"เสรีพิศุทธ์" เยือนถิ่นเก่า นครพนม บอกเคยมาราชการ จนได้ฉายา "วีรบุรุษนาแก" ชูนโยบายแก้ปัญหาที่ดิน-ปราบยาเสพติด ขอปชช.เลือก "เสรีรวมไทย" มั่นใจปักธงได้แน่นอน

วันที่ 23 เม.ย.2566 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วย นาย มังกร ยนต์ตระกูล รองหัวหน้าพรรค และประธานภาคอีสาน /นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์พรรค ลงพื้นที่หาเสียงที่ อ.นาแก จ.นครพนม เพื่อแนะนำ นายชาญชัย จำคำปา ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 และขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่โรงเรียนธารน้ำใจ ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีประชาชนจำนวนมาก ร่วมรับฟัง

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาเยือนถิ่นเก่า ตนเคยรับราชการตำรวจ ที่ อ.นาแก เมื่อหลายสิบปีก่อนและได้รับฉายาว่าวีรบุรุษนาแก ตอนนั้นพื้นที่นี้ยังเป็นพื้นที่สีชมพู แต่วันนี้มีการพัฒนาขึ้นเยอะ แต่ยังไม่มากเท่าที่ควรหากเทียบกับพื้นที่อื่นๆ สะท้อนว่า 8ปี ที่ผ่านมารัฐบาลทอดทิ้งหรือไม่ ประชาชนเคยเจอหน้ารัฐมนตรีของรัฐบาลนี้มาเยือนบ้างหรือไม่ อย่างนี้เรียกว่าเหลื่อมล้ำหรือไม่ เชื่อว่าทุกคนน่าจะพิจารณาได้

พรรคเสรีรวมไทยมีนโยบาย14ข้อที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ทันทีหากได้เป็นรัฐบาล นโยบายพรรคตอบคำถามประชาชนได้ทันที เช่น การจัดสรรที่ดินของภาครัฐให้ประชาชนได้อยู่อาศัยและทำกิน ตรงนี้จะสร้างประโยชน์ให้มากกว่าการที่หน่วยราชการกอดที่ดินไว้เฉยๆและไม่ทำประโยชน์อะไร หรือการยกหนี้ กยศ.นั้น เยาวชนและผู้ปกครองจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนได้มาก และนำเงินเหล่านั้นไว้ลงทุนด้านอื่นๆในชีวิตจะคุ้มค่าและสร้างประโยชน์กลับคืนให้ประเทศได้หลายเท่า

ส่วนปัญหายาเสพติด หากประชาชนเลือกพรรคเสรีรวมไทยให้ตนได้เป็นรัฐบาล และให้นายชาญชัยเป็นส.ส.ในเขตนี้ รับรองว่าไม่กี่เดือนยาเสพติดหายเกลี้ยง สังคมรู้ว่าตนเป็นคนจริง พูดคำไหน คำนั้น หากหน่วยงานใดไม่เร่งจัดการตามนโยบายพรรคในการปราบเสพติด ตนจะย้ายที่ทำงานให้เอง แล้วส่งคนดีมีฝีมือมารับหน้าที่แทน เพราะเลือกตั้งครั้งนี้ตนส่งผู้สมัครส.ส.หน้าใหม่ลงแข่งขันแทบทุกเขต และน่าจะได้คะแนนดีกว่าครั้งที่แล้ว เพราะประชาชนรู้จักผลงานของพรรคใน4ปีที่แล้ว เพราะการลงพื้นที่แต่ละครั้งประชาชนสนใจและขอถ่ายภาพกันเยอะแยะ และขออภัยล่วงหน้าหากบางเขตตนอาจไม่ได้ไปหาเสียง

ดังนั้น มั่นใจว่าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะอีกฝ่ายหนึ่งได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ และขอให้ประชาชนช่วยจับตาการทุจริตเลือกตั้งด้วย เพราะมีกระแสข่าวมาเรื่อยๆแล้ว โดยเฉพาะจากอีกฝั่งหนึ่งที่หาโอกาสโกงมาตั้งแต่ก่อนการยุบสภาแล้ว