ไม่เอา 2 ลุง !! "เศรษฐา" ประกาศชัดไม่จับมือ "พปชร.-รทสช." เหตุทำรัฐประหารปล้นอำนาจประชาชน ด้าน "ณัฐวุฒิ" นัดประชาชนรอลุ้นผลเลือกตั้ง 2 ทุ่ม 14 พ.ค. ชี้ "ประยุทธ์-ประวิตร" ควรไปพร้อมกัน
พรรคเพื่อไทย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นำทีมแกนนำ ขึ้นเวทีปราศรัยที่โรงเรียนบ้านวังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นเวทีที่ 4 ของวันนี้ โดยนายเศรษฐา ขึ้นเวทีปราศรัยว่า ก่อนหน้านี้มีเสียงพูด และมีคำถามตลอดเวลา ว่า พรรคเพื่อไทยจะไปร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ โดยขอยืนยันบนเวทีนี้ว่า พรรคเพื่อไทยตั้งใจที่จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ไม่ต้องการร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะ 2 พรรคนี้ มีส่วนทำรัฐประหาร ปล้นอำนาจประชาธิปไตยจากประชาชน เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา ยืนยัน ไม่ร่วมกับ 2 พรรคนี้อย่างแน่นอน ขอต่างคนต่างอยู่
ขณะที่ ปัญหาค่าไฟที่ส่งผลกระทบประชาชน แต่พรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ ยังคงเน้นย้ำถึงนโยบายลดค่าไฟอยู่ หากทำได้จริง ทำไมถึงไม่ทำทันที แต่พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่า หากได้เป็นรัฐบาลค่าไฟ ค่าน้ำมันจะลดทันที เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข รวมถึงย้ำ นโยบายการเปิดตลาดใหม่ การส่งเสริมรายได้ประชาชน 3 เท่า คืนเอกสารสิทธิที่ดินทำกินให้ได้ 50 ล้านไร่ เพิ่มพื้นที่ชลประทาน 15 ล้านไร่ เพื่อให้มีพื้นที่กักเก็บน้ำ ไม่ให้เกิดน้ำท่วม น้ำแล้ง และยังย้ำนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่พรรคคู่แข่งพูดถึงเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มีการด้อยค่าว่านโยบายนี้ทำไม่ได้ แต่ขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็น ทำได้ และให้อย่างแน่นอน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ไม่เหมือนกับรัฐบาลที่ผ่านมาที่หยอดน้ำข้าวต้มไปเรื่อยๆ ดังนั้น วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ในฐานะมือใหม่ที่พึ่งเข้ามาในการเมือง ขออ้อนวอน ขอเสียงจากประชาชนเข้าคูหากาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เพราะไม่ไหวกับ 8 ปีที่ผ่านมาแล้ว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติว่า เป็นนายกรัฐมนตรีที่กู้เงินมากที่สุด มากกว่านายกรัฐมนตรีอีก 28 คนที่ผ่านมาในอดีต ดังนั้น ใครจะชอบ ใครจะเชียร์ ไม่ว่ากัน แต่อยากจะบอกให้ฟังว่า หากปล่อยให้ พลเอก ประยุทธ์ กลับบ้านไป แล้วเดินไปกับเพื่อไทย อนาคตที่ดีกว่ารออยู่ข้างหน้า เพราะถ้าพลเอก ประยุทธ์ ดีจริง คงสุขสบายไปแล้ว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คนเวลานี้ อากาศร้อนทนได้ แต่จะช็อคตายกับบิลค่าไฟ ขึ้นอะไรเร็วขนาดนั้น ดังนั้น กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทจึงจะได้แน่ ต่างจากของพรรคที่บอกว่าจะให้ 700 บาท หรือของพรรคพลเอก ประยุทธ์ ที่จะให้ 1,000 บาท
“และไม่ต้องไปเชื่อไปฟังว่าถ้าเพื่อไทยชนะ เป็นรัฐบาลแล้วจะเอาคนอื่นเป็นนายกฯ ประวิตรน่ะหรอครับ ? ไหวหรอครับ ? ถ้าพลเอก ประยุทธ์ ไป แล้วพลเอก ประวิตร มา ผมไม่อยู่กรุงเทพฯ แล้วมาอยู่ขายล็อตเตอรี่ที่นี่ดีกว่า ประยุทธ์ กับ ประวิตร ควรไปพร้อมกัน 8 ปีมันมากพอแล้ว”
ถ้าจะเปลี่ยนรัฐบาลคราวนี้ นับหนึ่งที่เพื่อไทยก่อน เพราะเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเดียวที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาลปัจจุบันแล้วสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ถ้าคะแนนตัดกันเขาก็เอาไปกิน ส.ว. บอกว่าจะโหวตให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เมื่อไรได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย ส.ส. เมืองเลยจะอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที ไปไม่ได้แน่ ฝืนเจตนาประชาชนไม่ได้แน่ ดังนั้น ถ้าเสียงเพื่อไทยไม่ถึงครึ่ง เขาจะอ้างว่าเพื่อไทยไม่ชนะขาด แล้วตรงนั้นพวกเขาจะกลับมา พร้อมกับสิ่งที่พวกเขาทำอย่างไร้คุณค่ามาตลอด 8 ปี แล้วท่านอย่าไปคิดว่า ประยุทธ์ จะอยู่อีก 2 ปี เพราะจะแก้กติกาในรัฐธรรมนูญ หมื่นหนึ่งจึงไม่ได้ แล้วจะมีหนี้มากว่าเดิม ดังนั้น 14 พ.ค. มุ่งหน้ามาที่เพื่อไทย กาเบอร์ 29 และเขตอื่นหาเบอร์ผู้สมัครเพื่อไทย กาให้เนืองแน่น กาให้เต็มหีบบัตรลงคะแนน แล้วรอผลด้วยกัน เรามีนัดกันสองทุ่มวันที่ 14 พ.ค. ถ้าข่าวออกทางทีวีว่าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เราจะเฮพร้อมกันทันที แล้วตนจะรีบกลับมาหาคนวังสะพุง ขอบคุณคนวังสะพุงโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ระหว่างการปราศรัยของนายณัฐวุฒิ เกิดลมพัดอย่างรุนแรง จนผ้าใบด้านบนและฉากหลังเวทีปลิวว่อน ฝุ่นตลบ ทำให้นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่กล้าเช็ดหน้า เพราะคะแนนพัดมาเต็มเลย