พบเหยื่อ "แอม" เพิ่มเป็น 12 ศพ "บิ๊กโจ๊ก" มั่นใจขยายผลเอาผิดได้หมดไม่ใช่แค่กรณีของ "ก้อย"

จากกรณี นางทองพิน เกียรติชนะสิริ อายุ 63 ปี น.ส.นิภาวรรณ ขันวงษ์ อายุ 35 ปี มารดาและพี่สาว ของน.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ น้องก้อย อายุ 32 ปี เท้าแชร์ ชาวจ.กาญจนบุรี ที่เป็นลมวูบเสียชีวิตเป็นปริศนาขณะเดินทางไปทำบุญปล่อยปลากับเพื่อนสนิทที่ริมท่าน้ำแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เข้าร้องทุกข์ตำรวจกองปราบ ช่วยตรวจสอบความผิดปกติเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม โดยมีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ แอม ภรรยาของตำรวจระดับรองผกก.ในพื้นที่ จ.ราชบุรี เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายดังกล่าว

 

จนในเวลาต่อมาตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำกำลังจับกุม แอม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” พร้อมของกลาง ขวดไซยาไนด์ ซึ่งวันนี้ (26 เม.ย. 66) เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปฝากขังพนักงานสอบสวนนำตัวนางสรารัตน์ หรือ แอม ไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผัดแรก โดยระหว่างการควบคุมตัวลงมาผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียดและอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด เดินก้มหน้าและปฏิเสธให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน แม้ว่าจะถูกตั้งคำถามถึงการเสียชีวิตของนางสาวก้อยและคนอื่นทั้ง 10 ราย

 


ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้เปิดว่าขณะพบเหยื่อเพิ่มอีก 2 ศพ รวมเป็น 12 ศพ ซึ่งพบในพื้นที่อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และมีผู้เสียหายอีกรายที่รอดชีวิตมาให้การถึงพฤติการณ์ของ "แอม" ซึ่งยืนยันแล้วว่าวางยาจริง ซึ่งผู้เสียหายรายถูกหมอปั๊มหัวใจช่วยชีวิตได้ทัน ซึ่งหมอบ่งชี้ชัดเจนว่าถูกวางยามา ทั้งนี้ถึงแม้ศพบางรายเผาไปแล้วก็สามารถเชื่อมโยงอาศัยพยานแวดล้อมได้ ขณะที่บางรายก็มีการผ่าชันสูตรศพ จึงยืนยันมีหลักฐานเชื่อมโยงได้

 


ซึ่งทนายผู้ต้องหาต้องการต่อสู้ในประเด็นยกประโยชน์ให้จำเลยเนื่องจากหาหลักฐานไม่เจอ ยืนยันว่าตำรวจทำงานแบบใช้นิติวิทยาศาสตร์ ใช้พยานแวดล้อม มั่นใจเอาผิดได้ 100 เปอร์เซ็น ไม่เพียงแค่กรณีการเสียของ "ก้อย" แต่จะขยายผลไปรายอื่น ๆ ด้วย