"ลุงพล ป้าแต๋น" ขอเคลียร์ปมเดินแสวงบุญ หลังสังคมหาว่าเรี่ยไรเงิน น้ำตาคลอไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นลุงพล
เมื่อวันพุธ ที่ 19 เมษายน 2566 ลุงพล ป้าแต๋น ได้ออกรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พร้อมเคลียร์ชี้แจงคดีดังน้องชมพู่ จะจบแบบไหน แต่คดีเก่ายังไม่ทันเคลียร์ ยังมีประเด็นใหม่มาให้เคลียร์กันอีกแล้ว ที่หลายคนว่า การเดินแสวงบุญในครั้งนั้น หวังหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง แถมยังตอบคำถามแบบละเอียดเกี่ยวกับทนายตั้ม กับประเด็นค่าทำคดีน้องชมพู่ 3 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ที่ทั้งสองขอเคลียร์ให้กระจ่าง สามารถติดตามเต็มๆได้ใน ยูทูบ ช่อง 8 https://www.youtube.com/watch?v=sNLbl5NcJSI เท่านั้น
ลุงพลคะ ดิฉันต้องถามนิดนึงนะคะไม่รู้จะเสียรูปการไหมคะ แต่ดิฉันต้องถามค่ะความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ตอนนี้ไปถึงไหน
ลุงพล: เรื่องคดีของหลานชมพู่นะครับ อยู่ในกระบวนการศาลชั้นต้นอยู่ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงเบิกความฝั่งโจทย์อยู่ ตอนนี้ก็ให้ทนายทำงานหน้าที่ของท่านทนายให้เต็มที่ครับ แล้วลุงป้าก็เคารพในกระบวนการยุติธรรม รอขึ้นศาลอีกทีก็เดือนมิถุนายน
แต่ฉันก็ฟังคนโน้นฟังคนนี้มาเยอะตามประสา นั่งอยู่ก็มีแต่คนเล่าเธอสองคน เค้าก็บอกว่ายังไงเธอสองคนก็รอดเพราะเธอมีพวกยูทูบเบอร์พรรคพวก ทำข่าวชี้แจงความจริงนี่โน่นเยอะแยะช่วยกันกระจายให้เธอรอดจริงหรือเปล่า
ลุงพล: จริง ๆ ยูทูบเบอร์เมื่อก่อนตอนอยู่ที่บ้านกกกอก ก็มียูทูบเบอร์ประมาณเกือบร้อยช่องที่ทำข่าวอยู่ที่นั่นแต่ตอนนี้ก็ย้ายมาอยุ่ที่บ้าน จำเปาะดงเหนือ หมู่6 ตำบลกุดดอยคำ ซึ่งเป็นบ้านเกิดผม ตอนนี้ยูทูบเหลือประมาณ 40 กว่าช่อง ก็ครึ่งของครึ่ง (ก็ไม่น้อยนะคะก็ยังเยอะนะ 40 กว่าช่องช่วยรายงานความเคลื่อนไหวของลุงกับป้าสองคน เค้าบอกว่ายังไงก็เถอะก็ต้องรอด เพราะพวกเธอเยอะในสื่อ) ป้าแต๋น : อันนี้ขออนุญาตนิดนึงนะคะว่า ถ้าอยากจะบอกว่ายูทูบเบอร์ทำให้ลุงป้ารอดหรือว่าคนอื่นที่ทำให้ลุงป้ารอดเนี่ยจริง ๆ เราต้องดูตามความจริงทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการของศาล มันต้องอยู่ตรงโน้นดีกว่าเพราะยูทูบเบอร์ทำเป็นกระแสไปเรื่อย ๆก็ทำเป็นรายได้กันปคนที่จะตัดสินจริง ๆ ก็คือ ศาล (ใช่ค่ะแต่เค้าก็บอกว่าถ้าคดีเงียบ ๆ นะเหมือนเป่าสากก็เข้าคุกกันง่าย ๆ แต่ถ้าคดีที่เป็นที่สนใจของประชาชนมีคนช่วยกระพรือส่วนใหญ่อีคดีพวกนี้รอดลุงกับป้าว่าไง) ลุงพล: