"มาดามเดียร์" ชี้ "ไข่ต้ม" สะท้อนความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่เรื่องโรแมนติก ซัดนักการเมืองบางคนอย่าผูกขาดคำว่า "รักชาติ" แล้วไล่คนเห็นต่างไปนอกประเทศ

วานนี้ (25 เม.ย. 66) เวลา 20.00 น. ที่พารากอนฮอลล์ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมเวที Debate เลือกตั้ง66 โดยได้เริ่มการกล่าวถึงเหตุผลที่ต้องเบือกพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยการชูไข่ต้มขึ้นมา แล้วถามว่าเมื่อเห็นไข่ต้นทุกคนได้เห็นอะไรบ้าง ซึ่งตนเองนั้นเห็นถึงความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน สำหรับใครหลายคนอาจจะหมายถึงชีวิตของเขาที่จะต้องกินเพื่อประทังชีวิต เพราะไม่มีทางเลือก แต่สำหรับคนบางกลุ่มที่เขามีโอกาสเหลือเฟือ ไข่ต้มกับกลายไปเป็นเรื่องโรแมนติก เรื่องสวยงาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังสะท้อนว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย วันนี้ได้ฝังรากลึกไม่ใช่เฉพาะในโครงสร้างสังคม แต่มันกำลังฝังรากลึกไปจนถึงวิธีคิดของผู้นำและผู้บริหารประเทศ

“และนี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เรามุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมในระดับโครงสร้าง เพราะพรรคประชาธิปัตย์เราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่รัฐจะต้องทำ นั่นคือต้องทำให้ประขาชนมั่นใจได้ว่าแม้เขาจะเริ่มต้นชีวิตที่ติดลบ แต่เขาจะต้องมีโอกาสในการสร้างชีวิตเหมือนกับคนอื่นที่มีชีวิตดีกว่าเขาได้” น.ส.วทันยา กล่าว

น.ส.วทันยา ยังได้ตอบคำถามในรอบดีเบตถึงนิยามของคำว่า “ชาติ” ว่า สำหรับตนนั้น คำว่า “ชาติ” คือ การหลอมรวมความหลากหลายของประชาชน เพราะนั่นหมายถึงว่า ไม่ว่าเราจะมีชาติพันธุ์แบบใด ไม่ว่าเราจะมีรูปพรรณ จะมีฐานะทางสังคมแบบใด หรือว่าจะมีวัฒนธรรม ศาสนาแบบใด และที่สำคัญไม่ว่าเราจะมีความคิดอุดมการณ์ทางการเมืองแบบใด “ชาติ” คือ การรองรับความแตกต่างหลากหลายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ดังนั้นรัฐที่มาจากประชาชน เป็นตัวแทนของประชาชนจะต้องทำหน้าที่ในการตอบสนองประชาชน ปกป้องคุ้มครองประชาชน และที่สำคัญจะต้องให้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน เราจะไม่สร้างความขัดแย้ง และที่สำคัญที่สุดจะต้องไม่ผูกขาดความรักชาติเป็นของตนเองเพียงคนใดคนหนึ่ง

“ซึ่งน่าเสียดาย ที่นักการเมืองบางคน กลับนิยามคำว่า ชาติ โดยที่ยังยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ใครที่คิดไม่เหมือนกัน ก็ผลักเขาไปเป็นศัตรู ป้ายสีว่าเขาชังชาติ และก็ไล่เขาให้ออกไปอยู่นอกประเทศ ทั้งที่เราต้องไม่ลืมว่าประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง” น.ส.วทันยา

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่ น.ส.วทันยา ขึ้นดีเบตในประเด็นเรื่องของนิยามคำว่า “ชาติ”ที่ระบุว่าอย่าผูกขาดความรักชาติและไล่คนเห็นต่างออกนอกประเทศนั้น ผู้ชมในฮอลล์ได้ปรบมือและส่งเสียงเชียร์ดังสนั่น