ทีมข่าวช่อง 8 ได้รับเรื่องร้องเรียน ว่าบ้านหลังหนึ่ง มีขยะกองสุมจนล้นนอกบ้าน ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ทำเพื่อนบ้านเอารถเข้าจอดในบ้านไม่ได้ อีกทั้งภายในบ้านมีขยะจำนวนมากกองอยู่ในบ้านทั้ง 2 ชั้น ล้นออกมาถึงนอกตัวบ้าน มีกลิ่นเหม็นคล้ายปัสสาวะอย่างรุนแรง จนไม่สามารถยืนใต้ลมได้
ล่าสุด คุณ มน นฤพล อาจหาญ ผู้สื่อข่าวช่อง8 ลงพื้นที่ไปที่บ้านหลังดังกล่าว อยู่ในหมู่บ้านทวีทอง 2 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบว่าเริ่มมีเจ้าหน้าที่เข้ามารื้อขยะบริเวณด้านหน้าบ้านหลังดังกล่าวแล้ว และบ้านหลังดังกล่าวคือบ้านของนายสันติ อายุ 52 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นเพียงลำพัง
เบื้องต้น ทีมข่าวได้สอบถามกับเพื่อนบ้านที่ร้องเรียนเข้ามา เล่าว่า อยู่บ้านติดกับบ้านนายสันติ เดือดร้อนมานานมากแล้วเนื่องจากว่าเป็นบ้านทาวน์โฮมที่ใช้ผนังเดียวกัน ทุกเช้าก็มักจะได้ยินเสียงเคาะเป็นประจำสร้างความเดือดร้อนรำคาญ รวมทั้งเรื่องของกลิ่นเหม็นจากขยะที่มาหมักหมมกองสุมอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน แต่ที่กังวลที่สุดคือเรื่องของสัตว์มีพิษ
ขณะที่เพื่อนบ้านอีกคน ยอมรับกังวลในเรื่องของไฟไหม้ เนื่องจากบ้านของนายสันติมีขยะสะสมจำนวนมาก และเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
โดยในระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ พบว่าเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลบางเมือง ใช้รถแบ็กโฮเข้ามารื้อขยะ บริเวณด้านหน้าบ้านของนายสันติออก พร้อมกับนำรถ6ล้อ มาขนขยะออกไปทิ้ง
โดยเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลบางเมืองให้ข้อมูลระบุว่าพยายามเข้ามาเจรจากับนายสันติว่าขยะที่สะสมอยู่นี้อาจจะเป็นอันตรายต่อเพื่อนบ้าน ในตอนแรกนายสันติไม่ยินยอม แต่พยายามไกล่เกลี่ย และถือว่าเป็นการซื้อขยะทั้งหมดนี้ในราคา 1,000 บาท จนนายสันติยินยอม ซึ่งใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงในการขนขยะบริเวณด้านหน้าบ้านนายสันติ ใช้รถหกล้อขนขยะไปทิ้งทั้งหมดรวม 4 รอบ
คุณมน ไปคุยกับนายสันติ บอกว่าจริงๆไม่อยากจะให้รื้อเลยแต่ก็ไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจึงยอมแต่ถ้าถามว่าส่วนตัวแล้วมองว่าไม่คุ้ม เพราะขยะที่ทางเทศบาลรื้อออกไปนี้ หากนำไปขายมีมูลราคามากกว่า 1,000 บาทอย่างแน่นอน อุตส่าห์เก็บสะสมมาตั้งนาน เหตุการณ์นี้ก็มองว่าตัวเองก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นเดียวกัน ทั้งที่เพื่อนบ้านก็สร้างความเดือดร้อน ต้นไม้กิ่งไม้ยื่นเข้ามาในบ้าน
ทีมข่าวจึงนำเรื่องนี้ไปสอบถามกับเพื่อนบ้าน โดยตัวแทนคณะกรรมการหมู่บ้านบอกว่าเรื่องนี้ได้มีการเจรจาพูดคุยกันแล้วเพื่อนบ้านก็จะยอมทำตามข้อเสนอเรียกร้องตามที่นายสันติร้องเรียนโดยจะนำผ้าใบออก และจากพยายามปรับต้นไม้ และไม่ให้มีการนั่งดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาเย็น และถ้าหากนายสันติรู้สึกว่าได้รับความรำคาญใจ หรือเดือดร้อนก็สามารถแจ้งทางคณะกรรมการหมู่บ้านให้เข้ามาช่วยตรวจสอบ
คุณมน ไปคุยกับคุณสันติอีกครั้ง ซึ่งวันนี้ นายสันติ อนุญาต ให้น้องมน ลุยเข้าไปดูในบ้าน ว่าจะเป็นเหมือนที่เพื่อนบ้านกังวลหรือไม่ และภาพที่คุณผู้ชมจะได้เห็นต่อจากนี้ เป็นภาพภายในบ้านที่นายสันติ อนุญาตให้ทีมข่าวของเรา เข้าไปที่แรก
นายสันติ ยังบอกอีกว่าจริงๆแล้วชั้นสองของบ้านก็มีขยะเยอะแบบนี้ แต่เนื่องจากว่าที่นอนค่อนข้างเก่าจึงไม่อยากให้ทีมข่าวของเราขึ้นไปดู และนายสันติยังยืนยันว่าขยะภายในบ้านคงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้านอีกแล้ว ที่สำคัญอยากให้เพื่อนบ้านเคารพสิทธิส่วนบุคคลด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ในบ้านของนายสันติจะมีขยะมากแค่ไหนก็ย่อมทำได้