"เศรษฐา" ยันไม่บั่นทอนแม้บางโพลชี้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ไม่มีอยู่จริง และมั่นใจยังไง ฝ่ายประชาธิปไตยก็จะชนะเลือกตั้ง หลังพบโพลทั้งคนและพรรคนำ พรรคขั้ว3ป. ย้ำนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล1หมื่นไม่ขัด พ.ร.บ.เงินตรา แจง กกต. แล้ว
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แสดงความมั่นใจการเจาะพื้นที่ฐานเสียงจังหวัดราชบุรีได้ โดยกล่าวว่าไม่มีเหตุผลที่จะเจาะไม่ได้ ซึ่งทหารเองก็เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ต้องการความเป็นอยู่ที่ดีและมีสิทธิเสรีภาพในการเลือก โดยมั่นใจหลังจากที่ได้ลงพื้นที่มา 1 เดือน ได้ศึกษาพื้นที่และได้รับการตอบรับจากประชาชน โดยจะเดินหน้าตามเป้าหมายต่อไป ขณะเดียวกันนายเศรษฐาก็ไม่ได้กังวลหากพื้นที่ทหารอาจจะมีการต้องปฏิบัติตามคำสั่ง โดยเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะ และมีความเป็นตัวตนของตัวเอง และยังทราบว่าอะไรที่ทำให้โดนใจ หรืออะไรที่อยากได้ โดยพรรคเพื่อไทยคิดอย่าทำเป็นจึงมีความมั่นใจ
สำหรับผลสำรวจซุปเปอร์โพล์ ที่เปิดเผยข้อมูลการสำรวจว่า "แลนด์สไลด์" ไม่มีอยู่จริง และอาจได้ไม่ถึง 200 ที่นั่ง นายเศรษฐาระบุพร้อมกระเป๋าความคิดเห็นและก็ไม่ได้เป็นอะไรที่บั่นทอนการทำหน้าที่ โดยย้ำที่จะเดินหน้าปราศรัยหาเสียงพบปะกับประชาชนรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น และทำงานหนักต่อไป จะมา 160 180 280 ก็ไม่ได้ทำให้เราย่อท้อ แต่จะยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสและทำงานต่อ
นายเศรษฐายังให้ความเห็นเกี่ยวกับโพลสำรวจความนิยมพรรคการเมืองและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของสื่อมวลชนมติชนเดลินิวส์ ซึ่งพบว่าความนิยมพรรคเพื่อไทยเป็น อันดับ 1 ส่วนพรรคก้าวไกลเป็นอันดับ 2 และพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นอันดับ 4 ส่วนบุคคลนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นำเป็นอันดับ 1 นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร เป็นระดับ 2 และนายเศรษฐาเป็นอันดับ3 นั้นว่า หากผลสำรวจไหนออกมาไม่ดีก็พร้อมที่จะรับฟัง ส่วนอันไหนที่ออกมาดียังไงก็พร้อมรับฟังเช่นกัน โดยไม่ได้ส่งผลให้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน หรือหลักคิด ของพรรคเพื่อไทย โดยพรรคยึด ความต้องการของประชาชน ความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนเป็นที่ตั้ง
เมื่อถามว่าผลสำรวจ พรรครวมไทยสร้างชาติความนิยมเป็นลำดับที่
4 และพรรคพลังประชารัฐความนิยมอยู่อันดับที่ 10 ส่วนบุคคลพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาอยู่ในลำดับที่4 ขณะที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่ในลำดับที่ 10 มองว่าเกมการเมืองจะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่จะชนะการเลือกตั้งหรือไม่นั้น นายเศรษฐาตอบว่ายังคงมั่นใจอยู่ว่ายังไงฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทยมั่นใจในนโยบายในด้านเศรษฐกิจและมั่นใจในตัวผู้สมัคร จะส่งผลให้พรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
เมื่อถามถึงโพสำรวจว่าในหลายพื้นที่คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลสูสี มองว่าพรรคก้าวไกลเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่นั้น นายเศรษฐาระบุว่าไม่ได้ดูพรรคการเมืองอื่นเป็นคู่แข่ง โดยได้ย้ำมาตลอดว่าคู่แข่งของตัวเองนั้น คือความลำบากและความยากจน ความไม่เสมอภาคความไม่เท่าเทียม ที่ยังคงมีอยู่ในสังคม จึงทำให้แต่ละพรรคต้องแย่งกันในการแข่งขันนโยบาย
ขณะเดียวกันก็ไม่ต้องแก้เกมอย่างไร สำหรับแข่งทางการเมืองในเขตเมืองของแต่ละจังหวัด โดยยืนยันจะดำเนินนโยบายตามที่ปราศรัยหาเสียง โดยอาจจะมีการเน้นย้ำบางนโยบายให้มากขึ้น ซึ่งก็ต้องดูจากตัวเลขที่ออกมา
พร้อมกันนี้ยัง กล่าวเพิ่มเติมจากการปราศรัยย่อยว่าขออย่าให้มีการด้อยค่านโยบาย กระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย โดยเป็นหน้าที่ของตัวเองที่จะเตือนสติว่าพรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน
"เป็นหน้าที่ของผมที่จะเตือนสติว่าพรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ซึ่งบางครั้งมีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในสาระที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย อย่างเช่นเหรียญราคา 10,000 บาทจะมีราคาขึ้นลง ย้ำไม่มีขึ้นลง และเปลี่ยนมือไม่ได้และไม่มีการซื้อขาย แต่บางพรรคมีการไปอภิปรายชี้นำซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเทคนิค ทางการเมืองหรือไม่ทราบจริงๆ เชื่อว่าหากประชาชนศึกษาธรรมความเข้าใจควบคู่กับการปราศรัยของพรรค และการชี้แจงของพรรค ก็จะทราบว่านโยบายนี้เป็นนโยบายที่คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน
ส่วนที่มีนักกฎหมายหรือ ส.ว. บางคนออกมาตั้งข้อสังเกตว่านโยบายนี้อาจจะเข้าข่ายขัดต่อ พ.ร.บ.เงินตรานั้น ได้ชี้แจงกกต. และมั่นใจว่านโยบายที่พรรคทำถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย" เศรษฐา ระบุ