รวบแล้ว รปภ.โหด แทงวินดับ 11 แผลย่านบางกรวย นนทบุรี โดยไปจับได้ที่สระบุรี สารภาพไม่รู้จักคนตาย หวังชิงทรัพย์เพราะไม่มีเงิน ด้านพ่อผู้ต้องหาเผยเคยถูกลูกต่อยเบ้าตาแตก
จากกรณีคนร้ายใช้มีดแทงนายเอกชัย วินรถจักรยานยนต์ เบอร์ 3 อายุ 43 ปี ถึง 11 แผลเสียชีวิต ก่อนอำพรางศพผู้ตายไว้ตรงพงหญ้าข้างทางปูนใกล้หมู่บ้านกลางเมือง ปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์ ถนนเลียบทางรถไฟ ย่านบางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อช่วง 09.20 น. วันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา
ผ่านไป 14 ชั่วโมงตำรวจจับกุมคนร้าย คือ นายพรชัย หรือโจ วัย 31 ปี รปภ. เป็นคนจังหวัดสระบุรี หลังก่อเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีไปที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ขณะจับกุมนายโจ ยังโกหกว่า ผมทำงานไม่ไหว เพราะหัวหน้าหน่วยเขาทิ้งผมเหมือนหมาข้างถนนตัวหนึ่ง ย้ำคำนี้สองรอบ เมื่อตำรวจถามว่าไปเอาอะไรของคนตายเขามาบ้าง อยู่ๆ นายโจ พูดว่า พี่ถามอะไรแปลกๆ
นายโจ อ้างเพิ่มเติมว่า หัวหน้างาน รปภ.หลอกเงินเอาเงินไป แล้วทิ้งให้ไปขึ้นรถแปลกๆ จึงไปก่อเหตุเอารถจักรยานยนต์มา ก่อนขายให้เพื่อน
ช่วงเที่ยงวันที่ 23 เมษายน ตำรวจสภ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คุมตัวนายโจ ผู้ก่อเหตุ ไปทำแผนฯ จุดแรกเป็นจุดเกิดเหตุช่วงโค้งเข้าทางเท้าเลียบคลองบางพลัด อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยตำรวจได้นำคนร้ายมาจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ ใช้กิ่งไม้แทนอาวุธมีด ซึ่งคนร้ายบอกว่าเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายสั่งให้ผู้ตายเลี้ยวจอรถช่วงโค้ง จากนั้นลงมือแทงโดยถือมีดด้วยมือซ้าย ลักษณะคว่ำมือ จากนั้นแทงคอผู้ตายในจังหวะที่ผู้ตายไม่ทันตั้งตัว จนคนตายจะล้มลง ก่อนที่คนร้ายจะมาหันหัวรถจักรยานยนต์แล้วขี่หลบหนีไป
จังหวะที่ตำรวจกำลังจะปิดประตูรถพาผู้ต้องหาไปทำแผนอีกจุด มีไรเดอร์กลุ่มหนึ่งที่วิ่งอยู่ในพื้นที่ มาตะโกนด่าทอผู้ก่อเหตุ บอกทำร้ายคนทำมาหากิน มารอดูหน้า มันฆ่ากี่คน ครอบครัวต้องตายทั้งเป็น พร้อมทั้งใช้ทางมาเป็นสิบปี ยังไม่เคยเกิดเหตุมาก่อนในพื้นที่นี้
ช่วงที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหามา นักข่าวได้ถามว่าทำไมถึงฆ่านายเอกชัย รู้จักมาก่อนหรือไม่ ซึ่งนายโจบอกว่า ไม่รู้จักกับผู้ตาย หวังชิงทรัพย์เพราะไม่มีเงิน
ส่วนจุดที่สองที่พาคนร้ายมาทำแผนนั้น เป็นบริเวณหน้าคอนโด ที่คนร้ายเรียกผู้ตายมาพูดคุยหน้าทางเข้า ก่อนที่คนร้ายจะซ้อนรถผู้ตายออกไป ซึ่งตรงกับภาพกล้องวงจรปิดที่ทีมข่าวเราไปได้มา โดยบรรยากาศทำแผนจุดนี้ตึงเครียด มีคนที่รู้จักผู้ตายมารอดูหน้าผู้ต้องหา โดยตำรวจพาทำแผนตอนเรียกรถพูดคุยกันก่อนคนร้ายจะให้ขี่รถออกไป แล้วไปก่อเหตุ มีช่วงที่ตำรวจพาตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ มีชายเสื้อดำปรี่มาจากทางคอนโดเข้าชกผู้ต้องหา ตำรวจจึงรีบพาตัวผู้ต้องหาขึ้นรถก่อนขับออกไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาทำแผนจุดที่สองราว 2 นาทีเท่านั้น
จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า พฤติการณ์ของคนร้ายหวังชิงทรัพย์ เนื่องจากทำงานเป็น รปภ. เงินเดือน 8,000 บาท แต่เงินไม่พอใช้ จึงมาดูลาดเลาแถววินมอเตอร์ไซต์ จากนั้นสังเกตยี่ห้อรถ พบคนตายขับรถสภาพใหม่ เป็นรุ่นที่มีราคาเกือบ 6 หมื่นบาท จึงสบโอกาสก่อเหตุหวังชิงรถไปขายได้เงิน 30,000 บาท จึงทำเป็นว่าจ้างผู้ตายให้ไปส่งยังที่พักแถวสวนผัก ตลิ่งชัน พอได้จังหวะลวงเข้าโค้งทางเปลี่ยว แล้วจ้วงแทงถึง 11 แผล ก่อนขี่รถของผู้ตายหลบหนีไปโดยนำกระเป๋าสตางค์ มีบัตรประจำตัว บัตรเครดิต และเงินสด 1,000 กว่าบาทของผู้ตายติดตัวไปด้วย
ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายโจ ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ใน อ.เมือง จ.สระบุรี พบกับนายสมพร พ่อของผู้ก่อเหตุ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่านายโจ เป็นลูกชายคนเล็กของตน ซึ่งก็เพิ่งจะรู้จากลูกชายคนโตที่โทรมาบอกว่า นายโจไปก่อเหตุแทงคนตาย ซึ่งตนเองก็รู้สึกตกใจและเสียใจมาก อยากฝากขอโทษไปถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย
นายสมพร ยังได้เปิดเผยว่า ตนเองก็เคยโดนลูกชายชกเบ้าตาจนเบ้าตาแตก ต้องไปรักษาตัวใน รพ. กว่าสัปดาห์ เพราะไปเตือนลูกชายเรื่องให้ล้างจาน โดยนายโจมีพฤติกรรมรุนแรงอะไร หลังจากที่ไปประสบอุบัติเหตุล้ม ก็มีอาการไม่ปกติคล้ายคนป่วยจิตเวช เคยก่อเหตุทำร้ายคนในบ้านบ่อยครั้ง
จากนั้นลูกชายก็ได้ออกจากบ้านไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยไปทำงานเป็น รปภ.ที่กรุงเทพฯ และเพิ่งกลับมาถ่ายบัตรประชาชนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ส่วนเรื่องการประกันตัวนั้นต้องลองปรึกษากับทางภรรยาก่อน เพราะภรรยานั้นติดต่อกับลูกมากกว่าตนเอง และตนกับภรรยาก็ได้เลิกกับตัวเองไปแล้ว ส่วนตัวตอนนี้ก็ยอมรับว่า ไม่มีเงินไปประกันตัว
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณโดยเปิดเผย หรือไม่มีเหตุอันควร