พบศพอดีต ผจก.ธนาคาร ถูกยิงพร้อมภรรยา 2 ศพ ชาวบ้านลืออาถรรพ์บ้านที่เกิดเหตุ ตายแล้ว 4 ศพ

วันที่ 26 เม.ย. 2566 ช่วงค่ำที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุ พบศพถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้าน 2 ศพ พื้นที่ ม.5 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ทางพนักงานสอบสวนจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ และแพทย์เวรโรงพยาบาลหางดงเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย อยู่ภายในโรงรถข้างบ้าน ศพแรกเป็นชายทราบชื่อคือ นายพิสุทธ์ อายุ 71 ปี อดีตอดีตผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ นอนเสียชีวิตอยู่ท้ายรถยนต์เก๋ง มิตซูบิชิ รุ่น มิราจ สภาพนอนหงายมีบาดแผลถูกยิงบริเวณศีรษะนอนจมกองเลือด เสื้อสีเขียว กางเกงลายพราง รองเท้าผ้าใบ จากการตรวจค้นร่างกายพบซองปืนพกเหน็บเอวข้างซ้าย ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. ยี่ห้อโคลท์ ตกอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนอีกศพคือนางพัชรา อายุ 68 ปี อดีตข้าราชการสรรพากร และเป็นอดีตภรรยาของนายพิสุทธิ์ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถฝั่งคนขับ สภาพนอนหงายมีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอก ทะลุออกหลัง และชายโครงซ้าย รวม 2 นัด

ในส่วนของการสืบสวนนั้น จากการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ตายทั้งสองเป็นอดีตสามีภรรยากันและได้หย่าร้างกัน แต่ยังอยู่บ้านติดกัน โดยสามีอยู่บ้านหลังข้างๆ ซึ่งไม่มีรั้วกั้นสามารถเดินไปมาหากันได้ ส่วนลูกๆ นั้นได้ไปมีครอบครัวอยู่ที่อื่นแล้ว



จากการสอบสวนพยานเพื่อนบ้าน เผยว่า ก่อนเกิดเหตุก็ไม่ได้ยินเสียงว่ามีการทะเลาะกัน ทุกอย่างก็เงียบปกติ กระทั่งช่วงเย็นลูกสาวของผู้ตายเอาข้าวมาส่ง ก็พบว่าทั้งคู่อยู่ในสสภาพสิ้นล้มหายใจไปแล้ว

ขณะที่ พยานชาวบ้านอีกคนหนึ่งซึ่งมีบ้านข้างๆ ที่เกิดเหตุ ได้เผยว่า ช่วงบ่ายๆได้ยินเสียงปืน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเสียงปืนเพราะละแวกนั้นส่วนมากมักจะมีการจุดประทัดไล่นก มาทราบอีกทีก็ตอนเย็นที่มีคนมาพบว่าเพื่อนบ้านได้ยิงกันตาย

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้สันนิษฐานว่า นายพิสุทธ์ อาจไปงอนง้อขอคืนดีกับภรรยา แต่ภรรยาไม่ยินยอมและทะเลาะมีปากเสียงกัน จึงถูกอดีตสามีใช้อาวุธปืนจ่อยิงจนเสียชีวิตและยิงตัวเองตายตาม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้เรียกลูกๆ ของผู้ตาย และบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ส่วนศพของผู้เสียชีวิตทั้งสองได้ส่งไปให้แพทย์ภาควิชานิติเวชโรงพยาบาลมหารราชนครเชียงใหม่ ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายและมอบศพให้ญาตินำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับบ้านหลังดังกล่าวที่เกิดเหตุ เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุพี่สาวของนางพัชรา พร้อมด้วยลูกชาย จบชีวิตด้วยการรมควันภายในห้องนอน สาเหตุมาจากพิษโควิด-19 ซึ่งตอนนั้นก็เป็นข่าวเศร้าของทางครอบครัวมาแล้วครั้งหนึ่ง และมาวันนี้ก็มาเกิดเหตุซ้ำรอยอีก รวมแล้วบ้านหลังดังกล่าวมีคนตายถึงง 4 ศพ ในเวลา 3 ปี โดยชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาตามความเชื่อ