หนุ่มอังกฤษคลั่ง! เผาโรงแรมกลางเมืองเชียงใหม่ แล้วหลบหนี คนเข้าพักติดในอาคารช่วยเหลือกันวุ่น

ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 19 เม.ย. 2566 เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงแรม ย่านสถานีขนส่งอาเขต ถนนแก้วนวรัฐ ซอย 5 ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังโหมลุกไหม้ห้องพักชั้น 2 มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ลูกค้าที่เข้ามาพักโรงแรมติดอยู่ภายในอาคารไม่สามารถหนีออกมาได้ ผู้ประสบเหตุ 6 คน ติดอยู่ที่ชั้น 3 ของโรงแรมทุกคนต่างหนีควันมาเกาะอยู่ริมระเบียงเพื่อหาอากาศหายใน

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ฉีดน้ำระงับเหตุพร้อมกับส่งชุดผจญเพลิงภายในอาคารเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยกระทั่งสามารถช่วยเหลือออกมาได้ทั้งหมดอย่างปลอดภัย โดยทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการควบคุมเพลิงจนสงบ หลังจากที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณชั้น 2 ของตัวอาคารถูกเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย อยู่ในระหว่างการตรวจสอบมูลค่า โดยต้นเพลิงนั้นมาจากบริเวณภายในห้อง 203 ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่ามีชายชาวอังกฤษ อายุ 27 ปี ได้เข้าพักอยู่

นายสหสวรรษ อายุ 23 ปี พนักงานต้อนรับของโรงแรมเผยว่าคาดว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติที่มาพักห้อง 203 โดยชายคนนี้มาพักเพียงลำพังมาเปิดห้องตั้งแต่ช่วงเที่ยง จากนั้นหลังจากที่ตนมาเข้ากะหลังจาก 20.00 น. โดยเมื่อช่วงสี่ทุ่มชายคนดังกล่าวได้มาเอะอะโวยวายที่โต๊ะทำงานพร้อมกับตะคอกใส่ ตนจึงวิ่งหลบจากนั้นชายชาวต่างชาติก็วิ่งหนีไป จากนั้นระหว่างที่กำลังจะเอาผ้าขึ้นไปส่งให้ห้อง 304 เมื่อมาถึงชั้น 2 ก็ได้กลิ่นไหม้พร้อมกับมีควันก็สงสัยว่าห้อง 203 จะเผาห้องก็เลยเข้าไปเปิดห้องก็พบว่าควันตีออกมาจำนวนมากและห้องก็มืดทั้งหมด

ผู้ประสบเหตุที่ติดอยู่บริเวณชั้น 3 ได้เผยว่า ด้านในตึกควันเยอะมากจนหายใจไม่ได้ ควันได้ลอยเข้ามาในห้องด้วยความสงสัยก็เปิดประตูออกไปดูก็พบว่าควันได้พุ่งเข้ามาในห้องจึงพากันหนีตายมาที่ระเบียงพร้อมกับนำผ้าขนหนูชุบน้ำมาปิดจมูกระหว่างรอความช่วยเหลือ

ด้านนายสุนทร ยามสิริ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เผยว่าได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีเหตุเพลิงไหม้โรงแรมจึงพากำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็พบว่ามีควันจำนวนมากและมีผู้ประสบภัยติดอยู่ในอาคารโดยได้หนีมาอยู่บนระเบียงจึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือนำออกมาได้อย่างปลอดภัยทุกราย

อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนได้กันพื้นที่เกิดเหตุเอาไว้ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เพื่อที่จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบเก็บหลักฐาน พร้อมกับให้ชุดสืบสวน สภ.แม่ปิง ดำเนินการติดตามตัวหนุ่มชาวอังกฤษที่เป็นคนเช่าห้องพักและหายไปหลังเกิดเหตุมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป