ภัยร้ายสาวขี้เหงา !! สืบนครบาล รวบ "เซเลปเก๊" นัดเดทผ่านแอปหาคู่ ก่อนขโมยรถยนต์ เหยื่อโผล่ 8 ราย พร้อม "ลูกดาราตลกชื่อดัง"

เตือนภัยสาวใจเปลี่ยว ระวังคนร้ายสุดแสบ แฝงตัวในแอ็พพลิเคชั่นหาคู่ ควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากเสียทั้งตัวและทรัพย์สิน ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งมือดีแปลงกายเป็นสาวสวยและรวยมากจนนำมาสู่การจับกุมตัวคนร้ายโดยจะแฝงตัวอยู่ในแอปพลิเคชั่น แล้วสร้างโปรไฟล์เป็นเซเลป หนุ่มหล่อ รวย ถ่ายภาพคู่รถหรู ซึ่งแท้จริงเป็นรถคนอื่น ดึงดูดเหล่าหญิงสาวให้เกิดความสนใจ มีตัวตนหรือชื่อปลอมกว่าหลายชื่อ เช่น อุ้ม , อั้ม ,พัด , แซ็ค และ แร็ค แผนประทุษกรรมสุดแสบ ใช้บัตรประชาชนคนอื่นเปิดโรงแรมตระเวนเลือกเหยื่อหญิงขี่เหงาที่มี “รถยนต์” ก่อนนัดเดทก่อนจะอาศัยช่วงเหยื่อเผลอขโมยรถยนต์ก่อนหายเข้ากลีบเมฆ ตรวจสอบพบผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 8 ราย หนึ่งรายเป็นลูกดาราตลกชื่อดัง

 

27 เม.ย. 66 ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) , พ.ต.ต. อัษฎาศ์ เนตรพุดซา สว.สส.สน.โคกคราม ร.ต.อ.วิชัย เมืองมูล รอง สว.สส.สนโคกคราม นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายภีรพัฒน์ อายุ 26 ปี หรือ อุ้ม หรือ อั้ม หรือ พอช หรือ พัด หรือ แซ็ค หรือ แร็ค ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 7 หมายจับ ดังนี้ โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

 

พฤติการณ์กล่าวคือ หญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของเพจเฟสบุ๊ค สืบนครบาล IDMB ว่าได้ถูกคนร้ายอ้างเป็นเซเลปรายหนึ่ง ซึ่งพบเจอกันในแอ็พพลิเคชั่นหาคู่ จากนั้นได้มีการนัดเจอกันที่โรงแรมซึ่งเมื่อพักค้างแรมแล้ว ตื่นขึ้นมาก็พบว่าคนร้ายได้หายตัวไปพร้อมกับกุญแจรถและ "รถยนต์" ของหญิงผู้เสียหาย ซึ่งปัจจุบันคนร้ายรายนี้ถูกออกหมายจับแล้วกว่าหลายคดี หลังรับแจ้ง ทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ สืบนครบาลได้ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม ตรวจสอบลักษณะแผนประทุษกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้วพบว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน โดยมีแผนประทุษกรรมสุดแสบ กล่าวคือ คนร้ายจะแฝงตัวอยู่ในแอปพลิเคชั่น “หาคู่” เป็นต้น โดยสร้างโปรไฟล์เป็นเซเลป หนุ่มหล่อ รวย ถ่ายภาพคู่รถหรู ซึ่งแท้จริงเป็นรถคนอื่น ดึงดูดเหล่าหญิงสาวให้เกิดความสนใจ ซึ่งเมื่อมีผู้สนใจในตัวโปรไฟล์ของคนร้ายแล้วจะมีการ “คัดเหยื่อ” โดยการเลือกหญิงสาวที่มี “รถยนต์” โดยไม่สนใจ หน้าตา อายุ ก่อนเริ่มพุ่งชนด้วยบทสนทนาเกี้ยวสาวสุดเร่าร้อน ด้วยโปรไฟล์หนุ่มเซเลปทำให้เหล่าเหยื่อหญิงสาวไม่สามารถทานความรู้สึก ต่างเผลอใจเคลิบเคลิ้มไปกับการเกี้ยวพาราสีของคนร้าย ไปจนถึงขั้นบางรายมีการนัดพบ

 

