มูลนิธิวินวิน เปิดปมใหม่ แฉขบวนการแอม ออกรถแล้วตาย เหยื่อที่รอดงัดหลักฐานแฉยับ เตรียมส่งให้ "บิ๊กโจ๊ก" 11 พ.ค.นี้
กรณีเพจ “มูลนิธิ วิน วิน” มีการโพสต์ ระบุว่า “วินวิน ได้เบาะแส นายทุนที่รับซื้อรถป้ายแดง ที่แอมพาหลายๆ คนไปออกรถจากโชว์รูม แล้วนำรถไปขายให้กับนายทุนคนนี้ แล้วรถป้ายแดงเหล่านี้ไปไหน เอาไปทำอะไร สุดท้ายคนที่แอมพาไปออกรถเสียชีวิต และมีใบแจ้งหนี้มาที่บ้าน ทั้งที่คนในครอบครัวไม่รู้เลยว่า ผู้เสียชีวิตไปออกรถตั้งแต่เมื่อไหร่ และรถคันนั้นอยู่ที่ไหน รอตามเรื่องนี้กัน วินวินลากไส้ขบวนการ แอมไซยาไนด์ต่อ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตทุกราย #มูลนิธิวินวิน #แอมไซยาไนด์ #หวยทิพย์”
ทีมข่าวช่อง 8 ได้คุยกับนางสาวชลิดา พะละมาตย์ มูลนิธิวิน วิน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากพยานบางคน ซึ่งได้มีการให้ข้อมูลกับทางมูลนิธิ แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่ามีโชว์รูมรถเกี่ยวข้อง และอาจมีกระบวนการกลุ่มเซลส์ที่รู้จักกับนางสาวแอม จนไปหลอกลวงผู้เสียหายให้ชื้อรถทั้งแบบป้ายแดง และเต็นท์รถมือสอง จากนั้นจะเลือกกลุ่มเหยื่อที่เป็นคนมีหนี้นอกระบบ ต้องการหาเงินก้อนไปปิดหนี้ดังกล่าว แต่กลายเป็นหนี้ในระบบแทน
เช่น กรณีของเหยื่อที่ให้ข้อมูลกับมูลนิธิวินวิน รวมถึงเหยื่อบางคนที่ตายไปแล้ว โดยตัวของนางสาวแอม จะเลือกคนที่มีหนี้นอกระบบแล้วมีการจ่ายดอกรายวันสูง จะชักจูงให้เข้าไปรู้จักกับเชลส์ขายรถ เชลส์ ด. และโชว์รูมให้ไปออกรถ เปลี่ยนจากการเป็นหนี้นอกระบบ ไปมีหนี้ในระบบแทน หลังออกรถได้แล้วจะพาไปรู้จักกัน เฮีย ต. ที่เป็นคนรู้จักกับนางสาวแอม จากนั้น จะมีการรับซื้อรถที่เพิ่งออกมาจากโชว์รูมหรือเต็นท์รถ เช่น รถราคา 700,000 บาท จะรับชื้อในราคา 400,000-500,000บาท ครึ่งๆ หรือน้อยกว่ายอดรถ แล้วเงินที่ขายรถได้ จะเอาไปจ่ายหนี้นอกระบบ ให้เหยื่อไปเป็นหนี้ในระบบแทน แต่ข้อสังเกตคือ คนที่ถูกให้ออกรถ บางคนมีชีวิต บางคนตาย
คาดการณ์ว่าในวันที่11 พ.ค. นี้ จะพาเหยื่อพร้อมทั้งหลักฐานที่รวบรวมได้เข้าไปมอบให้กับ พล.ตงอ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อจะเอาผิดกับคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนางสาวแอม
สำหรับเรื่องดังกล่าว ทีมข่าวเดินทางไปสอบถามกับ นายกิตติ หรืออ๊อฟ น้องชายของครูอ๊อด เหยื่อของแอมที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวเข้าใจว่าครูอ๊อดได้ไปซื้อรถแล้วไม่จ่าย ก็ไม่รู้ว่าไปซื้อรถให้ใคร หรือเกี่ยวข้องอะไรกับใคร จนกระทั่งมีข้อมูลจากเหยื่อ รวมถึงคนที่รอดออกมาให้ข้อมูล เกี่ยวกับกระบวนการออกรถป้ายแดงหรือออกรถแล้วตาย จึงทำให้ตนเองเชื่อมากขึ้น ว่าการตายของพี่สาวเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว
เพราะหลังจากงานศพ ปรากฏว่ามีโทรศัพท์จากบริษัทการเงินไฟแนนซ์ที่พี่สาวไปออกรถ โทรศัพท์มาสอบถามสถานะ พร้อมทั้งแจ้งว่าไม่ได้มีการจ่ายชำระเงินค่างวดรถ ซึ่งตอนแรกก็ไม่มีใครเข้าใจว่าเรื่องอะไร จนกระทั่งหลังจากที่เสร็จงานศพไปแล้ว ช่วงเดือนธันวาคม 65 ได้มีเจ้าหน้าที่การเงินหรือไฟแนนซ์ของบริษัทดังกล่าวบุกมาที่บ้าน และถามว่าใครจะเป็นผู้รับมรดก คือ การจ่ายชำระหนี้ต่อ โดยตนเองและคนในครอบครัวไม่มีใครรับเพราะเนื่องจากไม่เคยเห็นรถของพี่สาว จึงไม่รู้ว่าพูดถึงรถอะไร
และช่วงมกราคม 66 เจ้าหน้าที่ของธนาคารก็กลับมาที่บ้านอีกครั้ง โดยมาทวงถามหารถ เพื่อที่จะยึดเพราะขาดจ่าย ซึ่งการมาของเจ้าหน้าที่ก็ไม่เจอรถเพราะเนื่องจากที่บ้านยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่เคยเห็นพี่สาวขับรถเข้ามาที่บ้าน เจ้าหน้าที่ของธนาคารจึงได้เปิดข้อมูลให้ดู พบว่า มีการไปซื้อรถมือสองจากเต็นท์รถแห่งหนึ่งในพื้นที่ดอนตูม โดยเป็นรถกระบะ 4 ประตู มีชื่อของพี่สาวเป็นคนซื้อรถ แต่ทางบ้านก็ยังแปลกใจว่ารถคันดังกล่าวไปไหน จนกระทั่งทราบกระบวนการที่มูลนิธิออกมาแฉ