พ่อค้าหล่อบอกต่อด้วย !! "หนุ่ม 19ปี" แต่งเป็นลูฟี่ จากการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง "วันพีช" ขายข้าวมันกะทิสด ลูกค้าติดใจจนเป็นไวรัลทั่วโซเชียล

29 เม.ย. 66 กลายเป็นกระแสโด่งดังในโซเชียล โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนอนิเมะญี่ปุ่นชื่อดัง "วันพีช" เมื่อน้องภู หรือ นายภูผา กันทะวงค์ อายุ 19 ปี ลูกชายคนเดียวของเจ้าของร้าน ลุกขึ้นมาแต่งตัวเหมือน ลูฟี่ ตัวละครเอกในเรื่องวันพีช เพื่อช่วยพ่อและแม่ขายข้าวมันกะทิสด ก็ยิ่งช่วยสร้างจุดขายให้กับร้าน เพราะแต่ละวัน โดยเฉพาะช่วงวันเสาร์ จะมีพ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกๆมาซื้อข้าวมันกระทิสด และถ่ายภาพกับน้องภู ในชุดมาสคอตลูฟี่กันคึกคัก

 

น้องภู บอกว่า เขามองว่าตัวเองมีบุคคลิกคล้ายกับลูฟี่ ซึ่งเป็นตัวเอกในการ์ตูนอนิเมะที่ชื่นชอบ จึงเกิดไอเดียอยากสร้างจุดขายให้ร้าน ส่วนชุด ทั้งหมวก เสื้อ และกางเกง ก็หาซื้อมาจากร้านค้าทั่วไป โดยตนเองเพิ่งเรียนจบชั้น ปวช. 3 จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ และกำลังสอบเพื่อเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ มหาวิทยาลัยศิลปกร เพราะเรียนด้านศิลปะ ซึ่งรูปวาดในร้านหลายๆรูป ตนเองก็เป็นคนวาดเอง เช่นภาพตัวละครในการ์ตูนวันพีช รวมทั้งยังนำผลงานภาพเหมือน และภาพดรออิ้ง มาติดโชว์ที่ร้านให้ลูกค้าชมด้วย

 

ขณะนายดิเรก กันทะวงค์ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านข้าวมันกะทิสด พ่อของน้องภู บอกว่า ลูกชายชอบอ่านการ์ตูนมาก โดยเฉพาะเรื่องวันพีช จนวันหนึ่งเขาก็ลุกขึ้นมาแต่งตัวเหมือนลูฟี่ ตัวละครเอกในเรื่องดังกล่าว ตนเองก็ไม่ว่าอะไร เพราะมองว่าเป็นสิ่งสวยงาม เป็นงานศิลปะ และยังช่วยสร้างจุดขายให้กับร้านด้วย หากตนเองแต่งตัวแบบลูกชายได้ก็อยากแต่งเหมือนกัน และดูจากลุ๊คของตนเองแล้ว แต่งเป็นองคุลีมาลน่าจะเข้ากับตัวเองมากที่สุด เพราะการแต่งตัวให้เหมือนกับอะไรก็ต้องดูด้วยว่า เราคล้ายกับละครนั้นๆหรือไม่

 

ส่วนร้านข้าวมันกะทิสด เปิดมาได้ประมาณ 1 ปีเศษแล้ว เดิมตนเองทำงานด้านศิลปะ รับปั้นรูปปั้น และหุ่นขี้ผึ้ง แต่หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 งานก็ลดน้อยลง จึงมองหาอาชีพอื่นมาเสริมเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว กระทั่งตัดสินใจขายข้าวมันกะทิสดเพราะชอบกิน จากนั้นจึงเริ่มทดลองทำจนได้สูตรที่ลงตัว โดยเฉพาะสังขยา 2 สีที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญแต่กลับลงตัวและลูกค้าก็ชื่นชอบ สังขยาของร้านจะมีรสชาติไม่หวานมาก เพราะใช้น้ำตาลมะพร้าวที่สั่งตรงมาจากจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา

 

นอกจากนี้อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของร้านที่ลูกค้าติดอกติดใจ คือ ข้าวมันใบเตย ที่ทำขายอาทิตย์ละ 2 วันเท่านั้น เพราะทำยากต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 วัน จึงทำขายเฉพาะวันศุกร์-เสาร์ ส่วนวันปกติจะมีข้าวเหนียวมูนสีขาว และข้าวเหนียวมูนอัญชันยืนพื้น

 

 


นายดิเรก เล่าถึงขั้นตอนการทำข้าวมันใบเตยว่า จะนำใบเตยที่รับซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่ประมาณ 10 กิโลกรัม มาคั้นจนได้น้ำสดๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 คืนให้น้ำใบเตยตกตะกอน จะได้น้ำใบเตยเข้มข้นเหลือประมาณ 1 กิโลกรัม จากนั้นจึงนำมาต้มและคลุกเคล้ากับข้าวเหนียวเขี้ยวงูนึ่งที่สั่งซื้อมาจากจังหวัดเชียงราย จนได้ข้าวเหนียวมูนใบเตยสีสวยงาม แต่ละวันจะทำข้าวเหนียวมูนสีต่างๆรวมกันประมาณ 30 กิโลกรัม ส่วนมะม่วงน้ำดอกไม้ใช้วันละ 10 กิโลกรัม

 

โดยที่ร้านเดิมเป็นโรงไม้เก่าของคุณแม่ แต่ได้ปรับพื้นที่เปิดเป็นร้านขายข้าวมันกะทิสด ทั้งแบบซื้อกลับบ้าน และมีโต๊ะให้นั่งทานในร้านได้ บรรยากาศภายในร้านตกแต่งให้มีกลิ่นอายของโรงไม้เก่าแบบคลาสสิกผสมผสานกับกลิ่นอายของงานศิลปะที่วาดไว้บนฝาไม้ กระดาษ ขณะที่ลูกขายก็นำผลงานศิลปะของตนเองมาแสดงโชว์ให้ลูกค้าได้ชมด้วย