โดยคนร้ายจะแสร้งทำทีนัดหมายให้เหยื่อขับรถยนต์มารับที่สนามบิน โดยอ้างว่าเดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ ( ไม่ได้บินมาจริง) แสร้งเตร็ดเตร่ลากกระเป๋าเดินทางอยู่ในสนามบิน สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมสร้างภาพลักษณ์แรกพบเสมือนเป็นหนุ่มเซเลปนักเดินทาง หลังได้พบเจอกับเหยื่อหญิงสาวก็จะมักนำพาไป “เชือด” ที่โรงแรมละแวก “ถนนเรียบทางด่วนรามอินทรา” ซึ่งคนร้ายเข้าใจถึงหลักการฮอร์โมนของเพศหญิงที่จะหรั่งสารทำให้เกิดความรู้สึกดีดีกับฝ่ายชายหลังมีเพศสัมพันธ์ จึงเลือกที่มีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งหลังเสร็จกิจก็จะออกอุบายต่างๆนาๆเพื่อขอยืมรถยนต์ของเหยื่อ ซึ่งเหล่าเหยื่อหญิงสาวต่างยินยอมให้โดยง่าย ซึ่งเมื่อกุญแจและรถยนต์ของเหยื่อตกไปอยู่ในมือคนร้ายรายนี้แล้ว ก็จะเริ่มตระเวนขับรถเพื่อไปให้เหล่าพ่อค้ารถเถื่อน “ดูสภาพรถ” และจากนั้นก็จะกลับไปอยู่กับเหยื่อที่โรงแรมจนกระทั่งเหยื่อหญิงสาวหลับสนิท คนร้ายก็จะใช้โอกาสดังกล่าว “ขโมย” รถของเหยื่อไปจากโรงแรมและตัดขาดการติดต่อกับเหยื่อไปเลย ซึ่งต่อมาได้มีการสืบสวนจนกระทั่งสามารถยืนยันตัวบุคคลคนร้ายรายนี้ได้ คือ นายภีรพัฒน์ บุญมี ซึ่งมีตัวตนหรือชื่อปลอมกว่าหลายชื่อ เช่น อุ้ม , อั้ม , พอช , พัด , แซ็ค และ แร็ค ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 7 หมายจับ



ในชั้นจับกุม นายภีรพัฒน์ บุญมี ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ที่ตนเองมีหลายชื่อนั้นเพราะชอบแสวงหาความสุขจากการมีความสัมพันธ์กับผู้หญิง ไม่อยากให้มีใครจำตัวตนของตัวเองได้ และตนเองเริ่มก่อเหตุลักษณะนี้มาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2561 โดยตอนนั้นได้มีลูกพี่ซึ่งเป็นเครือข่ายส่งรถยนต์ข้ามประเทศ มาสอนตนเองว่าให้นัดมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อและขโมยรถมา ซึ่งการทำเช่นนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนข้อหาหนัก เพราะจะโดนแค่ข้อหา ยักยอกทรัพย์ ซึ่งโทษเบา และยังสอนว่าไม่ต้องสนใจ รูปร่างหน้าตาอายุ ให้ดูเพียงแต่รุ่นรถของเหล่าหญิงสาวที่จะไปนัดมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ให้ถือว่าเป็นการทำงานไม่ใช่การหาความสุขสำราญ โดยยอมรับว่าก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง และคนร้ายที่ก่อเหตุลักษณะนี้มีอีกจำนวนหลายรายเรียกได้ว่าเป็นเครือข่ายไม่ได้มีตนเพียงคนเดียว โดยยอมรับว่าถ้าเป็นรถใหญ่เมื่อตนขโมยมาได้แล้วขายต่อนั้นก็จะถูกส่งไปยังประเทศกัมพูชา ส่วนรถเล็กนั้นส่วนใหญ่ผู้รับซื้อไปจะเอาไปเก็บในโกดังเพื่อรอนำไปสวมซากรถที่เป็นรุ่นเดียวกัน โดยสุดท้ายยอมรับว่าที่เคยนัดมีเพศสัมพันธ์กับเหล่าผู้เสียหายที่ผ่านมานั้นตนเองมิเคยมีการสวมถุงยางป้องกันแต่อย่างใด ปัจจุบันอ้างว่ามีอาการป่วย ซึ่งอยู่ระหว่างรอการตรวจโรคร้ายกับทางโรงพยาบาล” หลังเสร็จสิ้นการจับกุมได้นำตัว นายภีรพัฒน์ฯ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

 


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้ายว่าเคยก่อเหตุมาเพียงเท่านี้ เชื่อว่ายังมีเหยื่ออีกจำนวนมาก วิเคราะห์ได้จากแผนประทุษกรรมของคนร้ายรายนี้การหลอกลวงเหล่าหญิงสาวหรือการเลือกสถานที่เชือดให้อยู่ในทำเลที่ตั้งของเหล่าพ่อค้ารับซื้อรถเถื่อน เชื่อว่าต้องผ่านประสบการณ์ในการก่อเหตุมามาก ถือเป็นภัยสังคมต่อเหล่าหญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง จากนี้จะมีการขยายผลจนถึงที่สุด ไปถึงเครือข่ายรับซื้อรถเถื่อนด้วย