ผุดอีกพฤติกรรม "แอม" ลวงเหยื่อตั้งวงหวยใต้ดิน โอนเงินเข้าบัญชีแด้ ลูกค้าถูกหวยเกือบ 9 ล้านแล้วเชิดหนี เผยตามทวงแล้วแอมนัดกินข้าว อ้างจะเคลียร์เงิน แต่โชคดีไม่ได้ไป
เพจเฟซบุ๊กมูลนิธิวินวิน เปิดภาพผู้เสียหายวงหวยทิพย์ ที่ถูกนางสรารัตน์ หรือ แอม หลอกลวงให้โอนเงิน พร้อมข้อความว่า "ถ้าแอมไม่โดนจับไปก่อน พวกเราอาจจะไม่มีโอกาสได้มานั่งอยู่ตรงนี้แล้วก็ได้"
นอกจากนี้ ยังมีคลิปตอนที่ผู้เสียหายขึ้นโรงพักไปคุยกับอดีตสามีกับตำรวจของแอม พยายามถามหาแอมที่พาเข้าวงหวยทิพย์ เนื่องจากติดต่อลูกน้องของเจ้ามือหวยไม่ได้ โดยนายตำรวจนายนี้พูดว่า "แล้วเรามีปัญหาอะไรกันมา คือเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ใครต้องมารับผิดชอบ คือเราไปตกลงทำธุรกรรมผิดกฎหมายกับเขา พอพวกคุณมีปัญหาก็เดินมาหาตำรวจ"
ทีมข่าวสอบถามคุณชลิดา พะละมาตย์ ที่ปรึกษามูลนิธิวินวิน เปิดเผยว่า กรณีนี้ สืบข้อมูลของนายแด้ กับแอม พบมีคนทวงหนี้สองคนนี้ 4,500,000 บาท จึงพบความเชื่อมโยงจากหลักฐานสำคัญ เป็นสลิปโอนเงินเข้าบัญชีงนายแด้ จึงมาค้นหารายชื่อเหยื่อที่คนโอนเงินและยังมีชีวิตอยู่ไม่ ที่สุดเจอคุณป้าคนหนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งรู้จักแอมผ่านพี่สาวแอมที่มาเรียนนวดแผนไทย
ทีมข่าวไปพบคุณป้าท่านนี้ เล่าว่า ตอนแรกรู้จักแอมผ่านพี่สาวที่มาเรียนนวดแผนไทย แอมทำทีเหมือนจะเอาที่ดินมาจำนอง แต่ป้าไม่มีเงินจึงหานายหน้าให้ แต่สุดท้ายไม่ได้จำนองที่ดิน แอมเปลี่ยนแผนมาชวนป้าเข้าร่วมทำธุจกิจหวยใต้ดิน โดยอ้างว่าผัวเป็นตำรวจ ไม่ต้องกลัวมีอะไรตามได้ ซึ่งธุรกิจวงหวยทิพย์เป็นกลุ่มไลน์นี้ มีตัวละครชื่อ “เหว่า” เป็นเอเย่นต์ เจ้ามือชื่อ “เค” (ตอนหลังมารู้ว่าคือแด้) โดยป้าทำหน้าที่หาลูกค้าให้ จะแบ่งรายได้ให้ 3 เปอร์เซ็นต์จากยอดซื้อหวย เมื่อหาลูกค้าได้ก็จะโอนเงินเข้าบัญชี "นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ" (นายเเด้) แต่นางแอมอ้างว่าเจ้าของบัญชีนี้ชื่อ "เค" เป็นเจ้ามือใหญ่
ป้าแนะนำลูกค้ามาซื้อหวยด้วย 5 ราย โดยมีชื่อป้าโอนเงินวันที่ 17 มกราคม เป็นเงินสด 5 แสนบาท และอีกยอดคือ 800,000 บาท รวมเงินต้น 1,500,000 บาท โอนเข้าบัญชีนายสุทธิศักดิ์ ทั้งหมด พอหวยออกเจ้ามือต้องจ่ายเงินให้คนในวง 5 รายรวม 8,900,000 บาท
เจ้ามือ คือ เค ต้องจ่าย 8,900,000 บาท แต่เคจ่ายสลิปปลอมเกือบ 4,500,000 บาท โดยอ้างว่าได้โอนเงินให้กับป้าแล้ว ให้ไปทวงกับป้า ทำให้ลูกหนี้เข้าใจผิดว่าป้ารับเงินมาแล้วแต่ไม่ได้เอาไปให้ลูกหนี้ ก่อนสร้างเรื่องให้คนในวงตีกันเอง แล้วหนีไป
ท้ายสุดพอทวงเงินจากนางแอมไม่สำเร็จ ป้าต้องรับผิดชอบนำเงินมาจ่ายให้กับคนลูกค้าที่มาซื้อหวยทั้งหมด 8.9 ล้านบาท เบื้องต้นตอนนี้ได้ไปกู้เงินมาจำนวน 2.5 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายให้ลูกค้าบางส่วนก่อน แต่ลูกค้าบางรายที่ยังไม่ได้เงิน ก็มีการไปแจ้งความและฟ้องร้องตน ดังนั้นตอนนี้นอกจากจากโดนนางเเอมโกงเเล้ว ยังต้องมาตกเป็นผู้ต้องหาเองด้วย
ป้าเคยเกือบจะตกเป็นเหยื่อแอมแล้ว เพราะนายเเด้เสียชีวิตเมื่อเดือนมีนาคม ถัดมาวันที่ 25 มีนาคม นางเเอมได้ติดต่อมาหาป้า บอกว่านายแด้เสียชีวิตแล้ว และตัวนางแอมต้องจัดการปัญหาหลายอย่าง จึงยังไม่มีเวลามาพูดคุยด้วย แต่ระหว่างนั้นนางแอมพยายามชักชวนไปเสริมดวงกับพ่อปู่ฤาษีรายหนึ่ง อ้างว่าดูดวงเเม่น และพยายามนัดเจอ อ้างว่าเป็นการนัดไปเคลียร์ปัญหาเรื่องเงิน แต่ว่าช่วงนั้นป้าไม่เชื่อใจนางเเอมแล้ว จึงไม่ได้เดินทางไป โชคดีไม่เช่นนั้นป้าอาจเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตแล้ว
ด้านกระแสสังคมที่ถกเถียงกันเรื่องโทษของแอม นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด บอกข้อกฎหมายระบุไว้ว่า "หญิงมีครรภ์ต้องโทษประหาร ให้รอไว้จนพ้นกำหนด 3 ปี นับตั้งแต่คลอดบุตร แล้วให้ลดโทษประหารชีวิตเหลือจำคุกตลอดชีวิต เว้นแต่บุตรตายก่อนพ้นกำหนดเวลาในระหว่าง 3 ปี นับแต่คลอดบุตร ให้หญิงนั้นเลี้ยงดูบุตรตามความเหมาะสม" นั่นหมายถึงว่า แอมจะไม่ถูกประหารชีวิต
ขณะที่ อารมณ์ของสังคม หลายร้านค้าหวั่นได้รับผลกระทบ ถึงกับเขียนป้าย ร้านนี้ปลอดสารไซยาไนด์ สะอาด อร่อย ปลอดภัย เพราะมีลูกค้ามาถามบ่อยว่า ใส่ไซยาไนด์หรือเปล่า
ขณะเดียวกัน ร้านขนมครกเจ๊แขกแหกปาก ร้านดังในโซเชียลก็ยังโพสต์ข้อความว่า "ไม่ต้องซื้ออะไรมาฝากนะคะ" พร้อมเขียนป้าย "งดรับของกินทุกกรณี"