"บิ๊กโจ๊ก" ระบุเตรียมออกหมายจับ "ตำรวจ" 1 นาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกับแอม ใน 1-2 วันนี้ ขณะเดียวกันพบแหล่งที่มาไซยาไนด์ เตรียมเข้าค้นโรงงานวันนี้ หากพบใช้ผิดวัตถุประสงค์การนำเข้าดำเนินคดีด้วย

ล่าสุด พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาประชุมในคดีของ “แอม ไซยาไนด์” เปิดเผยก่อนเข้าประชุมว่า วันนี้จะเร่งรัดคดีให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นยอดของเหยื่อแอมที่เสียชีวิตอยู่ที่ 14 คน (ในสำนวน) และมีผู้รอดชีวิต 1 คน

 

โดยล่าสุดได้ออกหมายจับแอมแล้ว 10 คดี ซึ่งได้แจ้งข้อหาไปแล้ว และได้อายัดตัวตามขั้นตอนของกฎหมาย / ขณะนี้ยังเหลืออีก 4 คดี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ครบถ้วน พร้อมยืนยันทั้ง 10 คดี พยานหลักฐาน พบว่า “แอมเป็นคนฆ่า” ส่วนจะเป็นการฆ่าด้วยวิธีใด มีหลากหลายพฤติกรรม ทั้งให้กินแคปซูล อ้างว่าป้องกันโควิด รวมถึงใส่ในอาหารและใส่ในเครื่องดื่ม โดยตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่ส่งให้ศาล ทั้งผลการผ่าชันสูตรศพ และพยานแวดล้อมที่ให้การไปในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงตัวแอมทั้งหมด

 

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุอีกว่า จะมีความชัดเจนเกี่ยวกับผู้ร่วมหรือให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือหรือร่วมกันกระทำความผิดกับแอมครั้งนี้ด้วย เบื้องต้นจากพยานหลักฐาน พบว่า เป็น “ตำรวจ” 1 นาย และถือว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดที่เคยเรียกมาสอบปากคำก่อนหน้านี้ โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีเส้นทางการเงิน การใช้โทรศัพท์ และพฤติกรรมอื่นๆ ที่เชื่อมโยงอย่างชัดเจน เบื้องต้นทางตำรวจมีหลักฐานชัดเจน โดยตำรวจจะขอศาลออกหมายจับภายใน 1-2 วันนี้

 

ขณะเดียวกันตำรวจยังพบแหล่งที่มาของไซยาไนด์ โดยในวันนี้จะประสานและร่วมมือกับอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ อย. เข้าตรวจค้น โรงงานดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังมีการนำเข้าของไซยาไนด์ ซึ่งหลักฐานพบว่า แอมซื้อมาจากที่นี่ ส่วนจะเป็นการสั่งหรือรับจากที่โรงงาน ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้ง

 

เบื้องต้นบริษัทที่นำเข้าจะต้องมีวิธีควบคุมในการนำไปใช้ที่จะต้องไม่ให้ผิดวัตถุประสงค์ หากตรวจสอบพบว่า “กระทำผิดจะดำเนินคดีกับผู้นำเข้าด้วย!”

 

ส่วนกรณีของนายแด้ หลังจากนี้หากพบหลักฐานว่า ร่วมมือกระทำความผิดกับแอม ก็จะแยกดำเนินคดีเป็นอีกสำนวนหนึ่ง ถึงแม้นายแด้จะเสียชีวิตไปแล้ว ตำรวจก็จะดำเนินคดีในฐานผู้กระทำผิด แต่เนื่องจากเจ้าตัวเสียชีวิตไปแล้ว ในทางกฎหมายการดำเนินคดี ก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด

 

ส่วนกรณีที่แอมเคยขายประกันชีวิตนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบคนที่ทำประกัน ว่า สถานะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และหากเสียชีวิตมีใครได้รับประโยชน์จากการเสียชีวิตบ้าง รวมถึงกระบวนการจำนำรถ และคดีของนางสาวมณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือ “ทราย” ที่เสียชีวิตในพื้นที่ สน.ทองหล่อ อยู่ระหว่างตรวจสอบทั้งหมด พร้อมยอมรับว่า คดีที่ผ่านมา อย่างคดี “สารวัตรปู” หรือ พ.ต.ต. หญิง นิภา แสนจันทร์ มีความบกพร่องทั้งที่มีผลว่า “พบไซยาไนด์” แต่ไม่มีการดำเนินคดี ซึ่งถือว่าบกพร่อง หลังจากนี้จะต้องปรับกระบวนการ จะต้องผ่าชันสูตรศพทั้งหมดที่เสียชีวิตผิดธรรมชาติ แม้ญาติจะไม่ติดใจ