เปิดใจ "แต้ว" 1 ในผู้รอดชีวิตจาก "แอม ไซยาไนด์" เผยเคยอยู่ในวงแชร์มรณะ โชคดีที่ไม่สนิทไปมากกว่านี้ ไม่งั้นคงไม่รอด

วันที่ 27 เม.ย.66 จากกรณีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ แอม อดีตภรรยา นายตำรวจระดับ รอง ผกก. ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนำไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นสารเคมีอันตรายผสมอาหารให้เหยื่อรายหลายรับประทานเพื่อหวังทรัพย์สิน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เช้าวันนี้ (27 เม.ย.66) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ติดต่อไปหานางสาวแต้ว 1 ในผู้รอดชีวิต จากวงแชร์มรณะ ซึ่งเจ้าตัวอยู่ที่เกาะสมุยถึงวันที่ 30 เม.ย.66 โดยนางสาวแต้ว เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ว่า ตัวเองรู้จักกับนางสาวแอม ได้ประมาณ 20 ปี ซึ่งรู้จักเพราะว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว นางสาวแอม เคยคบหากับพี่ชายตัวเองมาก่อนในช่วงที่พี่ชายเรียน ปวช. ตอนนั้นนางสาวแอม จะมีนิสัยเข้ามาตีสนิทคนในครอบครัวตัวเอง ชอบทำตัวน่ารัก ๆ ตัวเองก็ยังมองว่าเขาเป็นคนที่ใจดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ตอนนั้นนางสาวแอมยังไม่ได้มีการชักชวน คนในครอบครัวตัวเองไปไหว้พระทำบุญ หรือเช้าสายมู แต่อย่างใด ซึ่งเขาก็คบหากับพี่ชายได้ไม่นานก็เลิกกันไป ส่วนตัวเองก็ยังไม่ได้ติดต่ออะไรกับนางสาวแอมมากเท่าไหร่ แต่เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกันมาเรื่อย ๆ

จนกระทั่งปี 2563 ช่วงโควิด-19 เข้ามาแรก ๆ นางสาวแอมได้โทรศัพท์มาขอยืมเงินกับตัวเองประมาณ 30,000 บาท แต่เขาก็เอามาคืนครบตามกำหนด

จนมาเดือนวันที่ 3 สิงหาคม ปี 2565 นางสาวแอม ได้โทรศัพท์มาหาตัวเอง บอกว่าขอยืมเงิน 50,000 บาท เขาจะยืมไปปล่อยเงินกู้ ซึ่งตัวเองก็โอนเงินให้เขายืมไป

และวันที่ 4 สิงหาคม 2565 นางสาวแอม ก็ได้ทักข้อความเฟชบุ๊กมาหาตัวเองแล้วชักชวนตัวเองเล่นแชร์ 1 วง โดยมีนางสาวแอม เป็นเท้าแชร์ ในวงแชร์ 100,000 บาท โดยมีรายละเอียดว่า ส่งราย 5 วัน ส่งทุก ๆ วันศุกร์ ส่งมือละ 15,000 บาท เปียส่งดอกให้เท้า อั้นดอก 4,000 บาท แล้วตอนแรกเขาก็พิมพ์รายชื่อส่งมาแค่เท้าแชร์เป็นลำดับที่ 1 แต่ลำดับสมาชิกในวงคนที่ 2-7 ยังไม่ได้ระบุชื่อใคร

จากนั้นตัวเองจึงบอกกับแอม ซึ่งเป็นเท้าแชร์ว่า งั้นตัวเองขอเอา 1 มือ แล้วกัน จากนั้นนางสาวแอมจึงส่งรายชื่อคนในวงแชร์มาเพิ่มเติมอีกคือคนที่ 1 เท้าแชร์ คนที่ 2 พี่น้อย (เสียชีวิต) คนที่ 3 พี่นุ้ย ตำรวจ (เสียชีวิต) คนที่ 4 คือตนเอง ส่วนรายชื่อที่เหลือยังไม่ระบุ

โดยวันที่ 5 สิงหาคม ตนเองเช้าไปในไลน์กลุ่มแชร์ แล้วตัวเองเห็นว่า ทำไมแช็ตไลน์แชร์กลุ่มนี้ดูเงียบ ๆ จัง ไม่รู้ว่าคนในกลุ่มไลน์มีตัวตนจริงหรือเปล่า ตัวเองจึงทักเข้าไปในกลุ่มว่า "ในกลุ่มเงียบมาก ส่งแชร์กันทางไหนเหรอ" จากนั้นนางสาวแอมก็เช้ามาตอบว่า "ส่งมาส่วนตัวก็ได้จ้า" ตัวเองก็เริ่มส่งค่าแชร์งวดแรก จำนวน 15,000 บาท ไปให้นางสาวแอม

