"โชเฟอร์-กระเป๋า" ขอขมาศพยาย83ปีถูกรถเมล์ทับ ด้านญาติอโหสิกรรมให้
จากเหตุรถเมล์สาย 66 เลี้ยวรถชนร่าง น.ส.ยุพิน หะยากุล อายุ 83 ปี นอนบาดเจ็บอยู่ที่พื้นทางม้าลาย เช้าวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
วันนี้ครอบครัวเดินทางมารับศพนางสาวยุพิน ที่ห้องนิรมัย (นิติเวช) โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยยังอยู่ในอาการโศกเศร้ากับการจากไป โดยทางครอบครัวจะนำร่างคุณยายไปทำพิธีทางศาสนาที่ วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต
ขณะเดียวกัน นายอำพน อายุ 35 ปี คนขับรถเมล์ และนางสาวชนม์ชนก อายุ 30 ปี กระเป๋ารถเมล์ ถือพวงมาลัยคนละพวงมาขอขมานางธัญพร ตันเจริญ อายุ 84 ปี อาของผู้เสียชีวิต
โดยนางธัญพร ก็ได้พูดปลอบทั้งคู่ว่า "ไม่ถือโทษโกรธใคร และขออโหสิกรรมให้ทั้งคู่ หลังจากนี้ก็ให้กลับไปทำงาน และจงมีสติกับทุกอย่าง"
นายอำพน ยกมือไหว้นางธัญพร ด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ก่อนบอกว่า "ขอโทษจริงๆ ยอมรับว่ามองไม่เห็นผู้เสียชีวิต และมองไม่เห็นรถคันอื่น โดยตนขับมาปกติ และเลี้ยวตามสัญญาณไฟเขียว เพราะเป็นรถคันแรกที่เลี้ยว ไม่ได้ขับด้วยความเร็วอย่างแน่นอน ตอนนี้ทุกข์ใจมาก ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งตนได้ช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างดี และมีกฎระเบียบของต้นสังกัดที่จะช่วยเหลือเยียวยา ส่วนเส้นทางถนนจุดนี้ ตนขับคุ้นทางดี และเพิ่งเปลี่ยนเส้นทางมาใช้เส้นทางนี้ได้ไม่ถึงปี
ขณะที่นางสาวชนม์ชนก ร่ำไห้ทั้งน้ำตา ก่อนบอกว่า ขอโทษ ตนไม่รู้เรื่อง เพราะเก็บเงินค่าโดยสารอยู่ด้านหลังรถ และตนไม่ได้อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น แต่พอเกิดเหตุก็รีบวิ่งลงไปดูผู้เสียชีวิตทันที ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนางธัญพร ก็บอกว่า อโหสิกรรมให้กับทั้งคู่ ตอนแรก และไม่ติดใจอะไร ไม่โกรธแค้น เพราะเชื่อว่าเป็นเวรกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ในใจก็ยังทำใจไม่ได้ ใจจะขาด เพราะอยู่ด้วยกันตั้งแต่เล็ก-กินข้าวนอนด้วยกันตลอด แต่ ขสมก. ก็ยืนยันว่า จะดูแลตามระเบียบขั้นตอน ซึ่งในส่วนของคดีความ ยังอยากขอดูกล้องวงจรปิด เพื่อความแน่ชัด
ทีมข่าวช่อง8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด 2 มุม บันทึกภาพช่วงเวลาเกิดเหตุ เหตุการณ์เกิดตอนเวลา 7 โมงเศษๆ จังหวะนั้นยายยุพิน อายุ 83 ปี เดินข้ามทางม้าลายผ่านหน้ารถเมล์ไป แต่รถเมล์กำลังเลี้ยวขวามาพอดีหักพวงมาลัยไม่พ้นคน ทับร่างคุณยาย นอนได้รับบาดเจ็บอยู่ที่พื้น (ตอนนั้นยังไม่เสียชีวิต)
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่อหน้ารถจักรยานยนต์ที่อยู่ตรงนั้น และยังมีพ่อค้าแม่ขายกำลังขายของกัน ทุกคนต่างรีบแจ้งเจ้าหน้าที่และเข้าไปช่วยเหลือคุณยายที่บาดเจ็บ
