กกต.ประกาศ 67 พรรค มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมตัดสิทธิ 9 ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ -1 แคนดิเดตนายกฯ เนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แจ้งว่า กกต.มีมติเห็นชอบประกาศ กกต.เรื่องรายชื่อพรรคการเมืองที่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ส.ส.4/23) ประกาศ กกต.เรื่องรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ส.ส.4/24) และประกาศ กกต.เรื่อง
การแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี(ส.ส.4/31)ตามที่สำนักงานกกต.เสนอผลการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งและการแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีโดยพบว่าทั้ง 67 พรรคการเมืองเป็นพรรคการเมืองที่มีสิทธิยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.สแบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้ง 1,898 คน พบว่าเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1,889 คน และไม่รับสมัครเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายจำนวน 9 คน
สำหรับการตรวจสอบหลักฐานการแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในจำนวน 43 พรรคการเมือง ที่มีการเสนอรวม 63 คนนั้น พบว่า
เป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามจำนวน 62 คน และเป็นผู้ขาดคุณสมบัติจำนวน 1 คน คือ นายรัฐฐาน์ พีรวิชญ์ธนาภัค สังกัดพรรคราษฎร์วิถี เนื่องจากไม่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่า ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 160 (3) ของรัฐธรรมนูญ 60
ทั้งนี้ ในส่วนของการประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งจะได้ดำเนินการประกาศรายชื่อตามแบบ ส.ส.4/14 และสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดทุกจังหวัดจะเผยแพร่ประกาศฯ ต่อไป โดยผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ที่กกตและผู้อำนวยการการเลือกตั้งไม่รับสมัครสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ประกาศรายชื่อโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการดำเนินกระบวนการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 9 คน ที่ กกต.ตรวจสอบพบว่ามีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ประกอบด้วย 1.น.ส.นารีม๊ะ โต๊ะเล๊ะ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ผู้สมัครลำดับที่ 15 เนื่องจากอายุไม่ถึง 25 ปี มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 41 (2)
2 .นายคณนาถ หมื่นหนู พรรคภูมิใจไทย ผู้สมัครลำดับที่ 44 เนื่องจากถูกคำสั่งจังหวัดพัทลุง ให้พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อย มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 42 (10)
3.นายบุญธรรม คำมี พรรคประชาไทย ผู้สมัครลำดับที่ 15 ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น และขอถอนการสมัครแต่กฎหมายมาตรา 42 (1) ไม่ได้บัญญัติให้ถอนการสมัครแบบบัญชีรายชื่อได้
4.นายณรงค์ อวยศิลป์ พรรคไทยเป็นหนึ่ง ผู้สมัครลำดับที่ 2 ไม่พบข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรคไทยเป็นหนึ่ง
5.นายประวิทย์ แสงสว่าง พรรคประชากรไทย ผู้สมัครลำดับที่ 14 ไม่พบข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรคประชากรไทย
6.พ.ท.ประสาร แสงสว่าง พรรคเสรีรวมไทย ผู้สมัครลำดับที่ 25 ไม่พบข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย
7.นางแขไข ฐิติชญานันท์ พรรคเสรีรวมไทยผู้สมัครลำดับที่ 28 ไม่พบข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรคเสรีรวมไทย
8.นายเสถียร คงปาน พรรคไทยสร้างไทยผู้สมัครลำดับที่ 70 ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและขอถอนการสมัครแต่กฎหมายมาตรา 42 (1) ไม่ได้บัญญัติให้ถอนการสมัครแบบบัญชีรายชื่อได้
9.นายภานุณ์พล จองชัยธนโรจน์ พรรคไทยสร้างไทย ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและขอถอนการสมัครแต่กฎหมายมาตรา 42 (1) ไม่ได้บัญญัติให้ถอนการสมัครแบบบัญชีรายชื่อได้