ฟังความอีกด้าน "เจ้าอาวาส-พระหมู" เปิดใจยืนยันชัดที่วัดไม่มีมาเฟีย แต่งตั้งไวยาวัจกรเป็นสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมาย คาดขัดขาผู้เสียผลประโยชน์?
ภายหลังจากที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรมและทีมงาน พร้อมทั้งคณะสงฆ์ ตำรวจสน.บางรัก เดินทางมาตรวจสอบที่ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร หลังได้รับการร้องเรียน พระหมู ทำหน้าที่อุปัฏฐากดูแล เจ้าอาวาส อายุ 83 ปี โดยพระหมู มีพฤติกรรมกีดกันไม่ให้พระภิกษุสามเณรหรือบุคคลใดๆ เข้าใกล้ชิดกับเจ้าอาวาส ก่อนชักนำให้องค์กรภายนอก ชื่อว่า องค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ NRO ที่มีดารา ก. เป็นเจ้าของ เข้ามาภายในวัดและพบมีการแต่งตั้งบุคคลจากองค์กรนี้ จำนวน 2 คน เป็นไวยาวัจกร โดยไม่ถูกต้องตามกฎมหาเถรสมาคม
ทีมข่าวช่อง 8 เข้ากราบนมัสการเจ้าอาวาส และพระหมู โดยพระหมู เปิดใจว่าดูแลเจ้าอาวาสเหมือนดั่งพ่อ ตอนเด็กๆเคยเข้ามาวิ่งเล่นภายในวัด ค่อยตามหลวงพ่อ และเมื่อพอบวชเป็นพระ ท่านเจ้าอาวาสเริ่มชราภาพอาพาธก็ต้องดูแล
นอกจากนี้พระหมูยังตอบข้อคำถาม กรณีที่ทนายอนันต์ชัยนำคณะเข้ามาตรวจสอบ ว่ามีการนำจ่ายชุดดำมาควบคุมดูแลวัด และมีองค์กร NRO โดยพระโมยืนยันว่าไม่ใช่มาเฟีย โดยองค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติหรือ NRO เป็นโยมอุปัฏฐากที่วัด เลยบอกว่าสาเหตุที่ต้องมีคนมาดูแลวัดเนื่องจากมีเรื่องของขโมย ซึ่งตอนนี้ไม่มีแล้วชุดทำมีแต่ชุดขาว คือคนทำบุญ ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากฝ่ายที่เสียผลประโยชน์
ขณะเดียวกัน ได้กราบนมัสการท่านเจ้าอาวาส พระราชวชิราภรณ์ เบื้องต้นทีมข่าวพบว่าท่านยังมีสติสัมปชัญญะดีอยู่ โดยยืนยันว่าท่านเป็นผู้ตั้งไวยาวัจกรเอง ซึ่งเป็นศิษย์ของเจ้าอาวาสที่สามารถแต่งตั้งใครก็ได้ภายในวัดที่หลวงพ่อดูแลอยู่ และพระหมูดูแลท่านเป็นอย่างดี เชื่อว่าน่าจะมีกันขัดผลประโยชน์จากคนบางกลุ่ม
ส่วน คุณเปรมวิทย์ ไวยาวัจกร บอกว่า รู้จักชายใส่ชุดดำทุกคน โดยมีการเปลี่ยนเวรการดูแลทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมยืนยันว่าการแต่งตั้งไวยาวัจกรแต่งตั้งโดยเจ้าอาวาส โดยตามกฎเจ้าอาวาสก็มีสิทธิ์แต่งตั้งเอง ก่อนหน้านี้เจ้าอาวาสรูปเก่าก็เคยมีไวยาวัจกร เมื่อมรณภาพไวยาวัจกรคนดังกล่าวก็หมดหน้าที่ไป โดยคุณเปรมวิทย์ก็ขึ้นมาทำหน้าที่นี้ พร้อมยืนยันว่าท่านแต่งตั้งโดยมีสติสัมปชัญญะที่ครบถ้วน ไม่ได้มีการปลอมลายเซ็นหรือเอกสารขึ้นมา