"จตุพร" บอกไม่มีใครห้าม-ไม่ต้องขออนุญาตใครก่อนเข้าไทย ชี้คำพูดจะเป็นปัญหา ลั่นต้องเข้าเรือนจำเท่านั้น หากลงสนามบินแล้วเข้าบ้านเลย เชื่อแผ่นดินจะลุกเป็นไฟ

1 พ.ค. 66 นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "กดดัน" โดยตอนหนึ่งมีการพูดถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการโพสต์ทวิตเตอร์ ว่า “ต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน พบกันเร็วๆ นี้ ขอนุญาตนะครับ” หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส. แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้คลอดลูกคนที่ 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่า ในฐานะที่เป็นปถุชน ต้องขอแสดงความยินดีคนที่ได้ลูกและคนที่ได้หลาน แต่กรณนายทักษิณได้ทวิตเตอร์ เป็นถ้อยคำที่มีปัญหาเพราะเป็นลายลักษณ์อักษณ์ ที่เผยแพร่ไปทั่วรวมถึงมีการตีความที่แตกต่างกัน “เช้าวันนี้ ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชาย ชื่อ ธาษิณ จากน้องอิ๊งค์ แพทองธาร หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปี กรกฎานี้แล้ว พบกันเร็วๆ นี้ ครับ ขออนุญาตนะครับ”

 

 

ซึ่งตนตั้งคำถามว่าขอนุญาตใคร บรรดาผู้ทรงอิทธธิพลทางโซเชียลมีเดียที่อยู่ต่างประเทศนั้นพูดชัดว่าต้องขออนุญาตใคร ความเป็นจริงกรณีนี้ไม่มีความจำเป็นต้องใช้คำว่าขออนุญาต เพื่อให้เกิดปัญหาและความเสียหาย โดยเฉพาะที่มีการเผยแพร่ตามความเห็นคือเรื่องสถาบัน การใช้ถ้อยคำจาวาที่ไม่ระมัดระวัง คนอายุใกล้จะ 74 ปี ควรทบทวนตั้งแต่คำว่า “กระซิบข้างหู” ซึ่งตนไม่ทราบว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงมีท่วงทำนองที่ไม่ระมัดระวัง หรือจงใจเพราะการใช้ถ้อยคำว่า ขออนุญาต ถึง 2 ครั้งเป็นปัญหา ซึ่งขอเท็จจริงคดีความของนายทักษิณ มีโทษจำคุก 12 ปี คดีแรก 2 ปี ขาดอายุความ และอีก 10 ปี ไม่มีอายุความและคดีเป็นที่ยุติแล้วคำพิพากษาถึงที่สุด

 

 

ทั้งนี้ไม่มีคนไทยห้ามคนไทยเข้ามาในราชอาณาจักรได้ นายทักษิณ มีสิทธิ์ทุกวัน แต่ก่อนคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดา นายทักษิณเอาต่อเรื่องการยึดอำนาจ 19 เมษายน ตอนอยู่กรุงนิวส์ยอก ซึ่งเร่ร่อนอยู่ช่วงหนึ่งและพรรคไทยรักไทยถูกยุบ และตั้งพรรคพลังประชาชน มีการชูคำขวัญ “เลือกสมัคร เป็นนายกฯ แล้วเอาทักษิณ กลับบ้าน” ซึ่งเป็นคนเดียวที่พานายทักษิณกลับบ้านได้ ซึ่งจะได้เห็นภาพกราบแผ่นดิน ซึ่งไม่กล้าเข้าบ้านและไปเหมาโรงแรม 5 ดาวอยู่เพราะอ้างเรื่องความปลอดภัย แต่สุดท้ายก็เข้าบ้านจนได้ และคดีที่ดินรัชดาก็ใกล้เข้ามา จึงเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปขอความคิดเห็น ซึ่งตนเป็นหนึ่งในนั้นและเป็นเสียงข้างน้อยที่บอกนายทักษิณว่าอย่าหลบหนี อย่าเดินทางออกนอกประเทศ เพราะไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นหากต้องคำพิพากษาก็เดินเข้าคุกอย่างสง่างาม คุกเล็กกว่านายทักษิณอยู่แล้ว และการต่อสู่ในประเทศไทยก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกเป็นจำนวนมาก และเราเชื่อในขณะนั้นว่านายทักษิณเป็นนักต่อสู้ แต่เสียงส่วนใหญ่บอกติดคุกวันเดียวก็ตายแล้วทั้งยังอ้างเรื่องอื่นๆ เช่นฆ่าตัดตอนในขณะบริหาร ท้ายที่สุดจิตใจที่มีความขี้ขลาดกล้าทำกับคนอื่นแต่กลัวชีวิตตัวเอง ซึ่งมีการขออนุญาตศาลออกไปดูโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งพรรคพลังประชาชนทุกคนที่ไปส่งที่สนามบิน ซึ่งรู้ว่าจะเป็นภาพสุดท้ายและไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลับมาโดยมีการจงใจปล่อยให้ออกนอกประเทศ ระหว่างที่คดีกำลังตัดสิน และการออกไปตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้กลับมาถึงวันนี้ ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้กลับมาก็ไม่ใช่ใครห้ามกลับประเทศ แต่เพราะจิตใจไม่แข็งพอและหลัวการติดคุกแม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่ได้ ซึ่งเป็นแบบอย่างให้กับน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าติดคุกวินาทีเดียวก็ไม่ได้ แต่ลูกน้องตัวเองนั้นติดได้

 


ฉะนั้นการแสดงความยินดี การที่ใจที่ได้หลานชายถือเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่การเจตนาใช้ถ้อยคำ ขออนุญาตกลับบ้านนั้น ตนมองว่าเป้นปัญหา และคนชี้เป้าก็เคยเป็นกองเชียร์ที่มีการแข่งขันกันในขณะนี้ ระหว่างกองเชียร์พรรคก้าวไกลและพรรคก้าวไกล รวมถึงวิญญูชนก็คิดไม่ว่างกัน เพราะหากเป้นการขออนุญาตประชาชนนายทักษิณ ไม่ต้องขออนุญาต หรือจะขออนุญาตรัฐบาล เขาก็ไม่มีสิทธิห้ามไม่ให้เข้ามาในประเทศ หรือจะขออนุญาตต่อศาลก็เลยไปแล้ว เพราะเลยไปแล้วเนื่องจากคดีตัดสินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการถูกหมายจับหนีคดีไม่ต้องเข้ามาเอง ไม่ต้องขออนุญาตใคร การจะได้เลี้ยงหลานได้เลี้ยงแต่นอน แต่ต้องไปรับโทษในเรือนจำก่อน เพราะการใช้คำว่าขออนุญาต เป็นความละเอียดอ่อนและเชื่อว่าจะถูกนำไปขยายความ ทั้งนี้เชื่อว่าการเกิดของชีวิตใหม่คู่แข่งไม่มีใครที่จะไม่ยินดี แต่ถ้อยคำที่คนเป็นตาโพสต์นั้นจะเป็นปัญหาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งถ้าคนทั่วไปพูดพอจะเข้าใจได้ แต่คนเป็นนายกฯ ถึง2 ครั้ง รู้สถานการณ์ประเทศไทย วัฒนธรรมจารีตทางกฎหมายและวัฒนธรรมสังคม รู้ว่าพูดแล้วจะทำให้คนคิดว่ากำลังพูดกับใครได้ ซึ่งเป็นความละเอียดที่ไม่รู้จักจดจำ

 

 

ด้านนายนิติธร ล้ำเหลือ กล่าวว่า ตนมองว่าเขาเป็นยอดมนุษย์ เพราะไม่รู้กาละเทศะเอาทุกโอกาส ขนาดหลานเขาเกิดยังพูดเรื่องตนเองที่บอกจะกลับบ้าน และถ้อยคำที่ใช้ว่าขออนุญาตนั้นขออนุญาตใคร เพราะตอนไปศาลอนุญาตให้ไป แต่ก็บิดพริ้วไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลและสิ่งที่ให้สัจจะวาจากับศาล ทั้งนี้หากจะกลับก็กลับได้อยู่แล้ว แต่ช่วงนี้เป็นช่วงการเมืองที่พรรคเพื่อไทยค่อนข้างจะเสียคะแนนเสียรังวัดให้พรรคก้าวไกลเปก็นอย่างมาก ดังนั้นปรากฎการทักษิณโผล่มาเป็นการมาเพื่อทำให้เรื่องดีๆ ชิบหายไปอีก ถือมนุษย์ที่ผ่าเหล่าผ่ากออาศัยทุกช่วงโอกาส และตนเชื่อว่าเขาจะไม่กลับ ส่วนประโยคหลังมีความสำคัญกว่าประโยคแรกอาศัยเรื่องหลานเกิดเป็นเรื่องรอง แต่เจตนาต้องการแสดงความเห็นก่อกวน กวนน้ำให้ขุ่น เพื่อหวังปลุกคะแนนแก้เกมทางพรรคก้าวไกล ซึ่งไม่มีความหมายในสายตาตน และการพูดแต่ละครั้งไม่มีการพูดถึงกระบวนการยุติธรรมไม่มีการยอมรับกฎหมาย ซึ่งเชื่อได้ยากไม่เห็นว่าจะสร้างคะแนนนิยมได้อย่างไร ดังนั้นสังคมอย่าไปสนใจมาก หมาเห่าได้ตลอดเวลา ไม่มีอะไรลมพัดมันก็เห่าได้เป็นธรรมดาของทักษิณ