"บัญญัติ"ควง"มาดามเดียร์"ขอคะแนนเสียงกระบี่ยกจังหวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ตลาดแก้วอ่าวลึกเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ช่วยนายสาคร เกี่ยวข้อง ผู้สมัคร ส.ส. กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 5 ปราศรัยขอคะแนนสนับสนุนจากประชาชน โดยมี นายธนวัช ภูเก้าล้วน ผู้สมัคร ส.ส. กระบี่ เขต 1 หมายเลข 3 , น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ผู้สมัคร ส.ส. กระบี่ เขต 3 หมายเลข 5 และ นายทวีเกียรติ ใจดี ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในนามทีมกระบี่ ร่วมปราศรัยด้วย
โดย นายสาคร ยืนยันว่า หากได้กลับเข้าไปในสภาอีกครั้งจะเดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปาล์มน้ำมัน เพื่อจะได้ดูแลพี่น้องเกษตรกรสวนปาล์มให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งในสภาชุดก่อนตน และ ส.ส.พิมพ์รพี ได้ช่วยกันผลักดันจนสามารถตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา แต่ท้ายที่สุดกลับไม่สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้ เพราะมี พ.ร.บ.กัญชามาขัดขว้างไม่ให้เข้าพิจารณาได้ ซึ่งทุกครั้งที่กฎหมายกัญชาเข้าสภา สภาล่มทุกครั้ง ไปขอให้ถอนออกไปเพื่อให้กฎหมายอื่นที่สำคัญต่อประชาชนก็ไม่ยอม ทั้งที่พรรคการเมืองอื่นๆทุกพรรคก็ไม่เห็นด้วย
ด้าน นายบัญญัติ กล่าวว่า เห็นบรรยากาศในการปราศรัยวันนี้รู้สึกมีกำลังใจ มีความหวังมากขึ้น ทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ผิดหวัง และหวังว่าจังหวัดกระบี่จะได้ ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ยกทั้งจังหวัด เพื่อความเป็นเอกภาพในการทำงานในจังหวัด มีพลังทางการเมืองที่จะสามารถผลักดันการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าให้กับจังหวัดมากยิ่งขึ้น และวันนี้ขอย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมจริงๆ แม้จะมีคนออกไปจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ยังมีคนไหลกลับเข้ามาอีกจำนวนมาก
“ท่ามกลางคนไหลออกของพรรคประชาธิปัตย์ยุคนี้ เรามีเลือดใหม่คนรุ่นใหม่ไฟแรงไหลเข้า โดยเฉพาะผู้สมัครใน กทม. มีคนรุ่นใหม่จำนวนมาก มีทุกอาชีพ ทั้งกัปตัน หมอ รวมถึงนักกีฬาทีมชาติ นี่คือวิวัฒนาการของพรรคการเมือง และก็เป็นความมุ่งปรารถนาของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะคนที่ก่อตั้งต้องการสร้างพรรคการเมืองที่ให้อยู่ยั่งยืนยงกับประเทศไทย เราจึงยืนอยู่ได้มาโดยตลอด มีคนเข้า มีคนออก วันนี้จึงพูดได้เต็มคำว่าพรรคเป็นของคนทุกรุ่นในประเทศนี้” นายบัญญัติ กล่าว
นายบัญญัติ ยังกล่าวต่ออีกว่า ผู้แทนที่ได้มาด้วยศรัทธา ความไว้ใจของประชาชน งานอย่างเดียวเท่านั้นที่จะตอบแทนความศรัทธาไว้วางใจของพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งมันจะต่างกับผู้แทนที่ได้มาด้วยการเอาเงินมาแจก เพราะเขาถือว่าเขาซื้อแล้ว เขาให้แล้ว ขาดตัวกันไปเลย ภารกิจที่สำคัญของผู้แทนราษฎรที่ว่านี้ คือเข้าไปถอนทุน และไม่เพียงแค่ถอนทุน แต่ยังจะต้องเตรียมทุนเอาไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าอีก และเมื่อได้ทั้งถอนทุน สะสมทุน ก็นำไปสู่การทุจริตคอรัปชั่น หรือที่เรียกว่า ธุรกิจการเมือง ซึ่งบุคคลที่ต่อต้านเรื่องนี้มายาวนานคือ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่ น.ส.วทันยา เน้นย้ำถึงการเป็นสถาบันการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่กล้าพูดได้ว่าเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ไม่มีนายทุน ไม่มีเจ้าของ ซึ่งเหตุผลที่ต้องย้ำเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากหากเลือกผู้แทนขากพรรคการเมืองที่มีนายทุน เมื่อเข้าไปในสภา นักการเมืองเหล่านั้นก็จะคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของนายทุนมากกว่าประชาชน โดยที่ไม่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการใดของเขา
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มที่มีปัญหา เกี่ยวกับการทุจริตที่มูลค่าสูงถึง 68,000 ล้านบาท ซึ่งหากนำเงินจำนวนดังกล่าวมาทำถนนในพื้นที่ภาคใต้ได้อีกหลายเส้นทาง หรือเอาไปดูแลอนาคตการศึกษาของลูกหลานเราก็สามารถให้เรียนฟรีจนจบปริญาตรีได้อย่างสบาย รวมถึงยังสามารถนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนใต้ได้อีกมากมาย
“แต่ลองคิดดู พี่น้องจะยอมหรือให้เขาเอาเงินจำนวนเพียงแค่หลักร้อย สองร้อย สามร้อย หลักพันบ้าง มาซื้อสิทธิของพี่น้อง ทำแบบนี้แปลว่าเขาดูถูกคนใต้เกินไปไหม แล้วคนใต้จะยอมให้พรรคเหล่านี้ดูถูกเราแบบนี้หรอ ถ้าไม่ยอม เราก็ต้องไม่ยอมให้พรรคการเมืองที่ฉ้อฉลมาเอาเปรียบเราอีกต่อไป” น.ส.วทันยา กล่าว
จากนั้น 17.30 น. นายบัญญัติ และ น.ส.วทันยา พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. ทีมกระบี่ ทั้ง 4 คนของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางต่อไปยังตลาดคลองเหนือ เพื่อปราศรัยขอคะแนนเสียงให้กับ นายธนวัช ภูเก้าล้วน ผู้สมัคร ส.ส. กระบี่ เขต 1 หมายเลข 3 ที่ตลาดเทศบาลตำบลเหนือคลอง
โดย นายธนวัช กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับโอกาสให้ลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ นายธนวัช ยังได้ย้ำถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่เกี่ยวกับการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี ที่จะลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง รวมถึงมีนโยบายสนับสนุนให้เด็กได้ดื่มนมโรงเรียนฟรี 365 วัน นอกจากนี้หากตนได้เข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องชาวกระบี่ในสภา ตนจะเดินหน้าผลักดันให้เกิด “มหาวิทยาลัยอันดามัน” ให้เกิดขึ้นที่จังหวัดกระบี่ให้ได้ เพื่อที่จะทำให้ให้ลูกหลานของเราไม่ต้องไปเรียนต่างจังหวัด