อันนี้ผมคิดว่าถ้าสังคมคิดแบบนี้นะครับ ถ้าคนที่เป็นคดีดัง ๆ แล้วคนสนใจ แล้วจะต้องรอดอันนี้ผมคิดว่าคงไม่ใช่ เพราะคนที่จะต้องรอดเกี่ยวกับเรื่องที่คนสนใจต้องเคลียร์ตัวเองให้ได้ ซึ่งลุงป้าเองตอนนี้กำลังพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม (ถามหน่อยเธอว่าเธอสองคนรอดหรือเปล่า) ลุงพล: อันนี้เราตัดสินใจสองคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าพยานที่นำสืบต่าง ๆ (อ๋อถ้าเกิดพยานเค้ามาต่อให้เป็นความเท็จ แต่เราก็แพ้ด้วยหลักฐานเราก็ต้องติดคุกหรอ เอ้าก็เราไม่ได้ทำ ยังไงเราก็ต้องรอดเธอก็ต้องมั่นใจสิว่าเธอต้องรอด) ลุงพล: คือความจริงหนะ สิ่งที่ลุงป้าต้องเจอทุกวันนี้ เพราะว่าส่วนหนึ่งมันอาจเป็นที่ลุงให้ข่าวในสื่อมากจนเกินไป เหมือนกับคำพูดทุกอย่างต้องมามัดตัวเอง ที่นี้ก็ต้องมาพิสูจน์ตัวเองด้วยกระบวนการชั้นศาล ซึ่งทุกวันนี้ลุงก็พยายามที่จะออกสื่อให้น้อยลง (แล้วปล่อยลุงไปให้ออกทำไมคะป้า) ป้าแต๋น : ตั้งแต่แรกเราไม่ได้คิดว่ามันจะมาเป็นแบบนี้ด้วยความที่เราอยาก ครั้งแรกที่ลุงพาน้องไปผาก็คือแบบอยากจะขอความช่วยเหลือกลัวมันแบบว่าผ่านไปเฉย ๆ อะไรแบบนี้ เลยเป็นต้นเหตุที่ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นกะเราตรงนี้ แต่ทุกอย่างที่มันเป็นไปมา เราสองคนนี้คือ ถ้าจะไม่พูดเรื่องศาลเรื่องอะไร ถ้าเราบอกว่าเราไม่ได้ทำแต่หลายคนเค้าอาจจะคิดว่า มันทำแน่ มีความสงสัยจนเราเกิดเป็นผู้ต้องหามีอะไรมาพวกนี้ทุกอย่างมันก็คือ (ถามจริงเราสองคนไม่ได้ทำใช่ไหม )ใช่ค่ะ ไม่ได้ทำ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแบบนี้ทุกอย่างมันก็ต้องจบที่ศาล ในเมื่อเราพูดปากอย่างงี้แล้ว ไม่มีใครเชื่อสุดท้ายมันก็ต้องพิสูจน์ด้วยหลักฐานทุกอย่าง
ลุงพล ป้าแต๋นก็รู้นะเรื่องราวของเราไม่ใช่เล็ก ๆ มีคนยืนไม้ยื่นมือ ดิฉันก็ไม่รู้ว่ามาช่วยจริงหรือช่วยไม่จริงหรือมาเกาะกระแสใช้ทนายเปลืองมาก แล้วหนึ่งในนั้นก็มีทนายตั้มเข้ามาช่วยด้วยก็เลยเป็นเรื่องเป็นราวดิฉันต้องถามก่อนตอนนั้นไปรู้จักทนายตั้มได้ยังไง
ลุงพล: ตัวทนายตั้ม ที่ลุงรู้จักก็คือรู้จักเกี่ยวกับเรื่องทำหวย 30ล้าน ก่อนหน้าเรื่องน้องแล้วทีนี้ก็มารู้จักทนายตั้มอีกทีตอนที่ลุงไปปรึกษาคนดังเมืองเพชร ก็ได้เข้าไปยื่นคดีหมิ่นประมาทคนดังอีกคนนึง ก็ไปยื่นตรงที่ศาลอาญารัชดา ก็เลยรู้จักทนายตั้มมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นท่านก็พยายามเดินทางไปที่กกกอก
