ทัวร์ลงยับคณะครูพักรีสอร์ทดังเมืองชล แอบยกฟูกไปทำเตียงเสริมนอน เช้ามาของหายเพียบ แถมจี้ให้ลบโพสต์
26 เม.ย. 66 จากกรณีเพจเฟซบุ๊คชื่อว่า บ้านนายรีสอร์ท ได้โพสต์ข้อความว่า "สวัสดีค่ะลูกค้าบ้านนายรีสอร์ทที่น่ารักทุกท่านวันนี้ทางเรามีเคสเป็นกรณีศึกษาหรือเป็นอุทาหรณ์แก่เจ้าของกิจการอย่างเช่นเราทุกท่านคืนที่ผ่านมาทางเรามีลูกค้าเป็นกลุ่มคณะครู ได้ทำการจองห้องกับทางเราไว้เป็นห้องสำหรับ 10 ท่านไว้ 1 ห้อง และ ห้องสำหรับ 2 ท่าน 1 ห้องเมื่อเข้ามาถึงลูกค้าได้ทำการขอยกเลิกห้องสำหรับ 10 ท่านและเปลี่ยนเป็นห้องสำหรับ 2 ท่านเพิ่มอีก 3 ห้อง โดยไม่ได้คืนกุญแจห้องสำหรับ 10 ท่านมาให้แก่ทางเราเป็นความผิดของทางเราเองค่ะที่ไม่ได้เร่งรัดติดตามนำกุญแจคืน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากเชื่อเลยค่ะว่ากลุ่มคนที่กำลังให้การศึกษาของลูกหลานของใครกลุ่มหนึ่งอยู่ ได้ทำการยกฟูกเตียงจากห้องสำหรับ 10 ท่าน ที่ทางคนกลุ่มนั้นได้ยกเลิกไปแล้ว นำออกไปใช้เป็นเตียงเสริมที่ไม่อยากจ่ายเงินในห้อง 2 ท่านของตัวเองทั้งหมด ฟูก 2 เตียงด้วยกัน ผ้าเช็ดตัวถูกใช้ทั้ง 5 ผืน ซึ่งหายไปอีก 5 ผืน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ในห้องที่คนกลุ่มนั้นยกเลิกไปแล้วนำไปใช้ทั้งหมดโดยไม่ได้ขออนุญาตจากทางรีสอร์ท
โดยทางนั้นได้ให้เหตุผลกับทางเราว่า “ก็เห็นห้องเปิดอยู่เลยคิดว่าเอามาใช้ได้”เป็นการตั้งใจขนย้ายทรัพย์สินโดยพลการ ไม่มีการแจ้งทราบ และ บุกรุกสถานที่ของทางเราทางเราได้ทราบเรื่องนี้หลังจากที่คุณครูกลุ่มนี้ได้ออกไปแล้วค่ะ และทางพนักงานของเราก็ได้คืนมัดจำกุญแจทั้งหมดไปโดยไม่ได้เช็คห้อง เนื่องจากตอนนั้นคุณครูกลุ่มนี้เช็คเอ้าท์ออกไปตอนเช้าตรู่ ซึ่งตอนนั้นมีพนักงานของทางเราสแตนบายเพียง 1 คน และพนักงานคนนั้นกำลังทำหน้าที่อาหารเช้าอยู่จึงไม่ได้ทำการตรวจสอบห้องพักก่อนลูกค้าออกไป
ทางเรามาทราบเรื่องอีกทีตอนหากุญแจห้องไม่เจอค่ะ และไล่เช็คว่าไม่ได้มีลูกค้าเข้าห้องนั้นต่อเมื่อคืนนี้ ทางเราจึงเข้าไปตรวจสอบเเละเจอห้องเเบบที่เล่าให้ทุกท่านรับรู้ เมื่อเห็นดังนั้นเราจึงโทรไปหาลูกค้ากลุ่มนั้นทันทีเพื่อต้องการทราบความจริง ซึ่งทางนั้นยอมรับเเต่ไม่ขอรับผิดชอบใดๆ เนื่องจากบอกกับทางเราว่า “แฟร์ๆหน่อยสิคะ ทางเราเอามาใช้ก็จริง แต่มาทำอย่างนี้ มาบอกว่าเราทำอันนู้นหายอันนี้หาย ทำไมไม่เช็คตั้งแต่เราออกจากห้อง แล้วอย่างนี้จะมาบอกว่าเป็นความผิดของทางเรา ที่เราเอาเตียงไปใช้เราจะขอจ่ายแค่ค่าเตียงที่เราเอาไปใช้อย่างเดียว” ค่ะ