ทีมข่าวสังเกตว่าจุดเกิดเหตุตรงแยกศรีย่าน ถนนสามเสนนั้น เป็นแยกไฟแดงที่บังคับเดินรถทางเดียว เนื่องจากมีการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีศรีย่าน ทำให้ต้องปิดการจราจรตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ดังนั้นรถทุกคันที่จะไปแยกบางกระบือต้องเลี้ยวขวาขับอ้อมไปทางแยกร่วมจิตต์ เลี้ยวซ้าย จะทางแยกบางกระบือ
เมื่อลองข้ามถนนตรงจุดเกิดเหตุ พบว่าต้องระวังรถสองทาง ทั้งรถที่จะเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด และรถที่จะเลี้ยวขวาเลี่ยงทางก่อสร้างรถไฟฟ้า ทำให้ต้องระวังก่อนข้ามมากเป็นพิเศษ
โดยช่วงบ่ายสองที่ผ่านมา ญาตินำร่างคุณยายยุพินมาที่วัดจันทรสโมสร มีญาติผู้เสียชีวิต คนขับและกระเป๋ารถเมล์สาย 66 คันเกิดเหตุ และตัวแทนขสมก. ร่วมงาน
โดยมีจังหวะที่คนขับรถเมล์คันเกิดเหตุก้มกราบอาของผู้เสียชีวิต โดยนายบิ๊กคนขับน้ำตาไหลตลอดเวลา พร้อมเปิดเผยว่า จะบวชหน้าไฟให้คุณยาย ทำดีที่สุดแล้ว เสียใจจริงๆ นักข่าวถามว่าจะกลับไปขับรถเมล์ไหม เจ้าตัวยังพูดไม่ถูก จิตใจยังแย่อยู่
ฝั่งญาติของผู้ตายเปิดเผยหลังดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วไม่ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มองว่าเป็นอุบัติเหตุ หลังจากนี้หลานจากไปแล้วต้องอยู่คนเดียว รู้สึกไม่เหมือนเดิม
ทางครอบครัวตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดจันทรสโมสร 3 วัน ก่อนมีพิธีฌาปนกิจ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ขณะที่ นายสมหมาย ชูเลิศ หัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการรถ กอง 3 เขต 7 ขสมก. ระบุว่า ตอนนี้ได้สั่งพักงานทั้งคู่ไปก่อน เพื่อให้ไปเคลียร์เรื่องของคดีความกันก่อน โดยยืนยันว่า ต้นสังกัดจะยื่นกรมธรรม์จากบริษัทประกันในการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทราบว่าน่าจะอยู่ที่หลักแสนถึงหลักล้านบาท
"ส่วนคนขับรถเมล์รายนี้ ขับมานาน 3-4 ปี และไม่มีเรื่องร้องเรียนมาก่อน รวมถึงยังมีพฤติกรรมที่ดี ซึ่งในช่วงเกิดเหตุ GPS ในรถ วัดความเร็วในขณะนั้นได้ 20-24 กิโลเมตรต่อชั่วโมง" นายสมหมาย กล่าว
ในส่วนของคดี พ.ต.อ.นิพนธ์ นิติการุณย์เลิศ ผู้กำกับการ สน.สามเสน เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรของแพทย์อย่างละเอียด เพื่อนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหากับนายอำพล คนขับรถเมล์ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากระทำความผิดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิด ได้ดูทั้งหมดแล้ว พบว่า คุณยายยุพินเดินข้ามทางม้าลายผ่านหน้ารถเมล์ไปแล้ว แต่รถเมล์มาทีหลังแล้วเลี้ยวทันที แต่ปรากฏว่า ไม่พ้นคุณยายยุพิน ทำให้ถูกรถชนเสียชีวิต พร้อมทั้งยืนยัน ไม่มีรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนตามที่มีกระแสข่าว ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ ว่าจะติดตั้งสัญญาณไฟให้คนข้ามทางม้าลายเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก