แม่ผู้เสียชีวิตปริศนา ที่เกี่ยวข้องกับ"แอม" เข้าให้ข้อมูลตำรวจ เผยข้อมูลสำคัญแอมเป็นผู้จัดการมรดก และนำทรัพย์สินไปประมูลขาย ขณะที่เหยื่ออีกคน พบบัญชีมีการยักย้ายถ่ายโอนเงินหลักแสนทั้งที่ตายไปแล้ว
คุณลัดดา คุณแม่ของคุณมณฑาทิพย์ หรือทราย ซึ่งเป็น 1 ในเหยื่อที่เสียชีวิตปริศนา ที่เกี่ยวโยงกับ "แอม" ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาลักทรัพย์ เข้าให้การกับพนักงานสอบสวน
โดยกล่าวสั้นๆว่า อยากมาเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูก และวันนี้รู้สึกเบาใจที่ตำรวจรับเรื่องไว้แล้ว โดยส่วนตัวเชื่อว่าลูกถูกทำให้เสียชีวิต ที่ผ่านมาลูกสนิทกับแอมมาก และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากให้ประหารชีวิตหรือไม่ นางลัดดา พยักหน้า
ทั้งนี้ เมื่อไล่ย้อนดูผังรวม พบว่าคุณมณฑาทิพย์ เสียชีวิตในปี2558 ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่เสียชีวิต แต่ตอนนั้นไม่มีใครติดใจการเสียชีวิต โดยครอบครัวของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า หลังจากคุณมณฑาทิพย์เสียชีวิต ปรากฏว่าแอมขอเป็นผู้จัดการมรดก แล้วบอกว่าสามีของคุณมณฑาทิพย์ส่งเงินมาให้หลายสิบล้านบาท ทำให้ครอบครัวเกิดความสงสัยในเรื่องนี้ด้วย
ทั้งนี้ คุณลัดดาคุณแม่ของคุณมณฑาทิพย์ ให้ข้อมูลอีกว่า คุณมณฑาทิพย์กลับไทยเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2558 จากนั้นแอมมารับ และพาไปกินข้าว ก่อนจะนำไปส่งที่พัก จากนั้นคุณมณฑาทิพย์ก็เสียชีวิต โดยมีการกล่าวอ้างว่าหลังจากที่คุณมณฑาทิพย์เสียชีวิตไปประมูลขาย รวมทั้งยังพบว่าคุณมณฑาทิพย์ไปซื้อตึกที่นครปฐม และพบว่ามีการชักชวนไปทำบุญและขอยืมเงินตลอด แต่วันที่ลูกตาย แอมไม่มาร่วมงานศพ
และพบว่าหลังจากที่คุณมณฑาทิพย์เสียชีวิต แอมตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก นำทรัพย์สินของคุณมณฑาทิพย์ไปขายทอดตลาด เพราะมีสมบัติที่สามีต่างชาติโอนเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยพบมีการนำสมบัติทยอยขาย
นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง8 ได้พบกับคุณจอย ซึ่งเป็นเพื่อนของคุณมณฑาทิพย์ โดยยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักกับแอมเลย แต่รู้มาว่าแอมมาขอยืมเงินจริง ซึ่งตั้งแต่ที่คุณมณฑาทิพย์บินมาที่ไทย ก็บอกกับคุณจอยแค่ว่า "จะไปทำบุญ" ได้บอกแค่นั้น และมารู้อีกครั้งคือเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตอนเสียชีวิต ผลชันสูตรออกมาว่าหัวใจวายเฉียบพลัน
