พ่อค้าหมูปิ้งวิ่งหนีตาย ฝูงผึ้งหลวงรุมต่อยดิ้นทุรนทุราย สาวเจ้าของร้านอาหารช่วยโยนผ้าให้คลุมตัว

เกิดเหตุฝูงผึ้งหลวงรุมต่อยพ่อค้าหมูปิ้ง บริเวณหน้าร้านคลีนเหนือมอ ร้านอาหารเพื่อสุขภาพในซอยวัดอุโมงค์ตำบลสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านบันทึกเหตุการณ์พ่อค้าวิ่งผ่านหน้าร้านไป 1 รอบ ก่อนจะวิ่งกลับมาที่หน้าร้านอีกครั้ง แล้วล้มลง ดิ้นทุรนทุรายปัดป้องฝูงผึ้ง จากนั้นก็มีคนที่อยู่ในร้านเสี่ยงเปิดประตูออกมาโยนผ้าคลุมโต๊ะไปให้ใช้คลุมตัว สักพักฝูงผึ้งจึงบินหายไป

ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าร้านคลีนเหนือมอ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่นายศักดิ์ (ผู้บาดเจ็บ) โดนฝูงผึ้งหลวงต่อยเพียง 30 เมตร พบ น.ส.วนัชพร อายุ 27 ปี เจ้าของร้านคลีนเหนือมอ ผู้ให้ความช่วยเหลือ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ตามคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.05 น. วันที่ 24 เม.ย. 2566

ระหว่างที่เปิดร้านขายของอยู่ แต่ปิดประตูกระจกหน้าร้านไว้ เห็นผู้ชายที่เป็นพ่อค้าขายหมูปิ้งตั้งอยู่ไม่ห่างร้าน วิ่งส่งเสียงดังพร้อมกับยกมือปัดป้องผ่านหน้าร้านไป แต่สักพักวิ่งย้อนกลับมาล้มลงที่หน้าร้าน ทำให้ตัวเองเห็นว่ากำลังโดนฝูงผึ้งไล่ต่อย จึงตั้งสติหยิบผ้าคลุมโต๊ะในร้านแล้วเปิดประตูโยนออกไปให้พ่อค้าหมูปิ้งใช้คลุมตัวป้องกันตัวจากฝูงผึ้ง

หลังจากที่ใช้ผ้าคลุมได้สักพักหนึ่งแล้วฝูงผึ้งได้บินหนีไป และตัวเองได้เปิดประตูร้านนำตัวพ่อค้าหมูปิ้งเข้ามาช่วยปฐมพยาบาล พร้อมกับเรียกรถกู้ภัยมาให้การช่วยเหลือจนปลอดภัย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองรู้สึกตกใจมาก และนำคลิปไปโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์

ส่วนนายศักดิ์ พ่อหมูปิ้ง วัย 42 ปี พบว่าไม่มีอาการ แพ้พิษผึ้ง โดยวันนี้ (25 เม.ย.) ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลแพทย์ได้ให้ยาแก้แพ้ แก้ปวด และเช้าวันนี้ก็ได้กลับมาขายของตามปกติ บอกว่าตั้ง แต่ตนเปิดร้านขายหมูปิ้งมา ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ นี่เป็นครั้งแรก โชคดีที่ตนไม่มีอาการแพ้ใดๆ แต่ก็โดนต่อยไปหลายสิบตัวอยู่เหมือนกัน ที่ศีรษะ โหนกคิ้วซ้าย และตามร่างกาย ตอนนี้ยังมีอาการปวดอยู่บ้าง ก็กินยาแก้ปวดแก้แพ้บรรเทาอาการ แต่ยังดีที่ไม่มีอาการแพ้พิษจากเหล็กใน

นอกจากนี้ ยังได้แจ้งประสานไปยังเทศบาลตำบลสุเทพ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ ให้สำรวจหารังผึ้งหลวงดังกล่าวและย้ายออกไป เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุเป็นอันตรายต่อคนในชุมชน โดยพบรังผึ้งหลวงขนาดประมาณ 30-40 เซนติเมตร อยู่บนหอพักแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลเตรียมย้ายออกไปจากชุมชน พร้อมกับสำรวจว่ายังมีรังผึ้งหลวงรังอื่นๆ ที่อยู่ในจุดเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายอีกหรือไม่

สำหรับธรรมชาติของผึ้งหลวงนั้น ตามปกติมักจะทำรังอยู่ในพื้นที่ป่า แต่ในช่วงฤดูร้อนหรือหน้าแล้งที่เกิดสภาพแห้งแล้งและมีไฟไหม้ป่า ผึ้งหลวงจะหนีออกจากป่ามาทำรังตามต้นไม้ และบ้านเรือนประชาชน ขณะที่เมื่อผ่านพ้นช่วงสภาพแห้งแล้งและไม่มีไฟไหม้ป่าแล้วจะย้ายรังกลับไปในป่าตามเดิม ซึ่งลักษณะนิสัยของผึ้งหลวงนั้นจะค่อนข้างดุร้ายและหวงรัง โดยหากรู้สึกว่าถูกรบกวนหรือคุกคามทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็พร้อมจะโจมตีทันที