ออนทัวร์​!! บิ๊กป้อม" นั่งรถไฟไปหาเสียงโคราช เสียงกรี๊ดสนั่นสถานีรายทาง บอกไม่ได้นั่งมา 50 ปี เมิน "เศรษฐา" ประกาศไม่จับมือ ย้อนไม่เคยพูดจะจับด้วย

22 เม.ย. 66 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำพรรค จัดทัวร์รถไฟ เดินทางมาที่สถานีกลางบางซื่อไปหาเสียงที่จังหวัดนครราชสีมา

 

พลเอกประวิตร สวมใส่เสื้อโปโลสีขาวทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงิน และใส่กางเกงยีนส์ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี ได้ขึ้นนั่งโบกี้รถไฟชั้นธรรมดา ไม่ปรับอากาศซึ่งเป็นขบวนรถไฟที่มีประชาชนทั่วไปร่วมโดยสารด้วย คือขบวนรถเร็ว 135 กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี จุดหมายปลายทางที่นครราชสีมา แต่ตลอดเส้นทาง เมื่อรถหยุดพักตามสถานีต่างๆ เช่น ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ชุมทางแก่งคอย ปากช่อง ​​ก็มีบรรดาผู้สมัครและแฟนคลับของพื้นที่นั้นๆ มารอให้การต้อนรับ รวมไปถึงมีพี่น้องประชาชน ที่โดยสารรถไฟเข้ามาขอถ่ายรูป ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก หลายคนตะโกนเชียร์ให้พลเอกประวิตร ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 และยังมีหลายคนนำดอกกุหลาบและพวงมาลัยดาวเรืองมามอบให้พลเอกประวิตรด้วย หลายคนพยายามสอบถามว่าพลเอกประวิตรร้อนหรือไม่ แต่ก็ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ว่า "ไม่ร้อน"

 

ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้นั่ง รถไฟมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อยหรือ 40-50 ปี มาแล้ว การเดินทางนั่งรถไฟไปอีสานครั้งนี้หวังจะใช้รถไฟในการพัฒนาพื้นที่ภาคอีสาน เปิดอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงโรงเรียน อาชีวะให้ได้มีงานทำ จะได้ไม่ออกนอกพื้นที่ และช่วยสร้างงานให้พื้นที่ภาคอีสาน

 

ส่วนตั้งเป้าพื้นที่ ส.ส.ภาคอีสาน ไว้เท่าใดนั้น พลเอกประวิตร ขอให้ไปสอบถามนายวิรัช ยอมรับใจอยากปักธงในพื้นที่ภาคอีสานให้ได้ แต่จะได้หรือเปล่าไม่รู้ พร้อมฝากบอกชาวอีสาน ว่า ให้ช่วยเลือกพรรคพลังประชารัฐ จะได้ที่ 1 ตามที่สื่อถาม ส่วนจะเป็นนายกหรือไม่ต้องไปเลือกในสภา

 

ส่วนกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยประกาศไม่จับมือพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ พลเอกประวิตร ย้อนถามสื่อว่า ใคร เมื่อสื่อย้ำว่าเป็นนายเศรษฐา พลเอกประวิตรตอบว่า ไม่เป็นไร ก็ว่ากันก่อนนะ ตนก็ไม่ได้ประกาศว่าจะจับมือ ตนบอกแล้วว่าข้ามความขัดแย้ง อยากให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นหนึ่งเดียวทำงานร่วมกันได้ ส่วนความคิดทางการเมืองใครจะคิดอย่างไรก็ว่ากันไป ตนยังบังคับสื่อไม่ได้เลย และย้อนถามว่าบังคับได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้แล้วจะมาถามทำไม

 

สำหรับแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้งจะเป็นอย่างไรพลเอกประวิตรกล่าวว่า แนวทางนี้ไงแนวทางที่ให้ประชาชนรู้ว่า เป็นคนไทยต้องร่วมมือกัน ต้องอยู่ร่วม รับใช้แผ่นดินเกิด ต้องทำให้แผ่นดินเกิดมีความเจริญ และยอมรับว่าบรรยากาศขนาดนี้เอื้อไปสู่บรรยากาศก้าวข้ามความขัดแย้ง ประเทศเพื่อนบ้านแตกเป็น 4-5 ฝ่าย ยังรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ และนำความเจริญมาสู่ประเทศ แล้วเรายังไม่แตกแยกมาก ยังไม่ได้สู้รบกันมาก ไม่เห็นต้องทำอะไรเลยแต่ต้องทำให้คนมีความรู้สึกว่าเป็นคนไทยต้องตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ก็โอเคแล้วก่อนจะย้อนถามสื่อว่าแล้วคุณไม่โอเคหรือ คุณเกิดมาโอเคหรือไม่ มาเป็นนักข่าวอย่างเดียวเลยหรือ ไม่ทำอย่างอื่นเลยหรอ

 

ภายหลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนพลเอกประวิตร ได้ชี้ไปที่เลข 37 ซึ่งเป็นเลขที่นั่งถัดจากที่ตัวเองนั่ง ซึ่งเป็นหมายเลขของส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

 

อย่างไรกช่วงบ่าย พลเอกประวิตร และคณะจะเข้ากราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวโคราช ก่อนที่ในช่วงเย็นจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ตลาดเซฟวัน เปิดตัวผู้สมัครส.สของพรรคพลังประชารัฐ 16 เขต ของจังหวัดนครราชสีมา​