โชว์ตัวครั้งแรกหลังคลอด !! "อุ๊งอิงค์" พา "น้องธาษิณ" มอง "ทักษิณ" อยากกลับบ้านเป็นความหวัง แค่มาเลี้ยงหลาน ไม่เคยพูดจะกลับมาเป็น "นายกฯ" เมินผลโพลก้าวไกลพุ่ง เชื่อ แลนด์สไลด์ไม่สะดุด
3 พ.ค. 66 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี พาน้องพฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ หรือ น้องธาษิณ ที่อยู่ในตู้อบมาโชว์ต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังคลอดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม เวลา 6 นาฬิกา ที่ผ่านมา
จากนั้นได้ร่วมกับสามี แถลงข่าวว่า น้องธาษิณใช้วิธีการผ่าคลอด เนื่องจากมีเหตุขัดข้อง หมอจึงแนะนำว่าผ่าคลอดจะปลอดภัยที่สุด จึงตัดสินใจผ่าคลอดเลย ไม่มีฤกษ์ ทันทีที่ได้ยินเสียงลูกร้อง น้ำตาก็ไหลเลยทั้ง 2 ข้าง ดีใจที่แข็งแรงและปลอดภัยดี เพราะตนก็กลัวเรื่องการผ่าคลอดมาก
ส่วนชื่อน้องตั้งเองกับมือ เป็นส่วนผสมของชื่อ คนในครอบครัวทั้งคุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ และนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งภูมิใจมากจริงๆ แม้จะไม่ได้มีความหมายอะไร แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส ชอบชื่อที่ผูกพันกับคนในบ้านมากกว่า ดูแล้วอบอุ่นดี มาจากความชอบมากกว่าเรื่องความหมาย ส่วนหน้าตาของนางธาษิณ ที่หลายคนบอกว่าหน้าเหมือนนายทักษิณ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ความจริงแล้วนายทักษิณ ได้พูดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่า ลูกผู้ชายมักจะหน้าเหมือนแม่ เมื่อหน้าเหมือนแม่ก็จะหน้าเหมือนคุณตาด้วย ซึ่งตนก็มองไม่ออกว่าหน้าเหมือนใครกันแน่ อย่างไรก็ตาม คาดว่า 4-5 เดือน น่าจะพาหลานไปหาคุณตาได้
เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความอยากกลับมาเลี้ยงหลาน เจอกันเร็วๆนี้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ครอบครัวอิงค์ ทุกคนตื่นเต้น เพราะเป็นหลานคนที่ 7 ซึ่งคุณพ่อก็คงตื่นเต้นมากๆ และคงหวังอยากจะมีโมเม้นอยู่หน้าห้องคลอด ตนก็เคยวางแผน ว่า จะไปคลอดประเทศที่พ่ออยู่ เพื่อให้มีความรู้สึกมาเฝ้าลูกคลอด เพราะคุณตาก็คงอยากเห็นหลานในวันที่คลอด แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
เมื่อถามว่า นายทักษิณ พูดถึงเรื่องกลับบ้านหลายครั้ง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตนมองเป็นเรื่องของความหวังมากกว่า แน่นอนในสิ่งที่เขาพูดอาจจะเอฟเฟคในเรื่องของการเมือง แต่ในเรื่องทางครอบครัว มันไม่ผิดที่จะหวัง โดยเฉพาะในวันที่บ้านมีเรื่องดีๆ และส่วนตัวก็ยังไม่ได้คุยกับพ่อเรื่องกลับบ้าน ทุกวันคุยกันแต่เรื่องของหลาน
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยกำลังเดินสายหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย การประกาศกลับบ้านของคุณทักษิณ ชินวัตร อาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือฐานคะแนนเสียงบางส่วน นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตัวเองมองการกลับบ้านของพ่อไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่ามันแยกยากเพราะนายทักษิณ เป็นคนก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แต่ในความเป็นลูกของตนตอนนี้ก็ไม่สามารถบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกันได้ มันจึงเป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันมา ที่สำคัญคุณพ่อพูดตลอดว่าอยากกลับมาเลี้ยงหลานแต่ไม่เคยบอกว่าอยากกลับมาเป็นนายกฯ นี่คือเรื่องจริง แล้วมันไม่เกี่ยวกันเลย แต่บางคนก็พยายามผูกให้มันเกี่ยวกัน