เห็นทนายตั้มบอกที่เค้าไปต้องออกเงินเองอะไรเอง แต่ลุงพลก็บอกว่าอ๋อต้องช่วยเหลือดูแลที่อยู่ที่กินออกข่าวกันแบบคนละแนวดิฉันว่าต้องมีใครคนใดคนนึงโกหกตกลงยังไงคะเล่าซิ
ป้าแต๋น : จริง ๆ ก็ทนายตั้มท่านเดินทางมา เราไม่ได้จ่ายค่าตั๋วเครื่องบินหรือจ่ายค่าที่พักให้ ส่วนมากก็จะเป็นพาไปทานข้าว เพราะว่าช่วงแรก ๆ คือคดีมันยังไม่ได้เริ่มอะไรมากมายแต่ทุกครั้งที่มา ทนายท่านก็จะซัพพอร์ตตัวเองเราก็จะช่วยในเรื่องของการพาไปทานข้าวประมาณนี้เอง ไม่ได้ให้ (อ้าวแล้วทำไมมันมีข่าวว่าเค้าเอาไปตั้งสามล้านหละ) อันนี้เราก็เหมือนกับว่าได้ยิน ก็คือมันเป็นคำพูดของโซเชียลค่ะ ผ่านมาเรื่อย ๆ ของเอฟซีที่เค้าทำคลิปทำอะไรกันออกมา จริง ๆ ท่านก็บอก ก็มีเอฟซีเหมือนกับว่าโทรมาคุย มาอะไรประมาณนี้อยู่ แต่ที่ว่าสามล้านใช่ไหมคะ ต่อรองเป็นสองล้าน อะไรอย่างเงี้ยจริง ๆ แล้วตัวเงินจะโอนเข้าไม่เข้า อันนี้คือเราไม่รู้จริง ๆ แต่ถ้าว่าเห็นเค้าพูดคุยในสื่อในข่าวในโซเชียลยูทูบพวกนี้เราก็ได้ยินมา (แล้วทนายตั้มเคยมาเรียกร้องเงินกับเราโดยตรงไหม เอาสามล้าน) ไม่เคยค่ะ (แล้วที่มันบอกว่าอี 5 แสนนั้นคืออะไรหละ) อันนั้นเราก็ไม่ทราบค่ะ เพราะว่ามันเป็นโซเชียล มันเป็นคำพูดของโซเชียล (ตายต้องแคปแล้วเก็บมานะ เค้าอาจจะใส่ประเด็นโกหกแล้วทำให้เราเสียหายกันไปหรือเปล่า) มันก็อยู่ที่คนพูดแหละค่ะ ว่าเค้าเอาหลักฐานอะไรหรือเปล่าเราไม่แน่ใจว่ามีกันไหม แต่ว่าส่วนที่เราก็คือ เราก็อยู่ตรงกลางตรงนี้ไม่สามารถที่จะไปรู้ได้ว่ามันจริงเท็จแค่ไหน แต่ได้ฟังมา ได้ยินมา อันนั้นได้ยิน
ลุงกับป้าคะคดีความยังไม่จบนะคะ ศาลยังตัดสินไม่เสร็จ ดิฉันทราบว่าสองคนตอนนี้ก็ทำบุญกันเยอะไปวิ่งสองร้อยกิโลเมตรเพื่ออะไรกันคะ
ลุงพล : เป็นการเดินแสวงบุญครับ(อ๋อเดิน ดิฉันก็นึกว่าวิ่งแบบดาราเค้าวิ่งแล้วเค้าเรี่ยไรเงินตามถนนกันแบบนั้นอ๋อเป็นแสวงบุญเดิน) คือความตั้งใจที่ลุงเองนะครับได้ไปสร้าง ได้สร้างองค์พ่อปู่ปาริจิตนาคราชเป็นงานพระธาตุพนม ทีนี้มันมีช่วงที่ผมบวงสรวง 9 มกราคม เสร็จแล้วมันอยู่ในช่วงเดือนสองถ้าเป็นประเพณีอีสาน ก็จะมีบุญเดือนสามที่คนโบราณคนเฒ่าคนแก่เค้าทำบุญกันมานะครับ ทีนี้บุญเดือนสามที่พระธาตุพนมจัดทุกปี เลยคิดว่าระยะทางสองร้องกิโลเมตร ซึ่งให้ยูทูบไปสำรวจเส้นทางก่อนว่าตัวลุงเองจะเดินไหวไหม ทีนี้ระยะทางมันสองร้อยกว่ากิโลครั้งแรกตั้งใจว่าจะเดินสักสามวัน ทีนี้เส้นทางที่เราจะไปถ้าเดินเท้าเปล่า แล้วช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่ลุงเองก็ยังคิดว่าจะเดินไหวไหม