ตำรวจตามรวบตัวมือฆ่าปาดคอสาวในห้องพักย่านพระประแดง ขโมยทั้งเงินสดและทองของผู้ตายก่อนหลบหนี ที่แท้เป็นคนใกล้ตัวผู้ตาย
จากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุฆ่าปาดคอ นางสาว วารินทร์ เสือมาก เสียชีวิตในห้องพักย่านพระประแดง ถูกจับตัวได้ในที่สุด หลังจากก่อเหตุ ชิงทองคำหนักเกือบ 6 บาท และกระเป๋าสตางค์ เหตุเกิดวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา
ล่าสุด ตำรวจติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว คือ นายนิรันดร์ หรือ นิด อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ
โดยพ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ หัวหน้าทีมคลี่คลายคดี พร้อม ผู้กำกับสืบจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ชุดฉลามขาวและฝ่ายสืบสวน ร่วมกันคุมตัว นาย นิรันดร์ ได้ที่ห้องเช่าใกล้ สภ.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงสี่โมงเย็นที่ผ่านมา
ตรวจสอบในห้องพักพบ "สร้อยคอทองคำ"ของผู้ตาย และเงินสดบางส่วนที่เหลือจากการขายสร้อยข้อมือทองคำ
เจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุจริง นำกระเป๋าภายมีสิ่งของที่ใช้ก่อเหตุไปโยนทิ้งในป่าหญ้าริมบ่อปลา หมู่ที่ 5 ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจจึงคุมตัวมาชี้จุดที่ทิ้งกระเป๋า ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยและป้องกันผู้ต้องหาหลบหนี อย่างเข้มงวด
จากการตรวจสอบกระเป๋าสะพายหลังที่ผู้ต้องหารายนี้นำมาโยนทิ้ง พบว่าภายใน ตรวจสอบเจอทั้งตลับใส่ทอง กระเป๋าสตางค์ผู้ตาย กระเป๋าใส่เอกสาร พบบัตรประชาชนของผู้ตายอยู่ด้วย
นอกจากนั้น ยังมีมีดพับยาวประมาณ 10 นิ้ว ซุกซ่อนในกระเป๋า ในสภาพที่มีดยังเปื้อนเลือดผู้ตาย รวมถึงเสื้อลายสก็อตขาวดำที่ผู้ต้องหาสวมใส่วันก่อเหตุ ยังมีคราบเลือดและกลิ่นเหม็นคราวเลือดฟุ้งกระจาย
นาย นิรันดร์ ผู้ต้องหาให้การด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ลงมือทำไป ยอมรับว่าก่อเหตุจริง ปีนเข้าจากด้านหลังห้องพัก เพื่อจะเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ เพราะเข้าใจว่าตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในห้อง แต่พอเข้าไป ตอนแรกมองไม่เห็นคน พอรื้อสิ่งของคนตายสะดุ้งตื่นขึ้นมายืนจ้องมอง เขาจึงชักมีดข่มขู่ว่าอย่างร้องเสียงดัง แต่ผู้ตายเอามือกำที่มีดจนถูกบาด จังหวะนั้นจึงจ้วงแทงผู้ตายไปหลายครั้ง ก่อนปาดคอซ้ำหวังฆ่าปิดปาก
จากนั้นก็ค้นเอาทรัพย์สินในห้องทั้งหมดหลบหนีออกมา หลังเกิดเหตุเอาสร้อยข้อมือทองคำไปขายได้เงินมา 6 หมื่นบาท ใช้จ่ายไปบ้างแล้ว จนเหลือเงินประมาณ4 หมื่นบาท และไปเปิดห้องเช่าที่บางเสาธงกระทั่งถูกตามไปจับกุม
พ.ต.อ.โชติวัฒน์ บอกว่า หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว มีการแบ่งทีมการทำงาน กระทั่งได้ผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จาก พฐ.ที่ค่อนข้างเร็ว ทำให้สามารถทราบตัวผู้ต้องหารายนี้ จากนั้นจึงกระจายกำลังควานหาตัว จนกระทั่งไปจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการตรวจสอบ ผู้ต้องหารายนี้ เคยรู้จักกับคนตายมาก่อน และเคยเป็น "ช่างที่ตึกเกิดเหตุ" จึงรู้ทุกซอกทุกมุม อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยอยู่ที่ห้องติดกับผู้ตาย ปัจจุบันห้องดังกล่าวเป็นห้องร้าง ทำให้คนร้ายรายนี้รู้ช่องทางลงมือก่อเหตุ อีกทั้งผู้ต้องหาเคยทำงานที่เดียวกับคนตาย และรู้ว่าคนตายมีความสนิทสนมกับเจ้าของโรงงาน จึงย้อนกลับมา อ้างว่าจะมาขอให้คนตายฝากงานให้ทำ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากพฤติกรรมแล้ว เชื่อว่ามีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ที่จะลงมือก่อเหตุ ส่วนแรงจูงใจ มาจากที่ผู้ตายใส่ทองค่อนข้างเยอะ ซึ่งหลังจากนี้จะขยายผลต่อและคาดว่าจะนำตัวไปทำแผนในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ผู้ต้องหายังมีประวัติเคยโดนจับคดีลักทรัพย์ ที่ จ.ศรีสะเกษ ด้วย