"ทนายกฤษณะ" ขอใช้ประสบการณ์จากการเคยทำคดีแตงโม พร้อมช่วยเหลือญาติเหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" คาดผู้ต้องหาไม่น่าลงมือคนเดียว

จากกรณีคดีน้องก้อย สาววัย 32 ปี ที่เสียชีวิตปริศนา หลังไปปล่อยปลา กับ "แอม" ซึ่งถูกจับกุมในเวลาต่อมา จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นทำให้มีครอบครัวของผู้เสียชีวิต ที่เชื่อว่าคนในครอบครัวอาจตกเป็นเหยื่อถูกวางยาในลักษณะเดียวกันออกมาเปิดข้อมูลนับสิบราย

 


ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ที่ปรึกษากฎหมาพรรคไทยศรีวิไล กล่าวว่า หลังจากที่ติดตามข่าวแอม ไซยาไนด์ ก็ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวทนายความของแอมเอง ตนไม่ขอก้าวล่วง แต่ในส่วนลักษณะของคดี ในตามประสบการณ์ของตนเองคดีนี้มีอะไรน่าสงสัยหลายอย่างและก็หลักฐานตนเชื่อได้ว่า ตำรวจเองก็จะรวบรวมเป็นจำนวนมากแล้ว แล้วก็พบหลักฐานหลายๆอย่างเพื่อประติดประต่อ เพื่อที่จะส่งสำนวนต่างๆแล้วก็สรุปสำนวนให้กับทางอัยการ คดีนี้ตนยังมีข้อสงสัยหลายๆอย่าง คือประเด็นที่ 1 คดีนี้ผู้หญิงคนเดียวคงไม่สามารถลงมือทำคนเดียวได้แน่นอน

 

ตนเชื่อว่ายังมีอีกหลายๆคนที่ให้การช่วยเหลืออยู่ข่าวที่ออกมา ในเรื่องของน้องสาวที่เปิดร้านขายยาตรงนี้ทางพนักงานสอบสวนจะต้องเข้นหาความจริงให้ได้ อีกอย่างหนึ่งที่ตนนึกขึ้นและก็อยากจะใช้ประสบการณ์ในเรื่องของคดี ของน้องแตงโมเข้ามาช่วยเหลือสำหรับผู้เสียหายที่สูญเสียจะเป็นภรรยาหรือว่าญาติของตัวเองก็แล้วแต่ มันจะมีประเด็นหนึ่งที่ตนเองอยากจะใช้ประสบการณ์เข้ามาช่วยเหลือก็คือในเรื่องของศพที่นังไม่เผา แน่นอนว่าในการตรวจครั้งแรกอาจจะมีความไม่รอบครอบหรือว่าอาจจะผิดพลาดตรงไหนในเรื่องการตรวจสารพิษหรือว่าความไม่สงสัยของญาติเอง ซึ่งไม่ทีใครแนะนำแต่ว่าศพที่ยังไม่เผาตอนนี้วิธีและขั้นตอนในการที่จะขอชันสูตรศพใหม่แน่นอนว่า ทางพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงให้คำแนะนำแล้ว แต่ในการทำหนังสือเพื่อที่จะเข้าไปผ่าพิสูตรใหม่อีกครั้งหนึ่ง ตรงนี้ตนเองยอมรับว่าจากคดีน้องแตงโม

 

ตนมีประสบการณ์ในการที่จะทำหนังสือและขอชันสูตรใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งญาติๆอาจจะไม่มีความรู้ทางด้านนี้หรืออาจจะมีความรู้ก็แล้วแต่ แต่ขั้นตอนต่างๆมันต้องเป็นขั้นเป็นตอนและก็ถูกต้อง และอีกอย่างหนึ่งก็คือประเด็นที่สำคัญที่สุด ถ้าเกิดว่าสรุปสำนวนแล้วส่งให้อัยการ อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแน่นอนว่าผู้เสียหายที่เป็นผู้เสียหายในทางนิตินัยจริงๆหรือว่าจะเป็นทายาทของเขาที่จะยื่นเข้าไปเป็นโจทย์ร่วม แน่นอนว่าก็จะมีการเรียกค่าเสียหาย เรียกค่าสินไหมทดแทนต่างๆ ซึ่งจะต้องใช้ทนายความแต่ถ้าเกิดว่าจะไปขอ 44/1 กับทางอัยการก็ทำได้เหมือนกัน แต่อย่างน้อยถ้าเกิดว่าอัยการเป็นผู้นำสืบแล้ว ทางโจทย์ร่วมหากมีหลักฐานอะไรที่สามารถเพิ่มเติมเข้าไป

 

แน่นอนว่าโจทย์ร่วมซึ่งมีทนายความที่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือก็สามารถที่จะช่วยอัยการได้อีกทางหนึ่ง แน่นอนว่าทนายของจำเลยเองก็มีความมั่นใจ ตามที่ออกข่าว ส่วนผู้ที่เสียหายตอนนี้ก็คงจะทยอยกันออกมาและก็สอบปากคำเพิ่มเติม แต่สวนของตนเองก็คงจะยินดีให้การช่วยเหลือสำหรับญาติที่อาจจะยังไม่เผาศพหรือว่า เผาศพไปแล้ว

 


ทนายกฤษณะ กล่าวอีกว่า หากไม่ทราบขั้นตอนประสบการณ์ตรงนี้ตนได้จากคดีน้องแตงโมงหากจะผ่าพิสูตรใหม่ขั่นตอนทำอย่างไรหรือว่าจะให้ตนเป็นทนายโจทย์ร่วม ช่วยในเรื่องของการเรียกค่าเสียหาย ค่าสินไหมทดแทนตนก็ยินดี ในฐานะที่ตนเป็นทนายความ สุดท้าย ตนไม่เชื่อว่าคุณแอมกระทำคนเดียวจะต้องมีบุคคลอื่นอย่างน้อยมีทนายโจทย์ร่วมเข้าไปเพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมช่วยกับทางอัยการและก็หาหลักฐานช่วนพนักงานสอบสวนก็จะเป็นทางดีอีกทางหนึ่ง แน่นอนว่าบางคนอาจจะไม่าค่าใช้จ่ายในการที่จะไปว่าจ้างทนายความหรือว่สบางคนอาจจะมี แต่ที่ตนมานำเสนอในครั้งนี้ตนเองไม่ได้คิดค่าว่าความ เราช่วยเหลือประชาชนจริงๆบางคนไม่มีเงินไม่มีทองที่จะไปจัดจ้างทนายความตนก็ยินดีให้การช่วยเหลือ ไม่ได้หิวแสงหรือไม่ได้ต้องการที่จะออกมาโดดเด่นเหมือนกับทนายคนอื่นๆ หรือว่าหลายๆคนที่ติงมาว่าหิวแสงหรือป่าว หรือออกมาในลักษณะแบบนี้ ตนว่าไม่ใช่เลยตนจะใช้ประสบการณ์ของตนที่เคยทำคดีแตงโมมาช่วยประชาชนจริงๆ