เปิดพยานปากเอก แฉ "แอม" ร้อนรน จ้างวัยรุ่นสำรวจกล้องวงจรปิดจุด "ก้อย" เสียชีวิต

คุณนฤทธิ ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนายกล้วย (นามสมมติ) พยานปากเอกในคดีอีกหนึ่งคน ซึ่งเป็นคนที่นางสาวแอมไว้ใจและสนิทสนม โดยได้นัดให้เป็นคนนำถุงดำที่มีขวดไซยาไนด์ไปฝังดินและเป็นคนไปรับถุงดำกับมือนางสาวแอม

นายกล้วย ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า วันที่ 14 เมษายน 2566 (วันที่ก้อยตาย) เวลาประมาณ 21.14 น. นางสาวแอมได้โทรศัพท์มาหา โดยมีท่าทีแปลกๆ โดยบอกให้ตนเองช่วยไปดูกล้องวงจรปิดบริเวณทางลงริมน้ำจุดปล่อยปลา ใกล้ศาลาประชาคม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ให้หน่อย ว่าจุดนั้นมีกล้องวงจรปิดบ้างไหม และมีอยู่กี่ตัว ตอนนั้นตนเองก็แปลกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้คิดอะไร จึงรับปากนางสาวแอมไปว่า เดี๋ยวจะขับรถไปดูให้

จากนั้นไม่นาน เวลาประมาณ 21.30 น. นางสาวแอมได้ส่งข้อความมาเร่งอีก โดยพิมพ์บอกตนเองว่า “ไปเลยด่วนๆ แถวทางลงนะ ดูแล้วถ่ายรูปมานะ ส่องถึงไหม กล้องมันอยู่ตรงไหน ไปด่วนๆๆๆเลย” แต่ตอนนั้นตนเองไม่ได้อ่านเพราะเผลอหลับไป โดยตอนนั้นนางสาวแอมได้โทรศัพท์มาหาตนเองหลายสายมากแต่ตนเองไม่ได้รับ

จากนั้น นางสาวแอมมีท่าที่ร้อนรน และพยายามส่งข้อความมาหาตนเองอีก ในเวลาตี 2 ของวันที่ 15 เมษายน และตี 2 ของวันที่ 16 เมษายน ว่าไปดูกล้องให้หรือยัง

กระทั่ง เวลา 13.40 น. ของวันที่ 16 เมษายน นางสาวแอมได้ทักมาอีก และบอกว่า ติดต่อยากแท้ แล้วชวนคุยประมาณว่า มีตังค์ติดตัวไหม ขับรถเป็นไหม จากนั้นนางสาวแอมได้ขอความช่วยเหลือให้ตนเองช่วยขับรถเก๋งวีออสของนางสาวแอมขับไปเก็บที่โกดังที่ จ.นครปฐม โดยให้ตนเองนั่งรถ บขส. ไปหาที่ จ.กาญจนบุรี ก่อนเวลา 1 ทุ่ม เมื่อขับเอารถไปเก็บแล้ว นางสาวแอมบอกว่าจะให้เพื่อนขับรถมาส่งที่บ้าน

โดยถามตนเองว่า “ขับวีออสพี่ได้ปะ” ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ว่าจะช่วยขับไปเก็บให้ แต่ก็ไม่ทันได้ไป เพราะนางสาวแอมเงียบหายไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่า นางสาวแอมมีเจตนาเอารถไปเก็บในโกดังเพราะสาเหตุใด

กระทั่ง 20.50 น. ของวันที่ 16 เมษายน วันเดียวกัน นางสาวแอมได้โทรศัพท์มาหาตนเองอีก และบอกให้ตนเองออกมารับของบางอย่าง ช่วยเก็บไว้ให้หน่อย เพราะเดี๋ยวจะออกไปทำธุระข้างนอก ถ้าทำธุระเสร็จเดี๋ยวจะกลับมาเอา โดยนางสาวแอมได้นัดให้ออกมาเจอบริเวณหน้าปากซอย

จากนั้นตนเองจึงได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปหา ซึ่งทันทีที่จอดนางสาวแอมได้ถือถุงดำเดินมาวางไว้บริเวณตะกร้าหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของตนเองทันที โดยไม่ได้บอกว่าของในถุงดำนั้นคืออะไร บอกว่าเป็นทะเบียนรถ ตนเองจึงไม่ได้เอะใจอะไร

โดยนางสาวแอมได้ส่งข้อความมาย้ำอีกด้วยว่า “สายๆนะ ของเก็บไว้นะเดี๋ยวเข้าไปเอา, ห้ามทิ้ง, สายเอาเงินไปฝาก นอนยัง” ซึ่งตนเองบอกว่า ยังไม่นอน นางสาวแอมก็พิมพ์ต่อว่า “อยากรวย ทำไรกันดี หาไรทำกัน อยากมีทุนสักก้อน” ก่อนที่นางสาวแอมจะเงียบหายไป เพราะตนเองไม่ค่อยตอบแชต

