหมด
วันที่ 9 เมษายน 2566 นายณธีพัตน์ ได้นำพระพุทธรูปทองคำ ปางอู่ทอง น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม และนายพีระวัฒน์ ได้นำพระพุทธรูปทองคำน้ำหนัก 0.5 กิโลกรัม รุ่นกรุงศรีอยุธยา และพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมคณะ เดินทางมาถวายให้พระอธิการบุญยืน ปริชาโน เพื่อนำไปประดิษฐานบนยอดพระมหาเจดีย์ ยอดเขาถ้ำประทุน ต.ทัพหลวง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี บนศาลาไม้ตะเคียนวัดถ้ำประทุน โดยมีประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เขามาเที่ยวชมความสวยงามของโบสถ์รากไม้ตะเคียน มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ที่ใกล้จะแล้วเสร็จ ซึ่งอยู่ในช่วงการปรับปรุงด้านนอกโบสถ์
นายณธีพัตน์ กล่าว่า สืบเนื่องเป็นวันเกิดตนเอง และใกล้กับเทศกลสงกรานต์ ซึ่งถือว่าเป็นปีใหม่ของคนไทย ตนเอ และครอบครัวเป็นคนที่ชอบทำบุญและถวายมาหลายวัดแล้ว ซึ่งตนเองอยากจะทำบุญในสิ่งที่คนธรรมดานั้นทำยาก เพราะการสละทองคำ เป็นสิ่งที่ห่วงแหน มีมูลค่าสูง ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า ถวายสิ่งที่เลิศที่สุดก็จะได้สิ่งที่เลิศที่สุด ซึ่งตนเองถวายเป็นพุทธบูชา ไม่มีอะไรมาก ซึ่งตนเองได้นำพระทองคำรุ่นอู่ทอง น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม และเพื่อนได้นำพระพุทธรูปทองคำ รุ่นเก่ากรุงศรีอยุธยา น้ำหนัก 0.5 กิโลกรัม รวมเป็น 2 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 4 ล้านกว่า และพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อถวายให้กับพระอาจารย์บุญยืน ปริชาโน เจ้าอาวาสวัดเขาถ้ำประทุน และแม่ชีแก้วเพชร มณีมหาปัญโญ เพื่อนำไปประดิษฐานไว้บนยอดพระมหาเจดีย์ บนยอดเขาถ้ำประทุนที่มองเห็นสง่างาม
หลังจากนั้นทางวัดเขาถ้ำประทุน ได้จัดให้มีนางรำมีการรำถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดเขาถ้ำประทุน เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยดังกล่าว โดยมีประชาชนนักท่องเที่ยวต่างมาขออุ้มพุทธรูปทองคำทั้ง 2 องค์ เพื่อเป็นศิริมงคลพร้อมกับขอฤกษ์ขอชัยในเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย
หลังจากนั้นแม่ชีแก้วเพชร มณีมหาปัญโญ พร้อมลูกศิษย์ได้นำไปยังร้านทองอำเภอด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี มาตรวจสอบพบว่าพระปางอู่ทอง น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม นั้นเป็นพระเก่า และเอาตะไบขัดเป็นเนื้อสีขาว ซึ่งทางร้านทองยืนยันว่ายังไงก็ไม่ใช่ทอง และส่วนองค์พระพุทธรูปทองคำน้ำหนัก 0.5 กิโลกรัม รุ่นกรุงศรีอยุธยา นั้นเป็นทองเหลือง ทางร้านยืนยันว่าเป็นพระปลอมทั้ง 2 องค์ หลังจากนั้นพอทราบว่าเป็นของปลอมจึงได้ประสานกับผู้สื่อข่าวให้ทราบ