จนมาวันที่ 10 สิงหาคม 2565 นางสาวแอม ทักข้อความมาหาตัวเองว่า "แต้ว" พร้อมกับส่งภาพโพสต์เฟชบุ๊ก ที่มีคนโพสต์ว่าน้อย เสียชีวิต รวมถึงภาพน้อยที่นอนหมดสติมาให้ตนเองดู จากนั้นเขาก็โทรศัพท์มาบอกตัวเองว่า "แต้ว พี่น้อยเสียแล้วนะ วงแชร์ต้องยุบแล้วนะแต้ว" ตอนนั้นตัวเองก็รู้สึกใจคอไม่ดี แล้วบอกนางสาวแอมว่า "หนูไม่มีปัญหา ถ้าวงแชร์ต้องยุบ ก็โอนเงินค่าแชร์คืนตัวเองมา" นางสาวแอม จึงพูดอึก ๆ อัก ๆ ว่า "เงิน 50,000 ที่พี่ยืมแต้วมา พี่น้อย เขาก็เอาจากพี่ไปนะ พี่ต้องรอผัวเขาเคลียร์เงินประกันงานศพก่อน แล้วพี่จะเอามาคืนให้" ซึ่งตนเองก็วีนเล็กน้อย แล้วบอกกับแอมว่า "หนูไม่รู้ว่าพี่เอาเงินหนูไปให้ใครบ้าง แต่พี่เอาไปแล้ว พี่ต้องเอามาคืนหนู ทั้งเงินยืมหนู 50,000 บาท และเงินค่าแชร์ 15,000 บาท" หลังจากนั้น นางสาวแอม ก็ทยอยคืนเงินทั้งสองก้อนให้ตัวเองจนครบ แล้วตัวเองก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเลย รวมถึงตอนนั้นก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ผู้ร่วมวงแชร์อีกหลายคน ก็เสียชีวิตหลังจากนั้นเช่นเดียวกัน

จนกระทั่งล่าสุดตัวเองมาเห็นข่าวการตายของนางสาวก้อย ที่หมดสติเสียชีวิตขณะปล่อยปลา โดยมีนางสาวแอมไปพัวพันในการตาย ตนเองก็เอะใจจึงทักข้อความไปเล่ากับเพื่อน ๆ ว่า "ก่อนหน้านี้เจ๊น้อยคนในวงแชร์ก็เสียชีวิตด้วยสาเหตุการตายคล้าย ๆ กัน ทำไมพฤติกรรมมันคล้ายกันขนาดนี้ ดีนะที่ไม่เป็นพวกเรา" ตนเองจึงคิดว่าเรื่องนี้ค่อนข้างมีพิรุธ เพราะคนที่เกี่ยวข้องกับนางสาวแอม เสียชีวิตคล้าย ๆ กันหมดเลย

หากย้อนกลับไปดูพฤติกรรมนางสาวแอม ตอนที่เขาติดต่อกับตัวเองนั้น เขาก็ไม่เคยชวนตัวเองไปทำบุญไปดูดวง ไปเข้าสายมู หรือพาไปทานอาหารแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะตนเองมีเงินจำนวนไม่มาก เวลาเขายืมเงินตัวเองไป ตนเองก็ทวงกับเขาตลอด เขาจึงไม่มีโอกาสได้เจอ ได้กระทำแบบนั้นหรือไม่

ส่วนเรื่องการพกยาพิษต่าง ๆ ติดตัวนั้น ตนเองก็ไม่เคยเห็น เพราะส่วนใหญ่ ตนเองจะติดต่อกับเขาทางโทรศัพท์มากกว่า แทบไม่ได้ไปเจอตัวจริงกันเลยด้วยซ้ำ

ตอนนี้ตัวเองรู้สึกโชคดีมาก ที่ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องหรือสนิทกับเขามากกว่านี้ ทุกวันนี้ตัวเองเห็นข่าวว่าคนเสียชีวิตเป็น 10 กว่าเคส ตัวเองก็รู้สึกหลอนเอามาก ๆ ถือว่าเป็นภัยใกล้ตัวมาก ๆ