กระทั่งวันที่ 19 เมษายน รุ่นน้องตนเองเห็นข่าวนางสาวแอม ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยการเสียชีวิตของนางสาวก้อยบริเวณริมน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่นางสาวแอมได้บอกให้ตนเองไปดูกล้องวงจรปิดในคืนวันที่ 14 เมษายน หลังจากนางสาวก้อยเสียไม่กี่ชั่วโมง ตัวเองจึงรู้สึกแปลกใจ และคิดว่าในถุงดำต้องมีอะไรผิดปกติแน่จึงได้เปิดดู และได้พบว่าในถุงดำมีทั้งเอกสารบัตรประชาชนของนายแด้ สมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม และยังพบหลอดยาบางอย่างที่ถูกใช้แล้ว 1 หลอด และขวดยาอีก 1 ขวด จึงใจคอไม่ดี รีบแจ้งตำรวจกองปราบให้มาตรวจสอบ ซึ่งตนเองมารู้ทีหลังว่าคือยาไซยาไนด์

ซึ่งช่วงวันที่ 20 21 22 นางสาวแอมพยายามติดต่อมาให้พวกตนเองให้เอาถุงดำมาคืน โดยอ้างว่า จะให้เงิน 10,000 บาท พร้อมกับเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการตอบแทนแต่ขณะนั้นตนเองได้ส่งมอบถุงดำให้กับตำรวจแล้ว นางสาวแอมจึงได้โทรศัพท์มาขู่ตนเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหายตัวไปว่า “หากพวกมึงทำให้กูเดือดร้อน กูออกจากคุกมาได้ กูฆ่าคนมา 30 ศพแล้ว จะมีศพที่ 31 32 ก็เป็นไปได้นะ”

ยอมรับว่า ขณะนี้ค่อนข้างกลัว แต่อยากให้ความร่วมมือกับตำรวจเพื่อหาหลักฐานเอาผิดนางสาวแอมให้ได้ เพราะมองว่า นางสาวแอมโหดเหี้ยมเกินไป และการตายของนายแด้ นางสาวแอมก็อาจจะเป็นผู้วางแผนฆ่า

ส่วนความคืบหน้ากรณี น.ส.ผุสดี หรือครูอ๊อด ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งครอบครัวสงสัยว่าครูอ๊อดถูกแอมวางยา เนื่องจากตอนเสียชีวิตมีอาการน้ำลายฟูมปาก จึงมีการนำวัตถุพยานซึ่งอยู่ในตู้เย็นภายในห้องนอนของครูอ๊อดไปตรวจสอบ ประกอบด้วย กล่องยา 2 ซอง ซองสำลีที่เช็ดตามบริเวณต่างๆ ในบ้าน ขวดน้ำดื่ม 3 ขวด น้ำกลั่น 1 ซอง และน้ำสมุนไพร 1 ขวด ส่งให้ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ "อาจารย์อ๊อด" อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ช่วยตรวจพิสูจน์

ปรากฏว่า พบสารไซยาไนด์ปนเปื้นในขวดน้ำ เป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจนำมาออกหมายจับน.ส.แอม ในข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"

หลังทราบผลตรวจดังกล่าว นายไพบูลย์ พ่อของครูอ๊อด บอกว่า ผลตรวจขวดน้ำในตู้เย็นของครูอ๊อดออกแล้วพบไซยาไนด์ มั่นใจว่าแอมต้องวางยาลูกเราแน่นอน เพราะว่าตอนหลังลูกเราไปกู้เงินที่สหกรณ์มา 6 แสน จากเงิน 6 แสนใช้หนี้ข้างนอกไป 2 แสน แล้วเงินที่เหลือไปไหน เพิ่งมารู้ยอดเมื่อเร็วๆ นี้เพราะสหกรณ์ให้ไปเซ็นใบรับรอง เลยถามสหกรณ์ว่าเขากู้เงินมาเท่าไร จึงทราบว่า 6 แสน แล้วรวมยอดเก่าด้วยเป็น 2 ล้าน 3 แสน ที่เป็นหนี้สหกรณ์อยู่ หักลบกลบหนี้มันพอดีไม่ต้องใช้คืนสหกรณ์ กู้มาก่อนตาย 1 เดือน ใช้หนี้ไปแล้ว 2 แสน ส่วนที่เหลือ มันหายไปไหนไม่รู้

พ่อครูอ๊อดบอกว่า ถ้าเอาขวดน้ำมาแช่ตู้เย็นในบ้าน คนในบ้านน่าจะหยิบไปดื่มและโดนยากันทั้งบ้าน แต่ครูเขามีตู้เย็นเล็กในห้องเลยไม่มีใครไปยุ่งกับของเขา แอมนี่มันโหดร้ายมาก เราไปทำอะไรให้เขา คนที่ตายๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวทั้งนั้น เป็นเจ้าหนี้มันที่ตาย มันก็ฆ่าเขาได้ลงคอฆ่าอย่างเลือดเย็น

พร้อมขอบคุณทุกคน ขอบคุณตำรวจ นักข่าว และอาจารย์อ๊อด เราจะได้รู้ความจริงว่าเขาฆ่าลูกเราจริง

 

"แอม" สั่งดูกล้อง หลัง "ก้อย" ตายที่ท่าน้ำ