"ขอให้เข้าใจพื้นฐานความเป็นมนุษย์ว่ามนุษย์ต้องมีความหวัง นายทักษิณ ก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีที่ท่านยังมีความหวังอยู่ เพราะมันจะส่งผลต่อสุขภาพ จิตใจยังดี คนที่เชียร์ก็มีความหวังไปด้วย "
เมื่อถามว่าโพลชี้กระแสความนิยมของพรรคก้าวไกล เพิ่มมากขึ้น จะมีผลกระทบกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า โพลบางอัน ก็เชื่อถือได้ บางอันก็เชื่อถือไม่ได้ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณ แต่ตนคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเปลี่ยนประเทศ ไม่ใช่เลือกไปแล้วต้องรออีก 4 ปีแล้วค่อยเปลี่ยน เรารอไม่ได้อีกแล้ว จะเหมือนปี 2562 ที่ได้เสียงข้างมาก แต่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่ากระแสของพรรคก้าวไกลที่เพิ่มขึ้นอาจจะทำให้แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยสะดุด อาจจะทำให้แรงสไลด์เพื่อไทยสะดุด นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญมากที่ต้องเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์ ตอนนี้เหลือเวลาอีก 10 กว่าวัน ทุกพรรคต้องทำเต็มที่ เราก็ทำเต็มที่เหมือนกัน
เมื่อถามถึงกระแสตัวบุคคลที่สูงขึ้น เช่นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะต้องมีการปรับกลยุทธ์อะไรหรือไม่ นางสาวแพรทอง กล่าวว่า ถ้าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ก็พร้อมลุยเต็มที่ ต้องนำเสนอตัวเองให้ประชาชนตัดสินใจ ออกไปพบประชาชนให้ได้มากที่สุด เรามีแคนดิเดตนายก 3 คนที่ พร้อมทำเพื่อประชาชน ส่วนใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 ของพรรคเพื่อไทยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า "ทุกคนมีความพร้อม"
ส่วนเรื่องการจับขั้วกับพรรคอื่นๆ ยืนยันเป็นการปั่นกระแส ที่ผ่านมาทุกคนในพรรคยืนยันชัดเจน ว่าจะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนจึงมองว่าเป็นเทคนิคทางการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ พร้อมปฎิเสธเรื่องการถือหุ้นสื่อฯ เบื้องต้นฝ่ายกฎหมายตรวจสอบแล้วและมั่นใจเพื่อไทยยังแลนสไลด์ ขณะเดียวกันก็มีความเห็นสอดคล้องกับนายเศรษฐา ทวีสิน เรื่องของนโยบายไม่เอากัญชาเสรี และสิ่งที่นายเศรษฐาตอบนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส่วนตัวก็เห็นด้วยทั้งหมด
เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางไปยื่นให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย กรณีไลน์หลุด โอนเงินให้คนเสื้อแดงช่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีกระแสว่าเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า มองเป็นเทคนิคหนึ่งในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ยืนยัน พรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวล หากคุณศรีสุวรรณ ว่างมากก็เชิญ ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ มองว่า หากว่างมีเวลาเหมือนนายศรีสุวรรณ ก็จะฟ้องกลับ แต่ส่วนตัวมั่นใจ ไม่มีโทษถึงยุบพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ คาดว่าอีก 1-2 วัน น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ จะลงพื้นที่หาเสียงเลยหรือไม่ตนก็ได้บอกทีมงานของพรรคเพื่อไทยว่าพร้อมเสมอ แต่อย่างไรก็ตามวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ที่จะมีการปราศรัยใหญ่ที่กรุงเทพฯ ตนจะไปแน่นอน ขณะที่การขึ้นเวทีดีเบต ตนก็ยินดีที่จะเปิดวิสัยทัศน์ อย่างไรก็ตามอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิ์ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ตนและครอบครัวจะไปใช้สิทธิ์แน่นอน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่น ก่อนจะย้ำว่าพรรคเพื่อไทยคือคำตอบที่ดีที่สุดในเวลานี้