"แอม" ร่ำไห้เจอหน้า"รอง ผกก."อดีตสามีกังวลพ้นราชการ ร้องขอพบญาติก่อนรับสารภาพ"บิ๊กโจ๊ก"
เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังออกจากเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อเข้าไปสอบปากคำแอม สรารัตน์ โดยเปิดเผยว่า วันนี้ตน ผบช.ภ.7 และ พ.ต.ท.วิฑูรย์ หรือ รองผู้กำกับอ๊อฟ อดีตสามีแอม เข้าไปเกลี้ยกล่อม ให้แอมสำนึกผิด โดยแอมเสนอว่าขอเจอญาติผู้หญิงคนหนึ่งที่ไว้ใจก่อน โดยญาติคนนี้อยู่ในพื้นที่ บช.ภ.7 หลังจากนั้นจะยอมให้การกับตนทั้งหมด
โดยนัดหมายให้ รองผกก.อ๊อฟ นำตัวญาติของแอมมาพบในเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พ.ค.นี้ จากนั้นวันที่ 6 พ.ค.ตนจะมาสอบสวนแอมอีกครั้ง ว่า จะให้การอย่างไร ในระหว่างการสอบสวนแอมได้ร่ำไห้ เพราะกังวลเกี่ยวกับเรื่องสามีที่โดนให้ออกจากราชการจากการกระทำของตัวเอง และไม่รู้ว่าเขาจะทำงานและใช้ชีวิตอย่างไรต่อ รวมถึงกังวลเรื่องลูกด้วย ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร แต่ในวันนี้ แอม ยังไม่ยอมรับสารภาพในคดีฆ่า หรือให้การใดๆ โดยขอพบญาติรายนี้ก่อน โดยพนักงานสอบสวนเห็นว่า การให้สามี มาเกลี้ยกล่อมจะทำให้แอมให้การรับสารภาพ และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
รองผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนเรื่องการรับสารภาพนั้น ตนจะมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งหลังจากที่เขาได้พบญาติแล้ว การที่เขาจะรับสารภาพเขาจะต้องสบายใจ ให้เจอญาติที่เขาต้องการพบ แอมรับปากตนว่า ถ้าเจอญาติแล้วจะยอมพูดทั้งหมด หลังจากเสร็จแล้ว ตนจะให้ อ๊อฟติดต่อญาติคนนี้เข้ามาเพื่อให้แอมได้เจอญาติรายนี้
"ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าอ๊อฟเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม ต้องดูเรื่องความเชื่อมโยงเกี่ยวกับพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน ที่งอ๊อฟจะต้องรับผิดชอบด้วย ต้องพยายามทำควบคู่กันไป ต้องพยายามให้แอมสำนึกผิดให้จิตใจส่วนนี้ของแอมขึ้นมา เพื่อให้รู้ผิดชอบชั่วดี ถ้าจิตใจที่ไม่ดีขึ้นมาเหนือกว่า ความรู้ผิดชอบชั่วดีก็จะไม่เกิด ตอนนี้ก็ทำให้เรามีความหวังที่เขาจะได้พบกับญาติเขาก่อนในวันพรุ่งนี้และในวันถัดไปตนจะเข้ามาพูดคุยกับแอมอีกครั้ง ถ้าเขารับสารภาพ ก็เป็นผลดีแต่ถ้าไม่รับเราก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ศาลลงโทษเขาให้ได้ การที่แอมผสมไซยาไนด์บ่อย ทำให้แอมมียาต้านไซยาไนด์ แสดงว่ามีการป้องกันตัวเอง เพราะสารไซยาไนด์แค่สูดดมไปก็โดนแล้ว ยาต้านไซยาไนด์ ต้องฉีดเข้าเส้นเลือดดำ คนฉีดได้ต้องเป็นพยาบาลต้องไปไล่ต่อว่าใครเป็นพยาบาลที่อยู่ใกล้ตัวเขา การมียาต้านพิษด้วยแสดงถึงว่าคิดไว้รอบคอบแล้ว เรื่องนี้เป็นซีรี่ย์ได้เลย" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ
ล่าสุด ตำรวจนำหมายศาลลงพื้นที่ไปตรวจค้นและเก็บหลักฐาน ในบ้านของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม
โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ใช้เวลาอยู่ในบ้านประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งสิ่งของที่เก็บไปตรวจสอบในวันนี้ เน้นเป็นยาทุกชนิดที่อยู่ภายในบ้าน รวมถึงกระดาษทิชชู่เปียก, ตุ๊กตาหมอนเสื้อผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ยังไม่ได้ใช้
ซึ่งนอกจากยา ตำรวจยังไปพบกระเป๋าของนางแอม ที่มีขวดยาแบบที่มีฉลากข้างขวดยาเป็นภาษาจีน อยู่ในกระเป๋า จึงมีการเก็บกระเป๋าพร้อมกับขวดยาดังกล่าวกลับไปตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน วันนี้หลังตรวจค้นบ้านเสร็จ ทีมข่าว ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่ชายของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ เปิดใจกับทีมข่าวว่า จริงๆแล้วตัวน้องชาย เป็นคนที่น่าสงสารมากที่สุด ตั้งแต่เกิดเรื่อง ยอมรับว่าทุกคนในครอบครัวก็เครียดไปไม่น้อยกว่าตัวน้องชาย ซึ่งทุกคนไม่เคยคิดว่า จะเกิดเรื่องแบบนี้กับคนใกล้ตัว และเท่าที่คุยกับน้องชาย เขายืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และนางแอมก็ไม่เคยบอกว่าเขาทำอะไรลงไปบ้าง
ส่วนเรื่องลูกของน้องชายกับนางแอม ทางครอบครัวขอกลับไปปรึกษากันก่อน ว่าจะเอายังไงต่อไป