"บิ๊กโจ๊ก" เผยพนักงานสอบสวนจีน ร้องขอหลักฐานสำคัญคดีอุ้มฆ่านศ.จีน เตรียมจัดส่งแปลให้ 21 เม.ย.นี้ พร้อมขอไปดูจุดเกิดเหตุและเข้าสอบปากคำ"นางนกต่อ"สาวไทย ประกอบสำนวนคดี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 เม.ย.66 ตำรวจได้พบศพหญิงไม่ทราบชื่อ ถูกนำมาทิ้งที่ บริเวณริมคลองริมป่าบัว ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พื้นที่รับผิดชอบ สภ.บางแม่นาง
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามสืบสวนหาตัวคนร้ายในคดีนี้ จนกระทั่งต่อมา ทราบว่า ผู้ตายคือ น.ส.จิน ซ่าน นักศึกษาชาวจีน ที่ได้เกิดเหตุ ถูกกลุ่มคนร้าย ติดต่อ ส่งข้อมูลภาพถ่ายของผู้ตายไปยังผู้ปกครองที่ประเทศจีน เพื่อเรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงิน 500,000 หยวน หรือเป็นเงินไทยจำนวน 2,500,000 บาท แต่ผู้ปกครองไม่ยอมโอนเงินให้ โดยจากการสืบสวน ภายหลัง จึงทราบว่าศพ ที่พบถูกนำมาทิ้ง คือ น.ส.จิน ซ่าน ที่ถูกเรียกค่าไถ่ในคดีดังกล่าว ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุในคดีนี้ คือ นายโจว เผิงเฟย (Mr.ZHOU PENGFE) อายุ 24 ปี สัญชาติจีน เพื่อนชายคนสนิทของผู้ตาย , นายเฉิน ไซคัง (Mr.CHEN SAIKANG) อายุ 23 ปี สัญชาติจีน และนายโจว เซี่ยงเฟย (M.ZHOU XIONGFEI) อายุ 23 ปี สัญชาติจีน ซึ่งหลังจากการก่อเหตุในคดีนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไป เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2566 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึง ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง ได้ร้องขอต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ
ผู้ต้องหาดังกล่าว ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่192/2566, 193/2566, 194/2566 ในข้อหา “ร่วมกัน เอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไปโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายหรือวิธีการข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายซึ่งให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอา ตัวไปถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง นั้นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ โดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันทำให้เสียหายหรือเคลื่อนย้าย ทำลาย ซ่อนเร้น ยักย้าย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพหรือสวนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุ แห่งการตาย และร่วมกันลักทรัพย์
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จึงได้ ประสานงานไปยัง อุปทูตจีน ประจำประเทศ เพื่อประสานทางจีนติดตามจับกุม ทราบว่า ขณะนี้ ทางการจีนได้ควบคุม ผู้ต้องหาชาวจีน ทั้ง 3 คน ไว้แล้ว โดยจับกุมได้ที่มณฑลหูเป่ย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จึงได้ ส่งทีมสอบสวน สตม. เพื่อนำหลักฐานและให้ข้อมูลกับทางการจีน เพื่อซักถามผู้ต้องหาชาวจีน ทั้ง 3 คน และนำลายพิมพ์นิ้วมือ ส่งมายัง พนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง เพื่อเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝง ที่พบใน สถานที่เกิดเหตุ
ขณะนี้ทราบว่า ผู้ต้องหาชาวจีน ได้รับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง และอ้างว่ามีหญิงไทยทำงานในบาร์ ย่านอินทามระ ให้ความร่วมมือ โดยได้รับเงินค่าจ้างในการให้คำแนะนำเป็นจำนวนเงิน 40,000 บาท เพื่อให้ติดต่อกับผู้ตาย โดยหญิงคนไทยแนะนำให้ชาวจีนไม่ก่อเหตุเหตุที่โรงแรมหรือรีสอร์ท เนื่องจากมีกล้องวงจรปิดที่อาจเป็นหลักฐานได้ ส่วนสาเหตุสังหารผู้ต้องหาไม่บอก แต่ยืนยันว่า ไม่มีผลต่อสำนวนคดี เนื่องจาก ตำรวจมีหลักฐานสมบูรณ์แล้ว จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาพบว่านายโจว เผิงเฟย เพื่อนชายคนสนิท เป็นคนเริ่มลงมือสังหารก่อน โดยมีเพื่อนชายชาวจีนอีก 2 คน ให้ความร่วมมือ
นอกจากนี้ จากการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมได้พบว่า มีชาวไทยเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีนี้ คือ น.ส.ชนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดี ในความผิดฐาน เป็นผู้ใช้ ในความผิดฐาน ร่วมกัน เอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไปโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายหรือวิธีการข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายซึ่งให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอา ตัวไปถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง นั้นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ โดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันทำให้เสียหายหรือเคลื่อนย้าย ทําลาย ซ่อนเร้น ยักย้าย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพหรือสวนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้เพิ่มเติม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า อุปทูตจีนได้มาหารือในประเด็นเรื่องแก๊งอุ้มบุญ และกลุ่มทุนจีนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงการประสานขอข้อมูลให้พนักงานสอบสวนจีนที่ได้ร้องขอหลักฐานสำคัญจากพนักงานสอบสวนไทย ได้แก่รายงานการสืบสวนสอบสวนภาษาจีน ซึ่งตนจะทำเรื่องขออนุมัติจากผบ.ตร. และจัดส่งแปลเป็นภาษาจีนให้กับตำรวจจีนในวันที่ 21 เมษายน นี้ ขณะที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนของจีน ร้องขอไปดูจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนไทยจะอำนวยความสะดวกให้ และสิ่งที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของจีนต้องการคือขอเข้าสอบปากคำน.ส.ชนิดา ผู้ต้องหาหญิงชาวไทย เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีดำเนินคดีกับ 3 ผู้ต้องหาชาวจีน
ส่วน 3 ผู้ต้องหาชาวจีน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่ามีแนวคิดอยากได้ตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เนื่องจากกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย จึงมีความประสงค์ดำเนินคดีที่ประเทศไทย พร้อมยอมรับอาจมีความเป็นไปได้ยากเนื่องจากข้อหาคนจีนฆ่าคนจีนด้วยกัน แม้จะเกิดนอกแผ่นดินจีน ทางการจีนมีบทลงโทษสถานหนักถึงขั้นประหารชีวิต แต่จะทำหนังสือเป็นทางการขอดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งทางการจีนก็สามารถดำเนินคดีที่ประเทศจีนได้เช่นกัน