ตำรวจจับแล้ว 1 ราย คดีทำร้ายหนุ่มลูกครึ่งวัย 17 ปี จนเสียชีวิตที่ จ.ลำปาง ผู้ต้องหารับสารภาพ ขณะที่ยังไม่พบตัวน้องปิงปอง

วันที่ 9 พ.ค. 2566 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับตำรวจชุดคลี่คลายคดี ซึ่งใช้เวลาการประชุมนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.ปิยะ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นในส่วนของพยานหลักฐานที่ตรวจสอบ ประกอบกับคำรับสารภาพของนายชัยวัฒน์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหา ว่าเป็นคนฆ่า "เบน" หนุ่มลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัย 17 ปี ปมเหตุมาจากเรื่องของธุรกิจมืดที่ทั้งคู่มีความขัดแย้งกัน โดยคีดนี้มีการสอบพยานไปแล้ว 7 ปาก คาดจะส่งผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลภายในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเคยมีคดีทางเพศมาแล้ว 2 ครั้ง เพิ่งพ้นโทษมาได้ 8 เดือน

พฤติการณ์เบื้องต้นของผู้ต้องหาคดีนี้ คาดว่าล่อลวงผู้ตายมาในพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนจะใช้อาวุธเป็นของแข็งทุบทำร้าย และนำศพไปทิ้งในจุดที่มีการเจอศพ ส่วนรายละเอียดยังไม่ขอลงรายละเอียด แต่ตำรวจเองยังไม่ปักใจเชื่อว่าทำคนเดียวหรือไม่ เชื่อว่าเป็นการวางแผนและล่อลวงให้ผู้ตายมาเจอก่อนจะลงมือฆ่า อีกทั้งหลังก่อเหตุเสร็จมีการตรวจสอบพบว่า คนก่อเหตุได้พยายามลบหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงตัว เป็นหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์

ส่วนกรณี "น้องปิงปอง" หญิงวัย 16 ปี ที่สูญหาย ตำรวจเจอเบาะแสบางอย่าง ซึ่งทางญาติได้รับข้อมูลมา แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะใช่ข้อมูลจริงหรือไม่ โดยวันพรุ่งนี้ทางตำรวจชุดสืบสวนจะลงพื้นที่แสกนอีกครั้งหนึ่งในจุดที่ใกล้เคียงกับจุดพบศพ

ขณะที่ช่วงบ่าย แม่ของผู้ต้องหาได้เดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ที่ สภ.แม่ทะ ก็ถึงกับเข่าอ่อน เป็นลมล้มพับลงไป เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยแม่ของผู้ก่อเหตุได้แต่ร้องไห้ฟูมฟาย พูดว่าทำไมต้องเป็นลูกชายของตน ทั้งที่ตนเลี้ยงดูมาอย่างดี ทำไมจึงทำเช่นนี้

ด้านภรรยาผู้ต้องหา ที่เพิ่งคบกันมาได้เพียง 4 เดือน เล่าว่า พอจะทราบว่าสามีเคยมีคดีติดตัว แต่ก็พยายามทำใจเห็นว่าหลังจากที่สามีออกจากคุกมาแล้ว ก็ได้นำวิชาชีพที่ติดตัวมา หาเงินเลี้ยงดูครอบครัวมาเป็นอย่างดี ไม่เคยคิดและไม่อยากจะเชื่อว่าสามีจะมาก่อเหตุแบบนี้อีก

และช่วงที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาออกจากห้องขังเพื่อนำตัวไปตรวจร่างกายอีกครั้งนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถามผู้ต้องหาว่ารู้จักกับน้องปิงปองไหม น้องหายไปไหน ผู้ต้องหาได้ตอบเพียงสั้นๆ ยืนยันว่า "ไม่รู้จัก" ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปขึ้นรถ

ส่วนเพื่อนสาวอีกคนที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะนั่งซ้อนสามไปกับเบนและปิงปอง คือ น.ส.มน ทีมข่าวช่อง 8 ได้เจอตัวมน เจ้าตัวเผยว่า ตนกับปิงปองเป็นเพื่อนกัน ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นแฟนหรือคบหากับนายเบนอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะตนมีลูกมีแฟนแล้ว ส่วนปิงปองกับนายเบนนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องเป็นเครือญาติกัน ส่วนตัวเพิ่งรู้จักกับเบนได้ไม่นาน ผ่านการแนะนำจากเพื่อนสองคน ซึ่งปกติตนจะอยู่กับปิงปองสองคน แต่วันนั้นนายเบนและเพื่อนสองคนดังกล่าวได้มาชวนตนและปิงปอง บอกว่าให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน จากนั้นจึงขี่มอเตอร์ไซค์ตามกันมา ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะแยกตัวเข้าบ้าน เหลือเพียงนายเบน ตน และปิงปอง ที่กลับมาเปลี่ยนเอามอเตอร์ไซค์ซ้อนสามกันออกมา เพื่อที่จะไปเอากุญแจมอเตอร์ไซค์อีกคันที่สวนของตา

น.ส.มน ยังบอกอีกว่า หลังทราบข่าวการตายของเบนก็รู้สึกตกใจ แต่ยืนยันว่า ตนไม่เคยรับรู้เรื่องใดๆ จากนายเบนและปิงปองเลย เพราะเขาคุยกันแค่สองคนไม่ยอมบอกอะไรกับตนเลย ส่วนผู้ต้องสงสัยคนแรกที่ตำรวจจับได้ ตนก็ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

ขณะที่ นายจรูญ อายุ 70 ปี ตาของน้องปิงปองที่หายตัวไป ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรถ จยย.ของผู้ตายซึ่งยังจอดอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน และจุดที่ผู้ตายเข้าไปเอาเสียมซึ่งอยู่แปลงผักข้างบ้าน พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เบนและหลานสาวของตนเองมาเที่ยวที่บ้านก่อนที่ต่อมาจะมีคนโทรมาหาเบน โดยเบนบอกว่าคนรู้จักรถติดหล่มและขอให้ไปช่วย เบนจึงเอารถจยย.คันเก่าของตนเองไป พร้อมกับเอาเสียมที่อยู่แปลงผักข้างบ้านไปด้วย โดยมีน้องปองหลานสาวของตนเองซ้อนท้ายไปด้วยกัน ตอนที่ทั้งคู่ออกจากบ้านไปตอนนั้นประมาณทุ่มกว่า หลังจากนั้นก็ติดต่อหลานไม่ได้เลย จนกระทั่งมีคนเจอศพเบน แต่หลานสาวตนเองกลับไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ไม่มีใครทราบชะตากรรม เมื่อวานนี้ตนเองก็ออกตามหาหลานสาวทั้งวันแต่ก็ไม่พบ ตอนนี้อยากเจอหลานสาวมากเพราะว่าเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัย และยอมรับว่า ตอนนี้เครียดมากกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับ

สุดท้าย ตาจรูญน้ำตาซึม ขอวิงวอนเจ้าหน้าที่ช่วยติดตามหลานสาวให้ด้วย

รวบมือฆ่าหนุ่มลูกครึ่ง ไม่ปริปากเรื่องน้องปิงปอง