"จรยุทธ" ก้าวไกล กทม. จี้ "กกต." ต้องมีคำตอบ !! ทำไมโลโก้พรรคในหนังสือรายชื่อพรรคการเมือง สีซีดจางแทบมองไม่เห็น เรียกร้องแก้ไขด่วน

นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 3 (เขตบางคอแหลม-ยานนาวา) เบอร์ 4 พรรคก้าวไกล ไปสำรวจหน่วยเลือกตั้งในเขตบางคอแหลมพบว่า โลโก้พรรคก้าวไกลบนหนังสือรายชื่อพรรคการเมืองที่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ส.ส.4/23) ที่ติดบนบอร์ดหน้าคูหา ซีดจางจนแทบมองไม่เห็นโลโก้พรรค ขณะที่โลโก้พรรคอื่นมีความคมชัดเป็นปกติ

 

จรยุทธตั้งข้อสังเกตว่า หากสิ่งที่เกิดขึ้น มาจากความผิดพลาดในขั้นตอนการพิมพ์ สีหมึกที่ซีดจางก็ควรซีดทั้งหน้ากระดาษ แต่วันนี้ที่ไปสำรวจกลับพบว่าหมึกซีดเฉพาะโลโก้ของพรรคก้าวไกล จึงต้องตั้งข้อสงสัยถึงความไม่ชอบมาพากลว่า นี่คือความจงใจหรืออย่างไร กกต.ต้องมีคำตอบและดำเนินการแก้ไขโดยด่วน พร้อมกันนี้ ขอฝากไปถึงผู้สมัครเขตอื่น ๆ ทั่วประเทศ ให้ลงไปสำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งของตัวเอง หากเกิดข้อผิดพลาดและความผิดปกติเหมือนเขตบางคอแหลม จะได้ช่วยกันเรียกร้องความรับผิดชอบให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการแก้ไขโดยด่วน

 

จรยุทธระบุว่า ตนยังไม่อยากปักใจว่านี่คือกลเกมทางการเมือง และเรียกร้องไปยัง กกต. ว่าช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ที่ กกต. มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ยิ่งต้องสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนให้มากที่สุด พรรคก้าวไกลและไม่ว่าพรรคใดจะชนะหรือแพ้การเลือกตั้ง ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน กกต. ควรอำนวยความสะดวกในการจัดการเลือกตั้งให้ดีที่สุด อย่าเป็นปัจจัยชี้นำหรือทำให้เกิดผลได้เสียในการเลือกตั้งเสียเอง

 

ด้านชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า กกต. ต้องตรวจสอบเรื่องนี้และชี้แจงต่อประชาชน เพราะต้องไม่ลืมว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีหลากหลายวัย หากโลโก้ของพรรคใดซีดจางกว่าพรรคอื่นๆ ย่อมมีผลต่อการมองเห็นและการลงคะแนน รวมทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้ มีบัตร 2 ใบ ในบัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีแค่หมายเลขพรรค โลโก้ และชื่อพรรค ดังนั้น หากโลโก้ซีดจางอาจทำให้ประชาชนสังเกตได้ยาก ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง ถ้าความผิดพลาดเช่นนี้เกิดขึ้นกับบัตรเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง กกต. จะรับผิดชอบอย่างไร

 

ดังนั้น จึงต้องเรียกร้องไปยัง กกต. ซึ่งมีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม ต้องให้ความชัดเจนว่าเพราะอะไรโลโก้พรรคก้าวไกลจึงซีดจางกว่าพรรคอื่น อย่าให้ประชาชนกังขากับการทำหน้าที่ของ กกต. ไปมากกว่านี้ ทุกพรรคการเมืองควรได้แข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน