ล่า "เสือกัส" ยิงถล่มบ้านคู่อริ อ.นาทม จ.นครพนม ใช้เทปกาวปิดกล้องวงจรปิดตามเส้นทางก่อเหตุ แถมทักแชตข่มขู่ซ้ำ อวดศักดาแก๊งนักเลงเจ้าถิ่น
วันที่ 26 เมษายน 2566 กรณีเกิดเหตุคนร้ายขับรถยนต์ต้องสงสัย ใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านพักของนายเจริญทรัพย์ หรือกึ่ม อายุ 43 ปี บ้านโนนสวาท ต.หนองซน อ.นาทม จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา นายเจริญทรัพย์ จึงได้นำหลักฐานหัวกระสุนปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 6 นัด พร้อมหลักฐานภาพถ่ายในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งฝาผนังบ้านที่ก่อด้วยปูน และประตูบ้านได้รับความเสียหายเป็นรูกระสุนหลายจุด เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นาทม
โดยช่วงเกิดเหตุ มีญาติเจ้าของบ้าน เป็นน้องชาย คือ นายกานต์ อายุ 27 ปี รวมถึงครอบครัว คือ นายโต้ง (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ลูกชาย น.ส.พิมพ์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ลูกสาว และ ด.ช.ต้า (นามสมมติ) ลูกชายคนเล็ก อายุ 6 ขวบ รวม 4 คน อาศัยอยู่ในบ้าน โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะนอนติดพื้นบ้าน ส่วนเจ้าของบ้าน คือ นายเจริญทรัพย์ ไปนอนที่สวนยางพาราท้ายหมู่บ้าน
พ.ต.อ.เชาว์ ป้อมงาม ผกก.สภ.นาทม จ.นครพนม ได้สั่งการให้ ตำรวจชุดสืบสวนประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ ตรวจสอบ เก็บหลักฐาน สอบสวนพยานแวดล้อมเพิ่มเติม ล่าสุดทางตำรวจชุดสืบสวนพบหลักฐานสำคัญจากกล้องวงจรปิดบางส่วน แต่ยังมีกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านใกล้ที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางก่อเหตุและหลบหนี ถูกปิดด้วยเทปกาวสีดำ คาดว่ามีการวางแผนร่วมกันกับเพื่อนร่วมแก๊งก่อนก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบหลักฐานทั้งก่อนเกิดเหตุ มีเฟซบุ๊กบุคคลต้องสงสัยที่ก่อเหตุ ชื่อว่า "เสือกัส ดอนหอ" ทักมาข่มขู่ผู้เสียหาย นอกจากนี้ ยังมีการทักแชตมาข่มขู่หลังทราบข่าวว่าผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจ แต่ภายหลังพบว่ามีการลบเฟซดังกล่าวไปแล้ว เชื่อว่ากลัวตำรวจติดตามเบาะแส
จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ยืนยันตรงกันกับภาพหลักฐานวงจรปิดว่า มีรถเก๋งสีขาววิ่งผ่านหน้าบ้าน ห่างบ้านผู้เสียหายประมาณ 100 เมตร ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จนกระทั่งมารู้ภายหลังว่า มีเหตุยิงบ้านของผู้เสียหาย ส่วนสาเหตุตำรวจมุ่งประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว เนื่องจากทั้ง 2 คนเป็นนักเลงประจำถิ่นที่เคยมีเรื่องไม่พอใจกันมาตลอด เชื่อว่าผู้ก่อเหตุพยายามอวดศักดา แสดงความเป็นเจ้าถิ่น อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้เร่งสอบสวนสืบสวน เก็บหลักฐาน เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี และวางมาตรการไม่ให้ก่อเหตุซ้ำอีก เพราะถือว่าเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ เย้ยกฎหมาย