ทางเราขอคิดค่าห้องเต็มจำนวนเนื่องจากลูกค้าใช้ห้องของเราอย่างเต็มที่ โดยทางเราไม่ได้คิดค่า ผ้าขนหนูที่หายไป ค่ากุญแจที่หายไป เพราะทางเราผิดเองที่ไม่ได้เข้าไปเช็คห้องค่ะ แต่คิดเพียงค่าห้องที่ลูกค้ามาใช้ห้องของทางเราโดยพละการซึ่งลูกค้าก็ยอมรับในส่วนนั้นว่าทำจริงแต่ไม่ขอรับผิดชอบใดๆหวังว่าเรื่องนี้จะช่วยให้ผู้ปกครองที่ส่งลูกเรียนกับคนกลุ่มนี้ได้คิดอีกซักนิดว่าจะส่งลูกหลานไปเรียนโรงเรียนที่คุณครูทำสิ่งที่ไม่ดีกับผู้อื่นแต่ไม่คิดรับผิดชอบจริงๆไหมและขอลงเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ประกอบการท่านอื่นๆ ให้ทำการเทรนพนักงาน และเคร่งครัดกับการตรวจสอบห้องพักก่อนลูกค้าออกไปด้วยความจริงจังกันด้วยนะคะ พร้อมกับรูปภาพคณะครูที่มาพักมีการเซลมุมฟี่ต่างๆ จนมีการแชร์และคอมเม้นต์อกไปจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ (26 เม.ย. 66) เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านนาย รีสอร์ท เลขที่ 175/1 ซอย 22 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้พบกับนางสาวเกตุแก้ว ไทยเหียม อายุ 26 ปีเจ้าของรีสอร์ท ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูห้องพักใหญ่ที่รองรับขนาด 10 คนและห้องพักขนาด 2 คนที่เป็นประเด็นร้อนในตอนนี้
จากการสอบถามนางสาวเกตุแก้ว ได้เปิดเผยว่าเมื่อวันก่อนมีคณะครูได้ติดต่อผ่านแอดมินเพจมาว่าขอจองห้องพักใหญ่ 10 คน 1 ห้องในราคา 4500 บาท และห้อง 2 คน 1 ห้องในราคา 1200 บาท พอมาถึงรีสอร์ททางคณะครูได้มีการยกเลิกห้องใหญ่ ไปแล้วมาเพิ่มห้อง 1200 อีก 3 ห้อง รวมเป็น 4ห้องจากนั้นไม่มีการเอากุญแจมาคืนจนกระทั่งตอนเช้ามีการเช็คเอ้าท์ออก
ทางพนักงานมีการไปตรวจหลังจากที่คณะครูออกไปแล้วพบว่ากลุ่มคณะครูได้แอบเอาฟูกจากห้องใหญ่และของใช้อีกหลายรายการไปใช้โดยไม่ขออณุญาตและมีของหายไปหลายรายการตนจึงได้ออกมาโพสต์ลงเฟซบุ๊คเพื่อเตือนเป็นอุทาหรณ์เท่านั้น แต่ทางครูก็มีมีติดต่อมาทางเพจว่าจะชดใช้แต่พอให้โอนทางครูก็ตอบมาว่า ไม่โอน สั้นๆ และมีการให้ทางเพจลบภาพและข้อความออกตนจึงบอกว่าถ้ายังไม่รู้เรื่องทางเพจของรีสอร์ทก็จะไม่ลบให้เพราะทางรีสอร์ทก็ไม่ได้เอ่ยว่าของที่หายใครขโมยไป
จากนั้นทางคณะครูจึงได้ติดต่อมาทางโทรศัพท์อีกครั้งในตอนเช้าวันนี้ 26 เมษายน ว่าจะขอชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมดพร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้ขโมยของไปจริงๆ และมีการขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางรีสอร์ทก็โอเคกับการขอโทษและชดใช้ในส่วนนี้ให้
แต่ทางรีสอร์ทก็อยากจะขอเตือนภัยถึงผู้ประกอบการรีสอร์ทหรือเจ้าของห้องพักว่าการจะตรวจเช็คของนั้นควรตรงจสอบเมื่อลูกค้าเรียกเช็คเอ้าท์เพราะจะได้ตรวจเช็คสิ่งของว่าอยู่ครบใหมถ้ามีของหายหรือไม่ครบจะได้ทักท้วงได้ทันท่วงทีอย่างกรณีเคสของทางรีสอร์ทไม่ใช่เรื่องประเด็นของหายหรือใครขโมยไปแต่ที่ทางรีสอร์ทอยากออกมาเตือนเรื่องการเอาของไปใช้โดยไม่แจ้งแค่นั้นเพราะการจะเอาของอะไรไปใช้ต้องแจ้งก่อนจะได้ไม่มีปัญหากันเพราะถ้าแจ้งทางรีสอร์ทก็ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้วตามมารยาททางสังคมคือต้องแจ้งให้รับรู้