วันละ70กิโลเมตรเลยมานั่งพูดคุยกันหลังจากที่ดูเส้นทางที่จะเดินเลยนัดกันว่าเราจะเพิ่มเวลาในการเดินเป็นสี่วัน ห้าวันเลยตัดสินใจเดินกันที่ 4 วันเป็นอย่างน้อย วันละ50กิโลเมตร แต่การเดินเราต้องมาประชุมพูดคุยกันถ้าใครไม่ไหวให้ขึ้นรถเหมือนตัวลุงเองถ้าไม่ไหวก็ให้ขึ้นรถไปเลย (เดินไปก็จะมีคนช่วยร่วมบุญด้วย) อันนี้เราไม่รับครับ (แต่มีคนเค้าบอกนะว่าการเดินเที่ยวนี้หาเงินใส่กระเป๋าตัวเองแล้วเค้าจะมากล่าวหาได้ไงว่าพวกเธอหาเงินหากำไร) มีรับก็จะเป็นต้นกรรณครับ เราปักต้นกรรณอยู่ที่ลานพ่อปู่ เรารวบรวมทั้งหมดวันนั้นเป็นเงินประมาณสองแสนกว่าบาท (อะไรกันจะทำบุญทั้งทีก็มีคนหาว่าจะมาหากำไรเดี๊ยนอ่านตรงนี้ให้ฟังนะคะ มีคนเค้าบอกท่านทนายอนันต์ชัยรู้จักเค้าใช่ไหมคะ เค้าบอกว่าอย่าเอาวัดพระธาตุพนมไปเกี่ยวข้องสร้างกระแส ตรวจสอบดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นี่ไม่มีมูลหมามันไม่ขี้ แสดงว่าเค้ารู้เลยว่าลุงกับป้าจะหาเงินอีกแล้ว) คือมันมีคนไปร้องเรียนที่วัดแล้วทีนี้ก็ไปบอกว่าทางลุงป้าเองไม่ได้เอาบัญชีวัดไปโพสต์ (แล้วเธอโพสต์บัญชีตัวเองหรอ) จริง ๆ แล้วเป็นบัญชีวัดครับแล้วทางวัดอนุญาต (แล้วทำไมคนอื่นไปบอกว่าเราโพสต์บัญชีตัวเอง) เค้าหาเรื่องครับเป็นคนที่ชอบหาเรื่อง จริง ๆ วันนั้นเราติดต่อทางวัดก่อนเรียบร้อยแล้วจริง ๆ เราไม่อยากจะพูดอะไรมาก เรากะทำบุญให้เสร็จเดินให้เสร็จก่อน ลุงป้าเราเองมียูทูบเบอร์อยู่ด้วยในระหว่างที่เราเดินทางเราทำคลิปทุกอย่างลงไปในโซเชียลทั้งหมด การที่ทำให้คนเชื่อว่าเราบริสุทธิ์ใจอะมันคงยากแต่การกระทำที่เราทำ(ดิฉันถามแบบนี้เลยละกัน เธอเอาเงินบริจาคไปใช้กันหรือเปล่า) ป้าแต๋น : เหมือนกับคดีเลยค่ะ ถ้าบอกว่าเราไม่ได้ทำหลายคนเชื่อไหม มันมีคนไม่เชื่อเก็เหมือนกันกับเงินบริจาคเงินอะไรทุกอย่างก็ตามถ้าเราบอกว่าเราไม่ได้เอาไปตามที่เค้าให้มา เราเอาไปช่วยคนนี้ เราบอกเราไม่ได่เอาไปทำอย่างอื่นคนที่เชื่อก็มี แต่คนที่ไม่เชื่อก็มี
สุดท้าย ลุงพลยังทิ้งท้ายว่า อยากให้สังคมมองไปที่ความจริง ที่เราต้องเจอ เชื่อว่าไม่มีใครอยากเป็นลุงพล ป้าแต๋น ลุงเองก็ถามมาตลอดมีใครอยากเป็นลุงพล ป้าแต๋นบ้าง(น้ำตาคลอ) แฟน ๆสามารถติดตามข่าวคราวทุกความเคลื่อนไหวของสังคมที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนได้ที่รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.15 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27 และรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น!