ส่วนตัวของคุณจอย ทราบว่าเพื่อนเสียชีวิต และตอนนั้นตนเองก็ไปเดินทางไปงานศพด้วย ส่วนเรื่องทรัพย์สินรวมถึงตึกที่นครชัยศรี ที่แอมไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ตนเองก็ทราบว่าทรัพย์สินส่วนนี้ ถูกแบ่งให้กับทางครอบครัวของผู้ตายและสามีทรายแล้ว โดยในส่วนของทรัพย์สินส่วนนี้ตนเองขอยืนยันว่าไม่ทราบเลย เพราะเป็นเรื่องของคนในครอบครัว รวมถึงสามีของคุณมณฑาทิพย์ก็มีภรรยาใหม่ และตนก็ไม่ได้ติดกับทางครอบครัวเพื่อนอีกเลย และมาทราบเรื่องของเพื่อน ตอนที่เรื่องข่าวแอม เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตปริศนาแดงขึ้นมา
โดยในวันพรุ่งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะเรียกประชุมทีมคลี่คลายคดี เพื่อสรุปคดีทั้งหมดอีกครั้ง จากข้อมูลพบว่ามีผู้เสียชีวิต 14 คน รอดชีวิต 1 คน เบื้องต้นมีการเสนอศาลออกหมายจับแล้ว 3 หมายจับ และมีการออกหมายจับเพิ่มเติม
ด้านคุณรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานคดีแอม วันนี้ก็เดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยจะเข้ามาทวงถามความคืบหน้าคดีโดยเฉพาะงานศพของคุณก้อย ที่เสียชีวิตที่ท่าน้ำจากแอมชวนไปปล่อยปลา
โดยในวันนี้ได้รับหลักฐานบัญชีการเงิน ฉันเชื่อว่ามีประโยชน์แต่อาจจะเกี่ยวโยงกับแอม เนื่องจากมีข้อสงสัยไปรับพบว่าพบว่ามีบัญชีขิงก้อย มีการเคลื่อนไหว และพบว่าคนทำธุรกรรมไม่ใช่ญาติ จึงแต่ข้อสงสัยว่าคนที่ตายแล้วเหตุใดบัญชีจะมีการเคลื่อนไหว การทำธุรกรรมครั้งละหลักแสนบาท โดยแนะนำหลักฐานดังกล่าวมามอบให้กับพนักงานสอบสวน รวมทั้งอยากให้พนักงานสอบสวนใส่คลี่คลายธุรกรรมของคุณมณฑาทิพย์ด้วย ประโยชน์ไขข้อสงสัยว่าเหตุการณ์ยักย้ายถ่ายเทอะไรหรือไม่ อีกทั้งยังตั้งตัวเป็นผู้จัดการมรดก ส่วนคดีของก้อยเป็นเรื่องของบัญชีขยับได้ภายหลังจากที่ก้อยเสียชีวิต
"คนที่เสียชีวิตไปแล้วถ้ามีการเดินบัญชีอยู่ถ้าไม่ใช่ลูกไม่ใช่เมีย ทำให้ชวนสงสัยเพราะใครเป็นคนเดินบัญชีนี้ ส่วนคดีของคนชื่อทราย อยากให้ไปตามหาหลานคนชื่อทราย แล้วจะคำบอกเล่าเชื่อว่ามีเอกสารบางอย่างที่หลานคนนี้น่าจะเคยเห็น" นายรพี กล่าว
โดยในวันนี้ในอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางค่ะเพื่อแจ้งความประสงค์จะมอบเงิน 50,000 บาทและพร้อมกระเช้า ให้กับคุณรพี พร้อมชื่นชมที่ให้ข้อมูลกับตำรวจจนสามารถดำเนินคดีได้
"ในนามของประธานชมรมช่วยเหลือเยื่ออาชญากรรมมีแฟนคลับมีผู้สนับสนุนของชมรมได้เห็นความสำคัญของคุณรพี ประสงค์ที่จะมอบเงินให้เป็นกำลังใจซึ่งทำหน้าที่ของพลเมืองดีเป็นตัวอย่างของคนไทยทั้งประเทศที่มีคนเก่งแต่ไม่มีคนกล้า ถึงอยากจะมอบเงิน 50,000 บาทให้กับคุณรพี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง" นายอัจฉริยะ กล่าว
โดยคุณรพีไม่ขอรับเงิน 50,000 บาท เพราะพี่อุดมการณ์โดยตั้งใจช่วยเหลือสังคมพร้อมระบุอีกว่า ในวันนี้ผมไม่ใช่ฮีโร่ เพียงแค่อยากทำความจริงให้ปรากฏ